รอวันนี้มานานสิบกว่าปี ในที่สุดความฝันก็เป็นความจริง กับ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ที่ฝันใฝ่ เลอกไปดูที่ เมเจอร์ สาขา บางกะปิ เพราะว่า บัตรสะสมแต้ม ขาดไป 1 ช่องก็จะได้ข้าวโพดคั่ว 1 ถุงแล้ว เฮ ( จริงๆราคามันแค่ 10 บาทเองอ่ะ แต่อย่างว่า คนมันงก 5555 )
ที่ช่องจำหน่ายตั๋ว มีเราคนเดียวเอง มองไปที่ผังที่นั่ง มีคนดู ไม่ถึง 10 คน นึกในใจ แหม หนังเพิ่งเริ่งฉายวันแรก คนจะมาดูอะไรกันนักหนา เดี๋ยวก็มาน่า ว่าแล้ว เราก็ลงไปกินข้าวที่ ศูนย์อาหารชั้นสองดีกว่า กินก่อน ตอนดูหนังจะได้ไม่หิวข้าว เผลอแป๊บเดียว ใกล้เวลาหนังเข้าแล้ว เพื่อไม่ให้เสียมารยาท เพราะเรานั่งตรงกลางด้วย คนที่มาทีหลังจะได้ไม่ลำบากเราเข้าไปให้ตรงเวลาดีกว่า เราเข้าโรงคนแรกอีกแล้ว หลังจากที่ผ่านด่านตรวจของตรงทางเข้าทีทำเหมือนกับเราเป็นผู้ร้ายขนยาเสพติดข้ามชาติ ค้นซะทุกซอกทุกมุม ดีนะไม่ให้แก้ผ้า ไม่งั้นเราคงแก้ผ้าให้ดู 555
เข้าไปในโรงได้ไม่ทันไร คนก็ทะยอยเข้ามาจนเริ่มหนาตา แต่ก็ไม่เต็มโรงหรอกนะ เรานับได้ประมาณ 50คน ก้ดีแล้วล่ะ คนมากก็หนวกหูมาก โดยเฉพาะคู่ชายหญิงที่นั่งแถวเดียวกับเรา เรานั่งกลาง แต่สองคนนั่น นั่งตรงปลายแถวทางขวามือของเรา ปัญหาคือ ตัวผู้ชาย ไม่รู้เกิดปีอะไร เวลาพูดเสียงดังมาก กระซิบกระซาบอะไรทำไมมันดังไปซะทุกประโยค

ได้ยินไปทั้งแถว ( เราว่าทั้งโรงก็น่าจะได้ยินนะ ) จะหยอกอะไรกํบแฟนก็หยอกให้ได้ยินไปทุกคนในโรง ตอนแรกเรานึกว่าเค้าใส่หูฟังอะไรหรือเปล่า เพราะตัวเราเองเวลาที่เราใส่หูฟัง บางทีเราเองก็เผลอดพูดเสียงดังเหมือนกัน เราพยายามเข้าข้าง แต่ตอนนั้น ไฟยังไม่มือดขนาดมองอะไรไม่เห็นเราถึงได้ข้อสรุปว่า อ้อ แ..ง มันเสียงดังแบบนั้นเอง ( โคตรหนวกหูเลย เฮ้อ )
แต่ช่างมันเหอะ ผีคงเจาะปากมันมา แล้วเอาเนื้อที่เจอาะไปอุดหูมันมั้ง เลยไม่รู้ตัวว่าพูดเสียงดังขนาดไหน หลังเคารพในหลวงแล้ว สมาธิเราทั้งหมดก็จับจ้องไปที่จอหนังด้วยสายตาที่เบิกเต็มที่
ต้องขอบอกว่า สมกับที่เรารอคอยมานาน และไม่ทำให้เราผิดหวังเลย สนุกสุดๆ เราชอบตัวละครทุกตัว ฉากทุกฉาก เนื้อเรื่องทุกตอน ถ้าไม่คิดอะไรมาก มองข้ามเรื่องความสมจริงไป มองข้ามความเว่อร์ไปบ้าง เราว่า เรื่องนี้แหละ คุ้มค่าเงินที่สุดแล้วของปีนี้ ตั้งแต่มกราคม จนถึง สิ้นเดือนพฤษภาคม คงไม่มีเรื่องไหนทำให้เรามันส์ได้เท่านี้อีกแล้ว ( แน่นอน ก็หนังมันฉายปลายพฤษภาคม นี่นา ) เราว่าคนแต่งเรื่องต้องอ่านหนังสือมาเยอะพอสมควรแหละ ถึงได้รู้เรื่องกะโหลกแก้วขนาดนี้ แต่เราว่ามันเป็นกะโหลกคนละอันกับที่เราเคยอ่านมาในหนังสือนะ เพราะกะโหลกอันในหนังนี่ มันเรียวๆ แต่ที่เราเคยเห็ฯรูปในหนังสือนี่มัน ค่อนข้างกลมนะ จะยังไงก็แล้วแต่ เราก็ขอเข้าข้างหนัง ว่า เค้าคงพยายามสร้างให้มันมีที่มาที่ไป เอาเป็นกะโหลกมนุษย์ต่างดาวนี่แหละ ลงตัวที่สุด ซึ่งก็โดนใจเราพอดี

อยากชมดารานิดนึง แฮริสัน ฟอร์ด ทำไมไม่แก่เลย ไม่รู้ไปทำเลเซอร์ที่ยันฮีมาหรือเปล่า หน้าไม่มีรอยยับเลย หล่อเหมือนเดิม ส่วน เคท บลังเชท เป็นดาราที่โคตรเก่งในสายตาเรานะ ไม่ว่าจะแสดงเป็นตัวอะไร ดูเธอจะสามารถสวมวิญญาณให้เราเชื่อได้ทุกครั้งยว่า เธอเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ แน่นอนว่า เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายย่อมมีผลต่อความสมจริงของบทบาท แต่เธอดูเหมือนนนนนนนนนมากกกกกกกกกกกกก ไม่ยักจะเหมือนกับดาราในประเทศของไทยบางคน เราเคยคุยกับเพื่อนๆ ของเรานะว่า ใครๆก็ชื่นชมว่าดาราอาวุโส ของไทยคนเนี้ย เล่นดีโคตรๆ แต่เราดูทีไร เราก็รู้สึกว่า เค้าก็ยัวเป็นเค้า จะเล่นอะไรก็เป็นตัวเค้าเองคนเดิม แค่เปลี่ยนชื่อ กับเสื้อผ้าเอง มันไม่ได้ทำให้เราอินเลยซักกะติ๊ด เออ เอาน่ะ สงสารมาตรฐานของการตัดสินคงไม่เหมือนกัน เราพยายามเข้าข้างอีกแล้ว
หนังยาวพอสมควรนะ น่าจะซัก สองชั่วโมงครึ่ง เรายัวชอบฉากที่มีพวกกลไกต่างๆในปราสาทด้วย ช่างคิดดีจังเลย ตื่นเต้นอีกต่างหาก นอกนั้นก็ยังมีฉากขำๆตามสไตล์ของ ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า ภาคก่อนๆอีกพอเป็นกระสาย

สรุป เราอยากให้เต็มนะ แต่ขอตัดคะแนนเรื่องฉากบู๊นิดนึง อย่างตอนที่ขับรถเลียบหน้าผาดูแล้วภาพมันหลอกๆยังไงก็ไม่รู้ สัต่างกันอย่างชัดเจน ให้เด็กมาดูก็รู้ว่า ตัดต่อ ( แบบห่วยๆด้วยนะ ไม่ปราณีตเลย ) นอกนั้นก็อย่างที่บอกว่า ถูกใจไปหม๊ดดดดดด ตกลงเราให้ 9.6 / 10 ไปเลย
เวปไซท์ทางการ http://www.indianajones.com/เนื้อเรื่องย่อ
กลับมาอีกครั้งกับการผจญภัยในโลกโบราณคดี ทีมของ จอร์จ ลูคัส ได้นำ อินเดียน่า โจนส์ กลับคืนสู่จอยักษ์ เกือบ 20 ปีหลังจาก อินเดียน่า โจนส์ แอนด์ เดอะ ลาส ครูเสต เหตุการ์ณครั้งนี้เกิดขึ้นในปี 1957 อินเดียน่า โจนส์ รับบทโดย แฮริสัน ฟอร์ด ผู้ฉลาดและสูงวัยขึ้นกว่าในภาคก่อนๆ เผชิญหน้ากับสายลับจากโซเวียต เพื่อชิง กระโหลกคริสตอลที่ลึกลับ อินเดียน่า โจนส์ ถูกช่วยไว้โดย คู่รักเก่า เมเรียน เรเวนวู้ด (เคเรน แอลเลน) และเพื่อนคู่หู มัส (ชา เวบูฟ) และเพื่อนนักโบราณคดี แม็ค (เรย์ วินตัน) อินเดียน่า โจนส์ จะออกเดินทางจาก นิว แม็กซิโก คอนเน็ตติกัส และ เข้าไปในป่าเปรู จนไปถึงโรงเก็บของร้างในตอนจบของไรเดอร์ ออฟ เดอะ ลอส อาร์ค ที่ซึ่งสมบัติล้ำค้าถูกซ่อนไว้โดย รัฐบาลอเมริกัน
Indiana Jones and the Kingdom of the Crystal Skull 
การผจญภัยครั้งใหม่ ภาคใหม่ ตอนใหม่ในครั้งนี้ จะพาคุณย้อนกลับไปในดินแดนทะเลทรายทางเซ้าท์อีสต์ ในปี 1957 ช่วงสงครามเย็น เมื่ออินดี้ (แฮริสัน ฟอร์ด) edและเพื่อนซี้ แมค (เรย์ วินสโตน) ซึ่งเกือบจะหนีไม่รอดจากกองกำลังของโซเวียตที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล
และเมื่อหนีเสือกลับมาถึงบ้าน สถานการณ์กลับยิ่งร้ายกว่า เพราะงานที่มาร์แชล คอลเลจก็ถูกคำสั่งเบื้องบนที่บังคับให้คณบดี ซึ่งเป็นเพื่อนของเขาเอง ต้องเซ็นชื่อเชิญเขาออกจากงาน อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมา
ต่อมาอินดี้ได้พบกับเด็กหนุ่มชื่อ มัตต์ (ไชอา ลาบัฟ) เพื่อออกตาหาสมบัติล้ำค่าทางโบราณคดีที่ใครๆก็สนใจ นั่นคือ กะโหลกแก้วแห่งอเคเทอร์ วัตถุโบราณในตำนานอันน่าพิศวง ลึกลับ และน่าสพรึงกลัว
แต่เมื่อคู่หูต่างวัย อินดี้ และ มัตต์ ตามล่าหาสมบัติไปถึงเปรู ดินแดนแห่งขุมสมบัติโบราณ ที่ร่ำลือกันว่าเป็นดินแดนแห่งทองคำ พวกเขาก็พบกับเพื่อนร่วมทางที่ไม่ได้รับเชิญ พวกสายลับโซเวียตที่นำทีมโดยสาวสวยผู้โหดเหี้ยมเลือดเย็น อิริน่า สปัลโก (เคต แบลนเชตต์) ซึ่งออกตามหากะโหลกแก้วอย่างพลิกแผ่นดิน ด้วยความเชื่อที่ว่ามันจะช่วยให้โซเวียตครองโลกได้ อินดี้ และ มัตต์ พร้อมด้วยพลพรรคหน้าคุ้น จึงต้องหาทางหนีจากพวกโซเวียตและตามหากะโหลกแก้วให้พบ เพื่อเก็บรักษามันให้พ้นจากเงื้อมมือพวกประสงค์ร้าย
