
เปิดหนังสือพิมพ์ดูโปรแกรมหนังเจอ ภาพยนตร์รางวัล เรื่อง Counterfeiter ซึ่งจัดฉายที่ สกาล่า อยากบอกว่า คิดถึงโรงหนัง สกาล่า สยามสแควร์ มากถึงมากที่สุด เพราะเป็นโรงหนัง Stand Alone ยุคแรกๆของกรุงเทพ ไม่แน่ใจว่า นอกจากโรงนี้แล้ว ยังเหลือ ที่ไหนอยู่อีกบ้าง ( ที่เป็นโรงหนังชั้นหนึ่งนะ ชั้นสองไม่นับ 5555 )
ออกกำลังกายเสร็จ ก็รีบไปนั่งรถเมล์สาย 38 เจ้าประจำ ที่ต้องผ่าน เอกมัย พระโขนง อโศก ประตูน้ำ ฯลฯ นั่งเบาะยาวด้านหน้ารถเลย วันนี้แดดไม่ร้อน เรียกว่า ไม่มีแดดเลยก็ว่าได้ รถก็ไม่ติดเหมือนทุกวันด้วย ดีเลย แบบนี้จะได้ถึงสยามเร็วหน่อย วางแผนไว้ว่า วันนี้อยากกิน Sizzler เพราะอยากกินผัก หมู่นี้ เป็นอะไรก็ไม่รู้ ไม่ค่อยอยากกินเนื้อสัตว์เท่าไหร่ สงสัยแก่แล้ว 5555 นั่งรถเมล์ฟังวิทยุจาก MP3 มาตลอดทาง ก็ฟังช่อง 96.5 ประจำอยู่แล้ว ไม่เคยเปลี่ยนช่องมา 3 ปี แล้ว ก็รายการเค้าดี มีสาระ วันนี้ เค้าพูดเรื่องหุ้น พอดีเลย ฟังแล้วแทนที่จะดีใจ กลับเซ็งหนักเข้าไปอีก ก็หุ้นตกกันระนาว ที่กลุ้มก็เพราะมีเงินลงทุนไว้นิดหน่อย ไม่กี่ล้าน 5555 ( พูดเล่นนะ ) ฟังไปฟังมา ซักพัก พอถึงอโศก เฮ้ย ทำไมรถติดวะ อาการปวดหัวก็เริ่มกำเริบอีกละ ( โรคประจำตัวครับ ถ้ากินข้าวสาย หรือ ไม่ตรงเวลา จะปวดหัวทุกครั้งเลย แถมวันนี้ ออกกำลังกายมาด้วย ร่างกายอาจต้องการ อาหารไปเลี้ยงสมองมากหน่อย เฮ้อ สงสัยแก่จริงๆด้วยเราเนี่ย แต่ก็ฝืนไม่กินยา เพราะอาจารย์ที่คณะเภสัชฯสอนมาดีมาก เราก็เลย ทำตัวเป็นเภสัชกรที่ดี เชื่อฟังครูบาอาจารย์ แต่อาจารย์ไม่ได้สอนว่า อย่ากินยานะ ท่านสอนว่า ยาทุกตัวกินไปรักษาอาการก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ทำลายอวัยวะภายในด้วยนะ โดยเฉพาะตับ ที่ทำหน้าที่ในการฟอกสารพิษ เกิดอันตรายได้ง่ายที่สุดเลย )
ตัดสินใจกระโดลงรถเมล์ที่อโศกที่แหละ แล้วไปนั่ง BTS ไปลงชิดลมดีกว่า แวะกิน Sizzler ที่ World Trade ก็ได้ เออ ดีดี บอกตัวเองอย่างนั้น ไปถึงก็สั่งเลย เอาสเต็กปลา ( เพราะถูกสุด 169 บาทเอง 555 ) แล้วก้รีบไปตักสลัดมากิน โอ้โฮ เมนูหลากหลายมาก มีเมนูหนึ่งที่เราชอบกินมาก คือ สลัดปูอัด แต่เราว่า สงสัยคนชอบกินมาก เลยต้องลดต้นทุน เอาปูอัด คุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มาทำ ( แต่ก็พอกินได้ ไม่เหมือนปูอัดตามตลาดนัด ที่มีแต่แป้งชุบสี กัดไปรู้สึกเลยว่า กินแป้งมันอยู่ อ้อ มีกลิ่นปูนิดนึง ) แต่ที่เราชอบสุดๆ คือ สลัดกุ้ง นี่ มีกุ้งให้กินด้วยงวดนี้ ค่อยคุ้มค่าเงิน หน่อย เราเลยตักซะเต็มคราบ กินไปกินมาด้วยความงก แต่เชื่อมั๊ยว่า เราตักสองรอบ เราก็อิ่มแล้ว ไม่รู้ทำไมกินไม่ค่อยลง สงสัยเหนื่อยเกินไปรึเปล่าก็ไม่รู้ แถมปวดหัวอีกต่างหาก สงสัยเข้าข่าย Hypoglycemia ( อาการน้ำตาลในเลือดลดลงกะทันหัน ) ตอนแรกเรานึกว่ากินข้าวแล้วจะหายไม่หายแฮะ เออ ช่างเหอะ ไม่เอาแล้วน้องเสต็กปลา เอาเป็นคิดค่าสลัดอย่างเดียวละกัน 139 บาท
หิวน้ำแฮะ ตะกี้เราไม่ได้สั่งน้ำมากินเลย เพื่อความประหยัด ตอนนี้ก็ยังไม่เที่ยงเลย เราไปแวะที่ The Library ที่ชั้นสี่ดีกว่า เรามีบัตรสมาชิกที่นั่น มีน้ำส้มกับขนมให้กินฟรีด้วย ว่าแล้วก็ลงบันไดเลื่อนไปสองชั้น รีบไปจองโต๊ะเล่น อินเตอร์เน็ตก่อน วันนี้ไม่มีคนเลย ทุกทีต้องแย่งกันอย่างกับเก้าอี้ดนตรี แล้วก็เดินไปหยิบคุกกี้มากินเล่น 5-6 ชิ้น เอาน้ำส้มมากินแก้วนึง นึกว่าน้ำตาลในขนมจะทำให้หายปวดหัวได้ ไม่ได้ช่วยเล้ย เล่นเน็ตซักพักก็ใกล้เที่ยงแล้ว เราต้องรีบไปตีตั๋ว เดี๋ยวไม่ทันหนังฉาย
ไม่ต้องแปลกใจว่าจะเดินไปหรือไร เราเดินแบบนี้แหละ ส บ ม ย ห แต่ตอนนี้ฝนเริ่มตกปรอยๆแล้ว มิน่าอากาศมันถึงได้ร้อนอบอ้าวเหลือเกิน เดินไปเสื้อผ้าก็เปียกไปหมด ทั้งฝนทั้งเหงื่อ ( ทุเรศตัวเองจริงๆ ) ถึงโรงหนังตอนเที่ยง สิบนาทีพอดีเป๊ะ หนังเข้าพอดี เลย ว่าแต่เฮ้ย ไม่มีคนดูเลยว่ะ ทั้งโรงมี 10 คนเอง
ช่วงที่เรารอหนังฉาย เราก็หันหน้ามองไปรอบๆ มีคนนั่งกระจายไปทั้งโรง เรานับที่นั่งได้ทั้งหมด ประมาณ 700-800 ที่นั่ง นะ โรงใหญ่มาก เราชอบบรรยากาศในโรงนี้อ่ะ เราว่า ใกล้เคียงกับ Pavalai ที่ Paragon เลยนะ ( ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง ) ความทรงจำต่างๆสมัยเราเรียนอยู่ที่คณะ เภสัชฯ เริ่มกลับมา นึกถึงวันที่เรากระโดดเรียน มานั่งดุหนังกับเพื่อนๆ แล้วอยากให้มี Time Machine จะได้ย้อนเวลากลับไป แหม มีความสุขมาก ตอนนั้นรู้สึกตั๋วใบละ 30 บาทเองมั๊ง

สักพัก ก็ถึงเวลาถวายความเคารพ ตอนนี้แหละเป็นเวลา ที่เราจะได้สังเกตคนดู ตอนที่เพลงร้องว่า “ดุจจะถวายชัย ชโย “ เราเห็นฝรั่งสองสามีภรรยา ( เดาเอาว่า เค้า เป็นแฟนกัน ) อยู่ตรงกลางๆโรง ยืนตรงมากๆอยู่อย่างนั้น จนเพลงจบ แล้ว พระบรมฉายาลักษณ์ หายไปจากจอแล้วถึงได้นั่งลง เรานึกชื่นชมอยู่ในใจว่า ทำไม คนไทยเจ้าของประเทศเองแท้ ถึงได้ไม่รู้จักธรรมเนียมการถวายความเคารพเลย นี่เค้าเป็นฝรั่งแท้ๆ เค้ายังให้เกียรตฺกษัตริย์ของเรามากกว่าคนบางคนซะอีก เฮ้อ ( ขอถอนหายใจอีกที )
ต้องขอบอกว่า เราเข้าใจผิดแต่แรก นึกว่า เรื่องนี้ จะมี เบน เอฟเฟล็ก แสดง เพราะตอนมองโปสเตอร์เรื่องนี้ เราเห็นหน้าดารานำ เรานึกว่าใช่ ที่ไหนได้ ดูไปดูมา หนังเยอรมันนี่หว่า พูดภาษาเยอรมันทั้งเรื่องเลย ถ้าใครหวังว่า จะมาดูอะไร หล่อๆสวยๆ หรือ วิว ที่มัน เจริญหูเจริญตา จากหนังเรื่องนี้ ขอบอกได้เลยว่า มาผิดเรื่อง ทั้งเรื่อง มีแต่การทารุณกรรมนักโทษ การรังแก การประหาร มีแต่ความรุนแรง เนื้อเรื่องเกี่ยวข้องกับผู้ชายชาวยิวคนนึง ในเยอรมันที่ถูก จับตัวไปโดยทหารเยอรมัน เพื่อให้ไปทำการปลอมแปลงธนบัตรสกุล ดอลล่าร์ และ ปอนด์เสเตอลิง เนื่องจาก ชายคนนี้ มีฝีมือในการวาดรูปและ ปลอมแปลงเอกสารได้แนบเนียนมาก ซึ่งเป็นแผนการในการที่จะทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศมหาอำนาจทั้งสองลง ระหว่างเรื่องก็จะแสดงให้เห็นถึง ความป่าเถื่อนของทหารประเทศเยอรมัน ว่า ปฏิบัติต่อ เชลยชาวยิวอย่างไรบ้าง ใครเคยดู ชินเลอร์ส์ลิสท์ คงนึกภาพออก ยิงหัวกบาลกันเห็นๆ
สิ่งที่เราได้รับโดยตรงจากหนังเรื่องนี้ คือ ได้เห็นว่า มนุษย์ปฏิบัติต่อกันได้โหดร้ายเพียงใด ได้รู้ว่า คนเยอรมัน โคตรโหดขนาดไหน ( ชาตินี้ ขอไม่มีเพื่อนเป็นชาวเยอรมันโดยเด็ดขาด 555 เค้าก็คงไม่อยากได้เราเป็นเพื่อนเหมือนกันแหละ 5555 ) แล้วก็แผนการทำลายระบบเศรษฐกิจ แบบนี้ ไม่รู้ว่า คิดได้ไง สมองโคตรใส

สรุป เราให้ 7 / 10 สำหรับความสมจริงของหนัง และตัวแสดง ที่เล่นได้ดีสมบทบาทมาก เนื้อเรื่องก็กระชับ สามารถแสดงให้เราเห็นถึงความเป็นไปได้อย่างเข้าใจง่าย สามารถเข้าใจเหตุการร์ที่เกิดขึ้นได้อย่างสมจริงสมจังเหมือนอยู่ในเหตุการร์เลย ( โคตรเครียดเลย) แต่เราไม่ชอบอย่างนึงคือ ตัวแสดง ทำไมไม่หาคนที่หน้าตาดูดีกว่านี้หน่อย ทั้งเรื่องไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย ไม่มีคนไหนหน้าตาดูดีซักคน หรือว่า คนในประเทศนี้ ไม่มีคนหน้าตาดีเลยหรือไงเนี่ย
เรื่องย่อจากเวป
http://www.showded.com/ซาโลมอน "แซลลี่" โซโรวิตส์ช (คาร์ล มาร์โกวิชส์)เป็นจ้าวแห่งการทำของเลียนแบบเขาใช้ชีวิตอันเลวร้ายอยู่กับไพ่ เหล้า และผู้หญิงในกรุงเบอร์ลินสมัยนาซีเรืองอำนาจโชคของเขาต้องหมดลงในฉับพลันเมื่อถูก ฟรีดริช เฮอร์ซอก (เดวิด สไตรโซว์) เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงจับกุมและถูกนำตัวไปยังค่ายกักกันเมาธอเซนในทันที
ซาโลมอนแสดงความสามารถอันยอดเยี่ยมที่นั่นและไม่นานเขาก็ถูกส่งตัวไปค่ายกักกันที่ดีกว่าอย่างซซัชเซนเฮาเซนเมื่อมาถึงค่ายเขาได้พบกับเฮอร์ซอกซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจลับอีกครั้งหนึ่งซาโลมอนที่ถูกเลือกมาด้วยความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์ร่วมด้วยกลุ่มของผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายถูกบังคับให้ผลิตเงินต่างประเทศปลอมภายใต้ชื่อปฏิบัติการเบอร์ฮาร์ด
กลุ่มของซาโลมอนและผู้ถูกกักขังอยู่ที่ค่ายอย่างอดอล์ฟ
เบอร์เกอร์ (ออกัสต์ดีลฮ์)ได้อยู่ในโรงเรือนอันเลิศหรูจากการให้ความช่วยเหลือแก่ทางการแต่ขณะที่ซาโลมอนพยายามทำลายเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศสัมพันธมิตรซึ่งเป็นศัตรูของเยอรมนีอดอล์ฟกลับปฏิเสธที่จะใช้ความสามารถของเขาเพื่อผลประโยชน์ของนาซีและเขายังต้องการจะทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งปฏิบัติการเบิร์นฮาร์ดที่มีส่วนช่วยสนับสนุนสงครามเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทางเลือกด้านศีลธรรมซาโลมอนต้องตัดสินใจกับการกระทำของตนเองซึ่งสามารถยืดเวลาของสงครามและความเสี่ยงของชีวิตเพื่อนๆนักโทษของเขาออกไปได้ท้ายที่สุดแล้วทางที่ถูกต้องนั้นมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น