
วันนี้เราเปลี่ยนบรรยากาศ จากการดูหนัง มาหาความรู้ด้วยการไปเที่ยวดูดาวที่ ท้องฟ้าจำลอง เอกมัย ดีกว่า จริงๆแล้ว เมื่อวันพืชมงคลเรามาทีนึงแล้ว แต่ว่าเค้าปิด เพราะตรงกับวันหยุดราชการ ( จริงๆเราก็รู้แหละว่า วันนั้นเป็นวันหยุดราชการ เพราะเราไม่แน่ใจไง ก็ตอนเด็กๆ วันพืชมงคล เรายังเรียนหนังสือเลย แสดงว่า ราชการคงไม่ปิด นี่ เราคิดเข้าข้างตัวเองอย่างนี้ ) ไม่เป็นไร แล้วก็แล้วกันไป วันนี้เราเอากล้องมาด้วย เราว่าจะถ่ายภาพเอาไว้เป็นหลักฐานซะเลย 5555

ไปถึงตอน 9.55 น รีบไปตีตั๋ว ( กลัวไม่ได้ดูจัด อ๋อ แน่ละ ก็มันมาลำบากเหลือเกิน นั่งรถตั้งหลายต่อ) เค้าบอกว่า รอบ 10.00 นี่เป็นรอบสำหรับนักเรียน เพราะฉะนั้นเลยต้องไปดูรอบ 11.00 น แทน โอเค ไม่มีปัญหา ตีตั๋วเลยครับ ดีซะอีก เราจะได้มีเวลาว่สงเดินไปซื้อกล้วยปิ้งเจ้าเก่าที่แสนอร่อยหน้าร้านลูกเสือ ( แปลกใจไม่มีแม่ช้อยมาชิมแฮะ เราว่า อร่อยมากๆ ไม่แพงด้วย ) ซื้อเสร็จก็ข้ามถนนไปร้านแม็คโดนัล ที่ฝั่งเมเจอร์ ไปเอา Daily Xpress มาเล่น ซุโดกุ ลับสมองซะหน่อย แล้วก็ข้ามถนนกลับมาที่โรงอาหารในท้องฟ้าจำลองที่แสนอร่อย และ ถูกแสนถูก เรามีเจ้าประจำ ที่ต้องมากินทุกครั้งเลย คือ เจ้าอาหารตามสั่ง ที่นี่ไม่ยักจะมีชื่อร้านแฮะ เราสั่งเลย ( เราชอบสั่งเมนู ที่แม่ค้างงอ่ะ 555 ) อย่างวันนี้ เราบอกแม่ค้าว่า ขอมาม่าตัดคะน้าหมูเค็มใส่ไข่ สองฟอง นะครับ แม่ค้าหายงงแล้วรีบไปทำ แต่ว่าไปเค้าคงไม่งงหรอก เพราะมาแต่ละทีเราสั่งไม่ค่อยซ้ำ ( ไม่ซ้ำตัวเอง และไมซ้ำคนอื่นด้วย 55555) 40 บาท เราว่าไม่แพงสำหรับวัตถุดิบทั้งหมด ( ถ้าสั่งธรรมดาก็ 25 บาทเอง ) ไปซื้อ ชาดำเย็น ที่ร้านขวามือสุดด้วย เสียดายลืมถ่ายรูปให้ดู ว่าแก้วใหญ่ขนาดไหน ไม่อยากเชื่อว่าดูดีขนาดนี้ แก้วใหญ่ขนาดนี้ 10

บาทเองอ่ะ มานั่งกินที่โต๊ะ แหม อร่อย รสมือไม่ตกเลย อร่อยจังฮู้
กินยังไม่ทันหมดจาน ก็ได้ยินเสียง ปชส เสียงเพราะประกาศว่า ท่านที่สนใจชมนิทรรศการดูดาว ที่ท้องฟ้าจำลองของเรา ขณะนี้ ตั๋วได้เปิดจำหน่ายแล้วที่ห้องขายตั๋วค่ะ ( นึกในใจ ซื้อแล้ว ซื้อแล้ว ) นั่งเล่นซูโดกุ ซักพัก เพิ่งจะ 10.30 เอง ฝนก็ตกซู่ลงมา เฮ้ย แล้วนี่เราจะวิ่งไปยังไงล่ะเนี่ย ถ้าอีกสักพัก ฝนไม่หยุดตก สงสัยต้องยอมเปียกวิ่งตากฝนไป จริงแล้วก็ไม่ไกล ซัก 30 เมตรเอง
เมื่ออยากวิ่งตากฝน ก็เลยได้วิ่งตากฝนสมใจ กลัวไม่ทันเวลาฉาย อ้อ ลืมบอกไปว่า วันนี้ เค้าแสดงเรื่อง ดูดาวเล่านิทาน หัวข้อน่าสนใจ ฟังดูโรแมนติกดีจังหลังจากฉีกตั๋วเข้าไปหาที่นั่งในโรงแล้ว เราเลือกที่นั่งด้านทิศเหนือ เพราะเป็นทิศเดียวกับที่คนพากษ์อยู่ จะได้ดูดาวถนัดๆหน่อย ที่จอมีภาพนิ่งฉายเตือนคนดูว่า ห้ามถ่ายภาพ เพราะแสงแฟลช รบกวนคนอื่น เอนกายลงซักพัก

ก็มีคนทะยอยกันเข้ามา นับได้ทั้งหมด 15 คน แสดงว่ารอบนี้เก็บตังได้ทั้งหมดไม่เกิน 300บาท ( ก็คนละ 20 บาทเอง ) พอเสีงคนพากษ์เริ่มขึ้น ความรู้สึกตอนเป็นเด็กของเราก็นั่งไทม์แมชชีนกลับมาในสมองของเรา ตั้งแต่เรายังเด็กๆ ตอนเรียนอยู่โรงเรียนวัดพลับพลาชัย วึ่งเป็นครั้งแรกที่เราได้มาเยี่ยมที่นี่ จากนั้นเราก็มาเรื่อยๆ ว่างเมื่อไหร่ก็มา เพื่อมาเติมพลังชีวิต ในเมื่อเราไม่มีปัญญาไปดูดาวที่ ตจว ก็ขอดูที่ท้องฟ้าจำลองก็แล้วกัน 5555
โอ้โฮ ดาวเต็มท้องฟ้าเลย สวยจริงๆ แต่คราวนี้ เค้าไม่ยักจะให้ดูดาวแบบฟ้ามืดสนิมแฮะ ( จะสวยมากที่สุดเลยล่ะ ) เพราะเค้าจะมีภาาพยนต์เกี่ยวกับนิทานดวงดาวให้ดูอีก ใช้เวลาตั้งเกือบ 40 นาที

มันก็เลยเบียดเวลาของการดูดาวออกไป แทนที่จะได้ดูดาวเนื้อๆ ก็เลยได้ดูหนัง สลับกับ ภาพนิ่งแทน แต่ก็ไม่ผิดหวังเท่าไหร่ เพราะนิทานที่เล่าสนุกมาก มีเรื่องCrash of the Titans ด้วย เป็นหนังโปรดของเราเลย เล่าถึงตำนาน นางกอร์กอนเมดูซ่า สนุกดี ชอบมากๆ แล้วก็มีตำนาน ดวงจันทร์ยูโรปา ดาวหมีเล็กหมีใหญ่ ฯลฯ
สรุป เราให้คะแนนการดูดาวครั้งนี้ 7 / 10 เมื่อเทียบกับการดูดาวที่ผ่านๆมา เพราะว่า เสียเวลาไปกบการดูสไลด์ซะเยอะ จริงๆแล้วเค้าน่าจะเล่าเรื่องเด่นๆซักเรื่องสองเรื่องที่เหลือ น่าจะแจกเป็นแผ่นพับพร้อมรูปประกอบให้อ่านเอง หรือ จะทเป็นหนังสือขายก็ได้เราซื้อแน่ๆ แล้วก็ฉายดาวให้ดูให้เต็มอิ่มกว่านี้หน่อย ดาวคืนเดือนมือก็เลยอดฉายเลย เสียดายจัง ยังไงก็แล้วแต่ เราก็ยังได้ความสุขใจกลับไป คุ้มกับเงิน 20 บาท ถึงแม้จะเหมือนได้กินข้าวไม่เต็มจานก็เหอะ
http://www.bangkokplanetarium.com/Labels: Exhibition, Planetarium