Monday, January 12, 2009,1/12/2009 01:03:00 AM
Aksra Theatre : อักษราหุ่นละครเล็ก
ไหนๆก็ไม่ได้เจอกับเพื่อนซี้สมัยเชียงใหม่มาตั้งนาน เราเลยขอเวลาทั้งวันในการทัวร์กรุงเทพซะเลย ว่าแล้วเราก็ชวนเพื่อนไปดู หุ่นละครเล็กที่ อักษราเธียเตอร์ ที่ตึก คิงส์เพาเวอร์ดีกว่า ใช้เวลาเดินทางแค่ 5 นาที จากรถไฟฟ้าสยาม มาที่ สถานี อนุสาวรีย์ชัย เดินนิดเดียว เราก็มาปรากฏตัวที่ตึก คิงส์เพาเวอร์ที่ถนนรางน้ำแล้ว
ภาพแรกที่ปรากฏแก่สายตาเรา เป็นภาพตึกสมัยใหม่รูปร่างเมือนชามบะหมี่คว่ำหัว สวยดี เพราะว่า ใหม่และดูแปลกตามากๆ เป็นกระจกใสมองเห็นด้านใน ทำให้เห็นว่า โล่งมาก 555 เดินถัดไปอีกนิดก็เจอ ก็ ดิวตี้ฟรีขนาดใหญ่ แต่เรายังไม่สนใจ เพราะอยากขึ้นไปที่ชั้นสาม ตีตั๋วให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยลงมาเดิน ช๊อปปิ้ง ให้สบายใจ
กดลิฟท์ไปที่ชั้นสาม ออกจากลิฟท์มาหน่อยนึง เราก็ตลึงกับความสวยงามของ โรงละคร เป็นรูปยักษ์ขนาดใหญ่ สองตน ด้วยความด้อยปัญญาเราเลยไม่สามารถบอกได้ว่า ชื่ออะไรมั่ง สวยมากๆ ประดับกระจกดู ระยิบระยับสวยจริงๆ เราเดินถัดไปนิดนึงก็มีซุ้มขายตั๋ว ทำการสำรองที่นั่งเสร็จ เราก็เดินต่อไปเจอกับ ภัตตาคาร รามายนะ ซึ่งสวยอีกเหมือนกัน ดูดีมีชาติตระกูลมั่กๆ แต่เราคงไม่ได้กินวันนี้ เพราะเย็นแล้ว ไม่มีกะจิตกะใจจะกินอะไร ตอนเที่ยงก็กินมาเยอะแล้ว ( จริงๆแล้ว มันแพง 555 )
เราลงไปเดินวางท่าเหมือนจะมาช็อปปิ้งที่ชั้นสอง เดินไปก็วิพากษ์วิจารณ์สินค้าเค้าไปอย่างคะนองปาก ตามประสาคนปากปีจอ พูดจนสินค้าเค้าเสียหายไม่มีดี พูดไปหัวเราะไปเหมือนคนบ้า ไปแผนกน้ำหอมเอาน้ำหอมมาลองจนตัวมีกลิ่นฉุนไปด้วยน้ำหอมสารพัดกลิ่น เดาว่า คงไม่ต้องอาบน้ำไปสามวัน เพราะหอมสุดขั้วจริงๆ กลิ่นหอมติดไปทั้งตัวหัวหู
เราหัวเราะจนถึงเวลา ใกล้ทุ่ม ก็ค่อยๆนวยนาดไปที่หน้าโรงละคร เฮ้ย มีการให้ลงทะเบียนเข้าชมด้วยเว๊ย อะไรมันจะหลายชั้นซับซ้อนขนาดนั้น เปลืองตงค์จ้างพนักงานโดยใช่เหตุ ( รึเปล่า คือเราไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม ) เรามองที่นาฬิกาข้อมือ นี่เพิ่งจะ 18.45 เอง ไม่ทันไรจากนั้นพนักงานเดินตั๋วก็เชิญให้เราเข้าโรงละครได้แล้ว ด้วยความเห่อ เราก็รีบวิ่งแจ้นขึ้นไปทันที แต่แบบรักษาภาพนิดนึง ไม่งั้นจะเหมือนกะเหรี่ยงอีก แต่ในใจลิงโลดพองฟูยิ่งนัก 5555 เราสะกิดเพื่อนให้ดูทางซ้าย ทางขวา อะไรๆ ดูมันสวยงามเจริญหูเจริญตาไปซะทุกอย่าง โน่นก็ทอง โน่นก็เพชร พูดไพล่ไปถึง ว่า คุณ วิชัย รักษ์ศรีอักษรแกรวยเนอะ เนรมิตได้ขนาดนี้ ทึ่งจริงๆ ทางขึ้นโรงละครค่อนข้างสูง เป็นทางเดินธรรมดา ไม่ได้ตกแต่งอะไร แต่ของประดับที่อย่ที่ห้องโถงตะหากที่ทำให้ ตาลุก มีตู้โชว์หุ่นสวยงามมาก ใส่เสื้อผ้าชาติต่างๆ ประดับกระจกสี หรือ พลอยก็ไม่รู้ดูไม่เป็นอยู่บริเวณทางเข้า ขนาดเท่ากับเด็กทารก ดูสวยและขลังในเวลาเดียวกัน
เราเข้าไปนั่งในโรงตามที่นั่งที่เค้าจัดให้กลางโรงด้านหน้า โรงละครไม่ใหญ่ไม่เล็ก ประกับด้วยไม้แกะสลักรูปเทวดานางฟ้า ทั้งปีกซ้ายขวา เต็มผนังไปหมดเลย เราเห็นเวที ตรงกลางมีช่องสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่เจาะเอาไว้ คงเอาไว้ให้ นักแสดงลอยขึ้นลอยลงอย่างที่เราเคยเห็นในทีวี เราบอกเพื่อนเราว่า เนี่ยเห็นโรงละครนี้แล้วทำให้นึกถึง กาดสวนแก้วเธยร์เตอร์ที่เชียงใหม่เนอะ พูดแล้วก็เศร้า 5555 หัวเราะทำไมเนี่ย
ซักพัก เสียงเพลงก็ดังขึ้นตอน 19.00 เป๊ะ เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีที่เล่นโดยวงออเคสตร้า เครื่องดนตรีไทยผสมกับฝรั่ง ไพเราะมากมาย คนเล่นเป็นวัยรุ่น ชายหญิง แต่ฝีมือ โอเคมากก เพราะสุดจะประมาณ คนตบมือกันเกรียวกราวลืมบอกไปว่ามีคนดู ไม่มากเลยซัก30 คนเห็นจะได้ คนไทยซัก 70 % ฝรั่ง 30% ดูโหรงเหรงแต่ก็ดีแล้วล่ะไม่ชอบคนเยอะ
จบเพลงสรรเสริญฯ ก็มีเสียงพิธีกรหญิง กล่าวแนะนำการแสดงจำได้ว่าเป็นเสียงคุณ ศันสนีย์ นามสกุลฝรั่งอะไรซักอย่าง ที่พูดภาษาอังกฤษ เก่งๆ พูดเพราะเสียงใส อธิบายการแสดงให้ฟังทั้งภาคไทยและอังกฤษ
การแสดงชุดแรกเป็นระบำครุฑ แค่ชุดแรกก็หันไปกระซิบกับเพื่อนแล้วว่า โอ้โฮ ทึ่ง ตะลึงตึ๊งตึง สุดๆ เหมือนมีชีวิตจริงๆ เป็นหุ่นครุฑประมาณ 7 ตน มาบินบนเวที ถ้าเราไม่มองคนเชิด เราก็จะเห็นว่าครุฑบินอยู่จริงๆ สวยงามมาก คำที่ว่า เหมือนมีชีวิตเนี่ย เกิดมาเราไม่เคยพูด เคยแต่ได้ยินคนพูด วันนี้เราได้เป็นคนพูดเองแล้ว และรู้สึกว่า ไม่เกินความจริงเลย หุ่นแต่ละตัวใช้คนเชิดสามคน เพราะฉะนั้น คนเต็มเวทีเลย
การแสดง หุ่น จบ หนึ่งชุด ก็จะมีดนตรีบรรเลงหนึ่งเพลงสลับกันไป บางครั้งก็จะมี คนจริงๆออกมาฟันดาบ กระบี่กระบองให้ดู ( พูดจริงๆนะ เราดูจนเบื่อแล้วที่ไหนก็มี อยากดูหุ่นอย่างเดียวมากกว่า สวยมากๆๆๆๆๆ ) การแสดงใช้เวลา หนึ่งชั่วโมงพอดิบพอดี ตอนจบเค้าให้หุ่นออกมาเล่นกับคนดูด้วย แต่เราไม่ได้เล่น เพราะเราไม่ถนัดเล่นกับหุ่นอ่ะ ถนดเล่นกับคนมากกว่า 5555
สรุป เอาไปเลย 10 เต็ม ชอบทุกอย่าง ทั้งการแสดง ทั้งคนเชิดที่เป้นกันเองกับคนดูมากกก น่ารักมาก ทั้งคนทั้งหุ่น มีการพูดแซว หุ่นเป็นธรรมชาติมากจนบางขณะเราคิดไปเองว่ามันมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ เพลงเพราะดนตรีมันส์ ไม่รู้จะพูดยังไง มันดีไปซะทุกอย่างเลย ถ้าไม่ได้มาดูนี่เสียชาติเกิดจริงๆ

ฉากที่ ๑ ระบำครุฑ : จาก พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่๑ สู่ระบำเทิดพระเกียรติสุดตระการตาด้วยเทคนิคแสง สี เสียง ผสานท่วงท่าร่ายรำอันงามสง่าของเหล่าครุฑ ที่ร่วมอำนวยพรชัยให้ผู้รับมีความยิ่งใหญ่ มั่นคง แข็งแรง ตลอดกาล
ฉากที่ ๒ กินรีร่อน : วรรณกรรม ตอนหนึ่งในเรื่องมโนราห์ ด้วยกระบวนท่ารำที่มีความวิจิตรสวยงาม และด้วยอาภรณ์ของเครื่องแต่งกายที่ประณีตบรรจง อักษราหุ่นละครเล็กจึงดัดแปลงให้การแสดงดูร่วมสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังยึดแนวทางการร่ายรำและบทเพลงไว้คงเดิม เพิ่มเติมความเป็นสากลด้วยเครื่องดนตรีสากลที่ร่วมบรรเลงตลอดการแสดง
ฉากที่ ๓ ยกรบ : ถ่าย ทอดความยิ่งใหญ่แห่งวรรณคดีอมตะเรื่องรามเกียรติ์ เมื่อพญายักษ์ทศกัณฐ์จัดทัพเข้าประจัญบานกับฝ่ายพระราม แต่กลับโดนพระรามใช้ศรตีเจ็บปวดเจียนตายจนพ่ายแพ้ ต้องเลิกทัพกลับนครลงกาในที่สุด
ฉากที่ ๔ ระบำญี่ปุ่น : หยิบ จินตลีลาจากแดนอาทิตย์อุทัยเคล้าบทเพลงสุดคลาสสิก โจโจ้ซัง มาเพิ่มสีสันให้เวทีหุ่นละครเล็ก สร้างสรรค์ระบำหุ่นด้วยฉาก แสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่ในแบบฉบับเจแปน
ฉากที่ ๕ กลองยาว โปงลาง : ผู้ แสดงร่วม ๔๐ ชีวิตเนรมิตความหรรษาของเทศกาลดนตรีพื้นบ้านภาคกลาง(กลองยาว) ประชันดนตรีพื้นถิ่นภาคอีสาน(โปงลาง) สนุกสนานไปกับการแสดงอันครึกครื้นของเหล่าหุ่นละครเล็ก นักดนตรีพื้นบ้านที่เยื้องกรายขับขานในท่วงท่าลีลาดังต้องมนต์มีชีวิต
รอบการแสดง อังคาร – ศุกร์ : 19.00 น. เสาร์ – อาทิตย์ 13.00 น. และ 19.00 น.
Aksra Hoon Lakorn Lek
Promoted as a showcase of Thailand’s cultural and dramatic heritage, the newly-opened Aksra Theatre proudly presents exquisite performances of traditional Thai puppetry thereby helping to support and preserve this dying art form for future generations.
Presented under the name, Aksra Hoon Lakorn Lek, the Thai puppetry shows have been added to the theatre’s regular programme from July 2008 onwards. Aksra Theatre is situated on the 3rd Floor of the King Power Complex on Rangnam Road.
Aksra Hoon Lakorn Lek is performed by a budding new troupe of traditional Thai puppeteers that have learned the art of traditional Thai puppetry by Thailand’s legendary puppet master, Mr Sakorn Yangkhiawsod, one of Thai kingdom’s distinguished National Artist in the Performing Arts.
Aksra Hoon Lakorn Lek preserves the original form and style of the puppet play using finer and more complex techniques than most puppet dramas. Each puppet requires the synchronized efforts of three puppeteers who control the puppet’s spindle, arms and legs to produce highly animated and life-like movements. The synchronized gestures are gracefully performed.
Aksra has created more than 110 traditional Thai puppets for 10 different stories. The troupe has also created a spectacular show by incorporating short scenes from a selection of stories that are presented as a medley.
Elaborate scenes relate stories taken from the Ramakien epic, Japanese and Korean songs and lively Thai folk dance. The performance also features Wong Chongkraben, an orchestra consisting of traditional Thai musical instruments as well as universal ones.
In the realm of contemporary cultural performances, the dramatic theatrical scenes combined with stage techniques renders Aksra’s colourful and spectacular presentation of traditional Thai puppetry is outstanding and quite unique.
Aksra Theatre
Located in the middle of Bangkok, Aksra Theatre is a medium size theatre with 600 seats. Inspired by Baroque style, Aksra Theatre is embellished with the majestic decoration that draws its essence from Thai traditional art and interior. Aksra Theatre provides a fully and advanced equipped stage that can host spectacular performances and events. Attached to Aksra Theatre are Scene Shop, a souvenir shop, and Scene Bar, a bar with a panoramic terrace.
Aksra Theatre is part of the King Power Complex duty-free shopping centre, the Ramayana international buffet and “Pullman Bangkok Kingpower, a five-star hotel property.King Power Duty Free recognizes the importance of the Thai puppets and has granted support to preserve this rare traditional art form for the benefit of future generations.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink