หลังจากคิดถึง house มานาน วันนี้ก็ได้ฤกษ์มาดูวักที เลยดูมันทีเดียว 2 เรื่องเลย เริ่มจาก เรื่องนี้ก่อน Toi et Moi เป็นหนังฝรั่งเศสที่แปลว่า เธอกับฉัน หนังพูดถึง สองศรีพี่น้องที่สวยทั้งคู่ เลยมีคนมาชอบเยอะ เลยเลือกไม่ถูกต้องใช้วิธีสับรางเอา ตอนแรกก็นึกว่าตลกที่ไหนได้ ดูแล้วอึ้งกับเนื้อเรื่องเหมือนกันที่ตอนจบไม่ได้สดชื่นระรื่นทรวงอย่างที่คิดเอาไว้ ตัวละครที่ดูเหมือนมีตัวเลือกเยอะแยะตาแป๊ะไก๋ในตอนแรก ลงเอยแบบเศร้าๆ ดูแล้วเป็นข้อเตือนใจยังไงก็ไม่รู้ ชอบวธีการนำเสนอของหนังที่เล่าเรื่องเหมือนกำลังอ่านหนังสือการ์ตูน มีภาพนิ่งมาประกอบกับการแสดง แปลกตาดี เราเดาว่า ตัวละครต่างๆในเรื่องคงไม่ใช่นักแสดงอาชีพมั๊ง หรือเปล่า เพราะดูไม่ค่อยคุ้นหน้าเลย ( แหม พูดอย่างกับตัวเองดูหนังฝรั่งเศสทุกเรื่องอย่างงั้นอ่ะ 555 ) คือ เรากำลังเปรีบเทียบกับหนังฝรั่งเศสที่เราเคยดู ไม่รู้จะอธิบายยังไง เราว่าเรื่องนี้ จืดกว่าทุกเรื่องที่เราเคยดูมาเลยนะ ปกติ หนังฝรั่งเศสจะให้ความรู้สึกมากกว่านี้นะ ไม่รู้ทำไม
สรุป ไม่รู้จะพูดอะไร เราคิดว่าหนังน่าจะสนุกกว่านี้นะ แต่ก็ไม่เท่าที่อยากให้เป็น ไม่รู้เป็นที่เนื้อเรื่องหรืออะไร คงรวมๆกันแหละเราว่า เรา

ให้ 6.0 นะ ไม่ค่อยถูกใจอ่ะ
Toi et Moi เป็นนิทานก่อนนอนสำหรับเด็กผู้หญิงที่สดใสแต่ไม่กลวงโบ๋ และแตกต่างจากหนังผู้หญิงผู้หญิงทั่วๆ ไป ตรงที่หนังไม่พยายามขับกล่อมผู้ชมด้วยเรื่องราวเพ้อฝัน หากแต่เย้ยหยันความนึกคิดของเพศหญิงได้แสบๆ คันๆ อย่างเฮฮาและแทงใจดำอย่างถึงที่สุด กล่าวถึง สองศรีพี่น้อง อาเรียง (จูลี เดอปาร์ดิเออ) และ เลน่า (มาริยง โกติญาร์ด) มีสังคมที่แตกต่างกัน คนแรกเป็นนักเขียน คนที่สองเป็นนักดนตรี แต่สิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน คือ อาการหวาดวิตกขั้นสาหัส เงอะงะและซุ่มซ่ามกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อาเรียงมีหนุ่มมาติดพันถึง 2 คน และเลน่าก็เช่นเดียวกัน เธอมีแฟนอยู่แล้ว แต่ก็แอบปันใจให้เพื่อนนักดนตรีด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่ทั้งสองสาวได้รับทราบคือ ความรักไม่เคยง่ายและสวดสดใสเหมือนในนิทาน มันเหมือนข้อสอบปรนัยที่มีตัวเลือกที่ "ผิดทุกข้อ" ผู้กำกับหญิง จูลี โลปส์-เซอร์วัล บอกเล่าไว้ใน Toi et Moi ชนิดที่โดนใจคนดูไปตามๆ กัน
เกร็ดภาพยนตร์
• หลังจากสำเร็จการศึกษาด้านการถ่ายภาพ จูลี โลปส์-เซอร์วัล ก็หันไปเรียนต่อด้านการแสดงที่ Cours Florent โรงเรียนสอนการแสดงชื่อดังของฝรั่งเศส นั่นทำให้เธอสนใจ
.jpg)
การเขียนบทและกำกับละครเวที ด้วยฝีไม้ลายมือการเขียนบทของเธอ ส่งผลให้โลปส์-เซอร์วัลได้ไปทำงานเขียนบทภาพยนตร์โทรทัศน์ และตอนนั้นเอง ที่เธอหันมาสนใจการทำภาพยนตร์
• จูลี โลปส์-เซอร์วัล ทำหนังสั้นเรื่องแรกในปี 2001 เรื่อง Mademoiselle Butterfly และได้กำกับหนังยาวเรื่องแรก Seaside ในปีต่อมา โดยหนังเรื่องนี้ได้รับการคัดเลือกฉายในเทศกาลหนังเมืองคานส์ จนเธอสามารถคว้ารางวัลกล้องทองคำ (สำหรับผู้กำกับหน้าใหม่ยอดเยี่ยม) มาครอง นอกเหนือจากการทำหนังที่เข้าอกเข้าใจผู้หญิงมากแล้ว จูลี โลปส์-เซอร์วัล ก็ยังมีอารมณ์ขันมากพอที่จะทำให้งานของเธอดูสนุกและให้ผู้ชมเกิดความบันเทิง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดนั้น อยู่ในหนัง Toi et Moi หมดแล้ว
• จูลี เดอปาร์ดิเออ เป็นลูกสาวของนักแสดงชื่อดังชาวฝรั่งเศส เฌอราร์ด เดอปาร์ดิเออ เธอเข้าวงการตอนอายุ 20 เคยคว้ารางวัลซีซาร์ไป 3 ตัวด้วยกัน คือ นักแสดงหน้าใหม่ และ สมทบหญิง ในปีเดียวกันจาก Le Petite Lili (2003, โคล้ด มิลเยร์) อีกหนึ่งรางวัลล่าสุดคือ สมทบหญิง จาก Un Secret (2008, โคล้ด มิลเยร์ กำกับ) จูลี เดอปาร์ดิเออ เล่นได้ทั้งหมดตลกและดราม่า เธอเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ฝีมือจัดจ้านมากอีกคนหนึ่ง คอหนังชาวไทยอาจเคยผ่านตาผลงานของเธอมาแล้วใน Female Agent
.jpg)
• คงไม่ต้องแนะนำอะไรกันมากมาย สำหรับ มาริยง โกติญาร์ด นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ปีล่าสุด โกติญาร์ดเป็นนักแสดงที่ไต่เต้าขึ้นมาในระยะเวลาอันสั้น ด้วยฝีมือการแสดงล้วนๆ เธอเคยร่วมงานกับทิม เบอร์ต้น ใน Big Fish (2003) และริดลีย์ สก็อตต์ใน A Good Year (2006) ก่อนหน้าที่จะมีชื่อเสียง โกติญาร์ดเป็นที่คุ้นหน้าจากบทนางเอกในหนังซิ่งรถสุดฮาของผู้กำกับ ลุก แบสซง เรื่อง Taxi (1998) และในหนังรักหวือหวาของผู้กำกับ ยานน์ ซามูแอล เรื่อง Love Me If You Dare (2003) หลังจากนั้นก็มาคว้ารางวัลนำหญิงเกือบทุกสถาบันการประกวดกับ La Mome (2007) หนังชีวประวัติของ อีดิธ เพียฟ โดยผู้กำกับ โอลิวิเยร์ ดาฮาน
.jpg)
Snopsis : Ariane has a habit of transposing the complicated love lives of those around her into the trashy love stories that she writes for a women’s magazine. Her current preoccupation is Lena, her half-sister, who has started taking an interest in Mark, a fellow musician. Lena already has a boyfriend, François, but the spark went out of that relationship long ago and Lena is reluctant to let it go any further. When she is not imagining a happy future for Lena, Ariane reflects on her own disappointed love life. She has fallen for Farid, a wealthy businessman who insists that he cannot settle down with her. She fails to notice that her true admirer is Pablo, a Spanish builder...