
ได้ตั๋วฟรีเรื่องนี้มาให้ไปดูในเครือเมเจอร์ ตัดสินใจไปดูวันอาทิตย์ตอนเย็นที่โรงเมเจอร์รัชโยธิน คนเยอะมากกกกกกกกกกกกๆๆๆ ที่เยอะไม่ใช่มาดูหนังเรื่องนี้หรอก แต่คนเข้าคิวรอซื้อตั๋ว เฉินหลง กับ เจ็ทลี เรื่อง The Unforbidden Kingdom ตะหาก เราก็เข้าคิวรอ นานมากกว่าจะได้ซื้อตั๋ว ( เกือบ ครึ่งชั่วโมง หย่อนไปแค่ไม่กี่วิเท่านั้น )
ถึงเคาเตอร์ขายตั๋ว คนขายบอกว่า ตั๋วฟรีที่ได้มาไม่สามารถดูโรงนี้ได้นะคะ เพราะว่าเป็นโรงดิจิตอล เรางี้จ๋อยเลย เลยคุยกับน้องเค้าว่า ขอดูเหอะ มาตั้งไกลแล้วก็เข้าคิวตั้งนานแล้ว นะ นะ นะ น้องเค้าก็มองหน้านิดนึง เรารีบทำหน้าสลด ซักครู่นะคะน้องเค้าบอก ซักพักก็พาผู้จัดการออกมา ผู้จัดการนนั้นก็แสนใจดี บอกว่า โอเค ให้ลูกค้าดูได้ เรารีบจิ้มไปที่ที่นั่งกลางโรง แอบมองไปในผังที่นั่ง โรงหนังโล๊งโล่ง มีคนดูซัก 20 คนเห็นจะได้ ( นึกในใจว่าสงสัย ตั๋วจะแพง )

โรงใหญ่มาก ดูโหรงเหรงไปเลย
เราเดินไปซื้อไส้กรอกที่ 7-11 ข้างๆโรงที่เพิ่งเปิดร้านได้ไม่นาน ( อ๋อ เรารู้สิ เพราะเราเห็น 7-11 สาขานี้มาตั้งแต่ยังไม่สร้าง นี่เปิดมาได้ไม่ถึงเดือนเลย ) คิวยาวอีกแล้วแต่รอไม่นานเท่ากับรอซื้อตั๋ว ซักพักเราก็ได้กิน เรารีบดินกลับไปที่โรงหนัง นึกกระหยิ่มในใจว่า ดีใจเอ๋ย ดีใจจัง วันนี้จะได้ดูหนังดิจิตอลแล้ว เฮ
เราเข้าไปตอนที่หนังกำลังขึ้นโลโก้ พอดีเลย แค่ขึ้นไตเติ้ลมา ก็ตื่นตาตื่นใจแล้ว แหมภาพสวยเหลือเกิน สวยจริงๆ สีแดงเป็นแดง เขียวเป็นเขียว ภาพคมกริบ นึกในใจว่าเฮ้บ นี่ถ้าเราดูภาพสวยขนาดนี้แล้วอีกหน่อยเราจะกลับไปดูหนังธรรมดาได้

หรือวะเนี่ย ภาพสวยจริงๆ ( แหม ชมไม่ขาดปาก )
สักพักก็ได้เรื่อง เพราะเราชักจะไม่ค่อยเอ็นจอย กับ ตัวละครและ เนื้องเรื่องซะแล้ว มันเป็นเรื่องของช้างตัวใหญ่ๆ ที่ไปเจอโลกเล็กๆของสิ่งมีชีวิตหน้าตาคล้ายๆหนูในเกสรดอกไม้อ่ะ ทั้งเรื่องก็เป็นเรื่องของการที่ช้างไปช่วยเหลือเกสรที่ว่า เนื้อเรื่องเราว่าให้ข้อคิดดีอยู่หรอก อย่างเช่น เมตตาธรรมค้ำชูโลก ฯลฯ แต่เราพูดตรงๆนะ เราไม่ชอบดีไซน์ คาแรคเตอร์ ของตัวละครในเรื่องเลย ดูพิกลพิการยังไงชอบกล เราเดาว่า คงมาจากการที่ เค้าพยายามเอา

โครงร่างของคาแรคเตอร์เก่าตอนที่เป็นหนังสือการ์ตูนเด็กมาเป็นต้นแบบ ( เราเอาภาพมาให้ดูด้วยแล้ว วาดไม่สวยเลย ) เพราะฉะนั้น พอต้นแบบไม่สวยมันก็เลยพาลไม่สวยไปหมดเลย แต่จริงๆเราว่าคนที่คิดเอามาสร้างเนี่ยน่าจะสามารถทำให้ดีกว่านี้ได้นะ ไม่น่ายึดติดต้นแบบมากเกินไปเลย โธ่
นอกนั้น คงต้องชมเรื่องความละเอียดของภาพ ฉากต่างๆ ดได้สวยสดงดงาม ตืนตาตื่นใจจริงๆ ถ้าไม่ติดที่เนื้อเรื่องเด็กไปนิดนึง ( แต่สอนดีนะ เหมือนสอนผู้ใหญ่ แปลกๆดีล่ะ ) แล้วก็ตัวละครไม่น่ารักเท่าที่เราคาดไว้ แล้ว ก็เป็นหนังที่พอใช้ได้ เรื่องนึง
สรุป ในสายตาเราเราคงให้สอบตกอ่ะ 4.8 / 10 เพราะนอกจากฉากแล้ว เราไม่ได้ดูตัวละครเท่าไหร่เลย เห็นบอกว่า เดิมเป็นนิทานเด็กที่โด่งดังมากๆ เลยเอามาทำเป็นเวอร์ชั่นการ์นแอนนิเมชั่น โดยให้จิมแครี่มาพากษ์อีก ( นึกหน้าตอนพากษ์แล้วรำคาญ ทำปากเบี้ยว มือหงิก ทำได้ไงเนี่ย ) แต่ถ้าไม่ใช่คนนี้พากษ์ก็ไม่รู้จะไปเอาใครมาพากษ์ เฮ้อ ดูไปถอนใจไป

อยากให้จบเร็วๆ ทำให้เราคิดได้ว่า ไม่ใช่ว่าหนังสือดังแล้วเอามาสร้างหนังจะดังได้นะ ดูเรื่องนี้เป็นตัวอยาง มิน่า ไม่มีคนดูเลย
เนื้อเรื่องย่อ จาก
http://www.nangdee.com/ ฮอร์ตัน (พากษ์เสียงโดย จิม แคร์รี่) จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือแว่วมาจากผงฝุ่นที่ลอยละล่องผ่านอากาศไป แม้ฮอร์ตันจะยังไม่รู้ว่า ผงฝุ่นนั้นมีเมืองชื่อ ฮูวิล อันเป็นโลกทั้งใบของ ชาวฮู สิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วอาศัยอยู่ โดยมีเมเยอร์ (พากษ์เสียงโดย คาเรล) เป็นผู้นำของชาวเมืองแห่งนี้ แม้จะเป็นที่ขบขันและเขม่นจากเพื่อนร่วมป่า ที่คิดว่าช้างใหญ่เสียสติไปแล้ว ฮอร์ตันกลับปฏิญาณที่จะปกป้องคุ้มครองผงฝุ่นน้อย ๆ...เพราะ “สิ่งมีชีวิตก็คือสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเล็กจิ๋วเพียงใดก็ตาม”

เวปไซท์ โดยตรงของภาพยนต์เรื่องนี้
http://www.hortonhearsawho.net/Labels: Animation, International Movie, Jim Carrey