Wednesday, January 7, 2009,1/07/2009 03:32:00 PM
Australia : ออสเตรเลีย
แล้วก็มาถึงคราวของหนังฟอร์มยักษ์เรื่องนี้ซะที หลังจากที่เราเลื่อนโปรแกรมการดูหนังเรื่องนี้ ไปหลายครั้งหลายครา ตั้งใจจะไปดูทีไหนจะต้องมีอันเป็นไปให้แคล้วคลาดไม่ได้ดูทุกครั้งไป
โรงที่เราดู แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเป็น SF บางกะปิ เพราะเป็นโรงเดียวแถวนี้ ที่ฉายในระบบดิจิตอล ตั๋วก็ถูกกว่าของคู่แข่งด้วย 120 บาทเองถ้าเป็นวันธรรมดา
เรื่องนี้จะว่าไป เราเองตั้งใจจะดูรอบปฐมทัศน์ด้วยซ้ำ แต่อย่างที่บอก มันคลาดคลากันไปแทบทุกครั้ง ดเพราะด้วยความที่มีดาราคนโปรดของเราทั้ง 2 คนเลยมาแสดงนำในเรื่องนี้ คือ นิโคล คิดแมน กับ ฮิวจ์ แจ็กแมน ซึ่งเราตามดูหนังของที่งสองคนแทบทุกเรื่อง นี่ก็ลุ้นอยู่ว่า เมื่อไหร่ X-men จะเข้าซักที
หนังเปิดฉากได้อลังการ สมกับการรอคอยจริงๆ จะว่าไปแล้ว แทบทุกซีนในเรื่องทำให้เราอึ้งได้ตลอด เนื่องจากวิวสวยสุดจะบรรยาย จริงๆเราก็เคยไปนะ ออสเตรเลีย เนี่ย แต่ว่า เราอยู่ในเมือง พูดง่ายๆคือเราไปกะทัวร์ เพราะฉะนั้น ทัวร์ไทยตัองไปที่ไหน คงรู้นะ ก็ไปเที่ยวตัวเมือง ดู นกเพนกวิน ชอปปิ้ง นี่แหละ ทัวร์ที่พาเราไป 555 แต่ที่เห็นในหนังนี่มันแปลกหูแปลกตาไปซะทุกอย่างเลยนะ มีฝูงจิงโจ้มากระโดดไหวๆให้ดูด้วย มีต้นไม้รูปร่างแปลกๆ เหมือนแจกันก็มี บางฉากเหมือนอยู่ที่ แอฟริกา ฯลฯ ไม่เคยนึกว่าจะมีวิวเจ๋งๆเยอะขนาดนี้ พูดไปก็เหมือนคนบ้านนอก เข้ากรุง
นางเอกผอมมมมมมมมมมม มากๆ เวลาใส่เสื้อผ้าเข้ารูปแล้ว นึกไม่ออกว่าเอาเครื่องในไปไว้ที่ไหน มีบางฉากเวลาใส่เสื้อแขนกุด ยกแขนที เห็นเป็นโครงกระดูกไหวพะเยิบพะยาบ นี่ถ้ารู้จักกันเป้นการส่วนตัว คงแนะนำให้มาพักแถวเยาวราชซักเดือน เผื่ออาหารการกินจะช่วยให้อ้วนขึ้นบ้าง ทีพระเอกนี่ โหย ไม่รู้จะเรียกว่า อ้วนหรือล่ำดี คงผสมกัน คือ มันเกินคำว่าล่ำไปหน่อยแล้ว คือ ต้องเข้าใจนะว่า คนดูไม่ได้ต้องการมาดูเพาะกาย ดูไปดูมา เผลอๆ จะใหญ่กว่า อาโนลด์อีกนะ ( ไม่รู้จะแข่งกับอาโนลด์ หรือเปล่า แต่นั่น เค้าเป็นมิสเตอร์ โอลิมเปียนะ คือ แชมป์เพาะกาย เพราะฉะนั้น ดูแล้ว มันน่าดูอ่ะ ) ไม่ใช่ฉุแบบนี้ โอ มายก็อด ยิ่งตอนที่พระเอกโกนหนวดเครา เพื่อจะไป งานเต้นรำกับนางเอกนี่ หน้าตาก็โอ อยู่หรอก แต่สูทนี่ สงสัยว่าช่างตัดสูทคงลมจับ เพราะเปลืองผ้ามาก ใส่ออกมาเหมือนตือโป๊ยก่ายเลย ใหญ่มากๆ หมดหล่อไปเยอะ เฮ้อ น่าจะเอาเราไปแสดงแทน 5555
เนื้อเรื่องก็โอเคนะ เป็นเรื่องของผู้หญิงอังกฤษที่มาหาสามีที่ ออสเตรเลีย แต่กลายเป็นว่า ผัวตายซะฉิบ เลยทำไงดีละทีนี้ เลยต้องอยู่ดูแลกิจการขายปศุสัตว์ของสามีต่อ อีทีนี้ก็ดันไปเจอกับอิทธิพลมืด ก็ต้องต่อสู้อ่ะนะ โชคดีที่ได้ ขาวอะบอริจิน กับ พระเอกมาช่วย เหมือนเรื่องรามเกียรติเลย ที่พระราม มีหนุมาณ 5555 ( ล้อ เล่น ) แหม ก็ต้องชะสิ สุดท้าย พวกคนชั่วก็ต้องแพ้ภัยตัวเองไปตามระเบียบ
หนังดูเพลินๆ แต่ยาวจัง ตั้ง 3 ชั่วโมง เราดูนาฬิกาแล้วดูนาฬิกาอีก ไม่ใช่ไม่สนุกนะ แต่ดูเวลาเพื่อจะได้เดาเนื้อเรื่องว่าจะเป็นยังไงต่อไป เรื่องนี้ แค่มาดู นางเอก กับ วิว ก็คุ้มแล้ว วิวสวยจริงๆ เห็นแล้วอยากไป
สรุป ก็โอเคในระดับนึง หนังทำได้ซึ้งดี เพลงประกอบก็เพราะ เพราะใช้เพลง Somewhere over the rainbow ซึ่งเพราะอยู่แล้ว คนร้องเสียงใสมาก ไม่รู้ว่า เป็นเวอร์ชั่น ที่ จูดี้ การ์แลนด์ ร้องไว้แล้วมาเรียบเรียงใหม่รึเปล่า แต่บางตอนๆที่ มีเพลงแทรกเข้ามาในจังหวะเหมาะๆ น้ำตาแทบร่วงเลย เพราะมากๆ เราว่าเนื้อเรื่องบางตอนทำให้เราคิดไปถึงหนังเรื่อง วิมานลอยนะ ว่าแล้ว ก็ต้องไปหามาดูอีกดีกว่า แต่พระเอกเรื่องนี้ อ้วนไปหน่อยนะ ดูแล้วเหมือนข้าวต้มมัดมากๆ ถามว่า งั้นเรทเท่าไหร่ดี ส่วนตัว เราก็ชอบในระดับนึงนะ แต่ไม่ถึงกับเลิศเลอ เราให้ 8.0 ก็แล้วกัน แบบถนอมน้ำใจคนสร้างหน่อย
เนื้อเรื่องย่อ : คุณหญิง ซาราห์ แอชลีย์ (นิโคล คิดแมน) ต้องเดินทางไปยังเมืองดาร์วิน ด่านหน้าของพื้นที่เขตร้อนของออสเตรเลียตอนเหนืออันห่างไกล เพื่อจัดการสะสางปัญหาการเงินที่สามีของเธอทิ้งพอกพูนเอาไว้ รวมทั้งไปดูทรัพย์สินชิ้นสุดท้ายที่เตรียมจะขาย นั่นคือสถานที่เลี้ยงปศุสัตว์ที่มีขนาดเท่ากับรัฐแมรีแลนด์ ซึ่งมีชื่อเรียกว่า ฟาร์อเวย์ ดาวน์ส
ที่ดาร์วิน ซาราห์ไม่ได้พบกับสามี แต่ได้รับการต้อนรับจากผู้ต้อนปศุสัตว์ที่หยาบคายและอารมณ์ร้อน ซึ่งทุกคนรู้จักในนาม โดรเวอร์ (ฮิวจ์ แจ็กแมน) ทั้งคู่เดินทางรอนแรมไปยัง ฟาร์อเวย์ ดาวน์ส ด้วยกัน และประสบเหตุการณ์พลิกผันต่างๆ หลายหน กระทั่งซาราห์ได้รับเด็กลูกครึ่งชาวอะบอริจินที่ชื่อ นูลลาห์ (แบรนดอน วอลเตอร์ส) เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต นูลลาห์เปิดเผยว่าผู้จัดการสถานที่เลี้ยงปศุสัตว์ นีล เฟลตเชอร์ (เดวิด เวนแฮม) สมคบคิดกับเจ้าพ่อตลาดค้าสัตว์ คิง คาร์นีย์ (ไบรอัน บราวน์) ร่วมกันวางแผนขโมยที่ดินของซาราห์ไปจากเธอ เพื่อรักษา ฟาร์อเวย์ ดาวน์ส เอาไว้ ซาราห์ต้องร่วมมือกับโดรเวอร์ ต้อนฝูงสัตว์ 2,000 ตัวข้ามพื้นที่ออสเตรเลียตอนเหนือ ซึ่งนับเป็นการเดินทางที่ทั้งน่าตื่นเต้นและโหดร้าย นอกจากนูลลาห์แล้ว พวกเขายังมีผู้ร่วมทางที่ไม่ค่อยจะเข้าท่านักอย่างนักบัญชีขี้เมา คิปลิง ฟลินน์ (แจ็ก ธอมป์สัน) สองหนุ่มผู้เลี้ยงปศุสัตว์ มาการ์ริ (เดวิด งุมบูจาร์รา) กับ กูลาจ (แอนกัส พิลาคิว) แม่บ้านอะบอริจิน แบนดี เลกส์ (ลิเลียน ครอมบี) พ่อครัวชาวจีน ซิง ซอง (หยวนหวา) และไม่นานนักพวกเขาก็พบว่าตกอยู่ใต้การชักนำของพ่อมดชาวอะบอริจิน คิง จอร์จ (เดวิด กัลพิลิล) ความงดงามของพื้นที่แห่งทวีปโบราณ ความเสน่หาที่มีต่อโดรเวอร์ และความรักแห่งเพศแม่ที่มีต่อนูลลาห์ ทำให้ซาราห์เปลี่ยนไปจากเดิม แต่เมื่อสงครามมาถึงชายฝั่งของออสเตรเลีย กองทัพญี่ปุ่นทิ้งระเบิดถล่มเมืองดาร์วินจนพังพินาศ ครอบครัวที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้แต่แรกครอบครัวนี้ก็ต้องพรากจากกัน ซาราห์ โดรเวอร์ และนูลลาห์ ต้องต่อสู้เพื่อค้นหากันและกันท่ามกลางโศกนาฏกรรมและความวุ่นวาย
Synopsis : Lady Sarah Ashley (Nicole Kidman) is a prim and proper English woman who journeys to northern Australia. She is determined to have her estranged husband sell his cattle ranch to a monopoly-craving businessman named King Carney (Bryan Brown).When she arrives, Lord Ashley is dead, and her plan to sell the ranch changes when she sees an employee named Fletcher (David Wenham) cheating her husband's business and mistreating a young boy named Nullah (Brandon Walters) because he is of mixed race.Urged on by both pride and a sense of justice, Lady Ashley wants to drive her herd of cattle to Darwin so she can sell them to the troops, but she'll require the help of an independent cowboy Drover (Hugh Jackman) to get them there.As the pair drive 2,000 head of cattle over unforgiving landscape, they experience the bombing of Darwin by Japanese forces as the World War II reached the country's shores.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink