มีโอกาสไปเดินเล่นที่เดอะมอลลบางกะปิเมื่อบ่ายวันนี้ พอดีเค้าจัดรายการ โปรโมชั่น กับร่านขายวีซีดี มี ดีวีดี ด้วย ก็เดินเข้าไปดูแบบไม่มีเป้าหมายว่าจะซื้อะไร ก็เล็งๆหนังดีดี ไว้ เรื่องสองเรื่อง เราไปเลือกตรงกองที่ราคาถูกๆตามสไตล์คนประหยัด ( ขี้เหนียว ) ฉับพลันสายตาก็มองไปเห็นหนังเรื่องนึงเค้า แค่ปกดีวีดี และชื่อเรื่องก้ทำให้ความคิดของเราย้อนกลับไปเมื่อ สองปีก่อนที่ สยามพารากอน ราวกับนั่งไทม์แมชชีนกลับไปไวเหมือนโกหก หนังเรื่องนั้นมีชื่อว่า Sunflower
ต้องบริหารเวลาด้วยว่า ดูยังไงให้ได้จำนวนมากที่สุด ) จำได้ว่า เราไปที่นั่นตั้งแต่ เช้าเลย เพื่อจัดตารางเวลาว่า จะเลือกดูเรื่องอะไรบ้าง ขนาดกินข้าวเรายั้งต้องคิดเลฃว่า วันนั้นจะกินอะไร แล้วก็ซื้อเก็บไว้ในกระเป๋า เพื่อเอาเข้าไปกินในโรง ส่วนใหญ่ก็เป็นพวก แฮมเบอร์เกอร์ แซนวิช ไก่ทอด เปาะเปี๊ย ฯลฯ พวกนี้แหละ เพราะหยิบง่าย กินสะดวก ที่ขาดไม่ได้เลยคือน้ำเปล่า และน้ำอัดลมกระป๋อง ตุนเข้าไปเลย 2-3 กระป๋อง ขาดไม่ได้เลย


แผ่นดินใหญ่ ดาราที่แสดงเราไม่รู้จัก ไม่คุ้นหน้าเลยสักคน เรื่องราวเป็นเรื่องของ พ่อแม่ลูก ในเขตชานเมือง พ่อของครอบครัวต้องจากครอบครัวไปรับใช้ชาตตั้งแต่ลูกเกิด ปล่อยให้ แม่เลี้ยงลูกจนอายุซัก 7-8 ขวบ พอพ่อกลับมา ซึ่งความผูกพันก็ไม่ค่อยดีนัก พ่อซึ่งแต่เดิมเป็นนักเขียน หลังจากกลับมาคราวนี้แล้ว ความสามารถทางการวาดรูปของพ่อเสียไป ความหวังของพ่อจึงทุ่มมาที่ลูกชายคนเดียวอย่างเต็มที่ พยายามเคี่ยวเข็ย จนลูกวาดรูปเก่ง ท้านที่สุด ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นนักวาดรูปชื่อดัง มีงานแสดงภาพเป็นของตัวเอง น่คือเนื้อเรื่องคร่าวๆ ฟังดูแค่นี้ ก็เอ๊ะ ก็ดีนี่ ชีวิตก็ราบรื่นดี แต่ถ้าคนที่มาจากครอบครัวคนจีนจะทราบดีว่า
พ่อแม่ในครอบครัวคนจีน ( ในประเทศไทยเองก็เถอะ ) ค่อนข้างที่จะขีด
เส้นกรอบความคิดของลูก พ่อแม่มีสิทธิ์ที่จะบังคับลูกให้ทำอะไร
ก็ได้ ( วัฒนธรรมจีนเก่าๆ เป็นอย่างนี้ จริงๆ ) มีฉากที่สะเทือนใจหลายฉาก เช่นฉากที่ลูกพยายามแอนตี้พ่อ โดยการเอามือไปขูดกับกำแพง เพื่อให้มือบาดเจ็บจะได้ใม่ต้องวาดรูป หรือ ตอนที่ลูกชายพยายามเอามือเข้าไปในจักรเย็บผ้า เพื่อให้เข็มผ้าเย็บมือ จนในที่สุด เจ้าลูกชายเอามือไปกำประทัดยักษ์ เพื่อให้มือเละ จะได้ไม่ต้องถูกพ่อเคี่ยวเข็ญอีก
ษาจีนกลาง ก็ฟังออกบ้างนะ แต่เพื่อ
ความชัวร์ เอามันทั้งสองภาษาเลย) ตอนจบนดู ซึ่งเป็นฝรั่งส่วนใหญ่ ตบมือกันให้ก้องทั้งโรงเลย เราก็ตบไปด้วย สมควรได้รับการตบมือจริงๆแหละ นี่แหละ เราถึงชอบบรรยากาศของการดูหนัง รู้สึกมันมีส่วนร่วมกันกับคนดูนอื่นๆ ดีกว่าดูดีวีดี อยู่ที่บ้านคนเดียว เซ็งแย่เลย 

ปี 1976 มรณกรรมของเหมาเจ๋อตุงนำมาซึ่งจุดจบของแก๊งสี่คน เก็งเหนียน เป็นจิตรกรที่ใช้แรงงานหลายปีในค่ายกักกัน จนมือถูกทำลายอย่างถาวร เขากบับบ้านมาหาซิ่วชิง เมียผู้เป็นที่รักและเสียวหยางลูกชายวัย 9 ขวบ แต่นอกจากจะจำพ่อไม่ได้แล้ว เสี่ยวหยาง ยังไม่รู้สึกสนิทใจกับสมาชิกใหม่ รวมทั้งยอมรับว่าตัวเองมีพรสวรรค์ในการวาดรูป ด้วยการปล่อยให้ประทัดระเบิดในมือ เสี่ยวหยาง จงใจทำลายความหวังของเก็งเหนียนที่จะให้ลูกเป็นจิตรกรเหมือนตน หลายทศวรรษผ่านไปเหตุการณ์มากมายเปลี่ยนจีนเป็นประเทศใหม่ ในที่สุดเสี่ยวหยางก็กลายเป็นจิตรกรผู้มีชื่อเสียง ทว่าความสัมพันธ์กับพ่อก็ยังเป็นปัญหาอย่างยากยิ่งที่เขาต้องพยายามปรับความเข้าใจLabels: Asian Movie, Drama, Zhang Yang