.jpg)
เรื่องย่อ : หลังจากที่ สิงโตอเล็กซ์ (เบน สติลเลอร์) ม้าลายมาร์ตี (คริส ร็อก) ยีราฟเมลแมน (เดวิด ชวิมเมอร์) ฮิปโปกลอเรีย (จาดา พิงเกตต์ สมิธ) คิงจูเลียน (ซาชา บารอน โคเฮน) มอริซ (เซดริก ดิ เอนเทอร์เทนเนอร์) และพลพรรคเพนกวิน ถูกทิ้งบนชายฝั่งเกาะมาดากัสการ์ที่ห่างไกลอารยธรรม เหล่าสัตว์จากนิวยอร์กร่วมกันวางแผนการที่เพี้ยนสุดๆ เหล่าเพนกวินลงมือซ่อมเครื่องบินเก่าๆ ที่ตกลงมาบนเกาะ แล้วในที่สุด เครื่องบินก็พาพวกเขาไปยังผืนแผ่นดินแอฟริกาที่กว้างใหญ่ไพศาลที่แอฟริกา พลพรรคจากสวนสัตว์ได้พบกับเผ่าพันธุ์เดียวกันเป็นครั้งแรก ได้ค้นพบรากเหง้าของตัวเอง และได้เรียนรู้ถึงความแตกต่างระหว่างป่าคอนกรีตและใจกลางป่าแอฟริกา แม้ว่าจะมีทั้งญาติพี่น้องที่เพิ่งพานพบ คู่แข่งด้านความรัก และนายพรานจอมวางแผน แอฟริกาก็ดูเหมือนจะเป็นสถานที่สุดวิเศษ แต่มันจะดีกว่าบ้านของพวกเขาที่เซ็นทรัลปาร์กจริงหรือ
Gloria, King Julien, Maurice and the penguins and the chimps find themselves marooned on the distant shores of Madagascar. In the face of these obstacles, the New Yorkers have hatched a plan so crazy it might just work. With Military precision, the penguins have repaired an old crashed plane-sort of. Once aloft this unlikely crew stays airborne just long enough to make it to the wildest place of all-the vast plains of Africa, where the members of out zoo-raised crew encounter species of their own kind for the very first time. Africa seems like a great place..but is it better than their Central Park home? Alex the lion (Ben Stiller), Marty the zebra (Chris Rock), Melman the giraffe (David Schwimmer), Gloria the hippo (Jada Pinkett Smith), King Julien (Sacha Baron Cohen), Maurice (Cedric the Entertainer) and the penguins were left marooned on the distant shores of Madagascar, the New Yorkers have hatched a crazy
plan. The penguins have repaired an old crashed plane. Then they all fly to the vast plains of Africa.The zoo-raised crew encounters species of their own kind for the very first time. While discovering their roots, they quickly realize the differences between the concrete jungle and the heart of Africa. Despite long-lost relatives, romantic rivals and scheming hunters, Africa seems like a "crack-a-lackin" great place... but is it better than their Central Park home?Labels: Animation, Comedy, Family, International Movie
ข้างสกปรก แต่พอมาดูเรื่องนี้จบ ความไม่ชอบก็ไม่ได้ลดลงหรอก แต่ก็รู้สึกดีขึ้นว่า เออ เล่นเก่งเหมือนกันนะเนี่ย แล้วก็ถ้าไม่เอาหอยมาแสดง ก็นึกไม่ออกเหมือนกันว่า จะเอาใครมาแสดงให้ดูเน่าๆได้ขนาดนี้
ความซึ้งใจในมิตรภาพ และ มุขขำๆที่มีตลอดเรื่อง เราว่า เป็นหนังที่นาดูที่สุดเรื่องหนึ่งก่อนส่งท้ายปีนี้เลย เพลงก็เพราะด้วยนะ เกือบลืมบอกไป คิดว่า ถ้าจะดูอีกรอบก็คงไม่เกินไปหรอก หนังน่ารักดูซ้ำได้ เรื่องนี้ เราให้ 8.8 เลย
แค่ซิงเกิลแรกก็ขึ้นอันดับหนึ่งทุกสถานี ดังระเบิดไปทั่วประเทศ
บทเพลงของตงลีเฮอย่างลึกซึ้ง และเห็นคุณค่าของเสียงเพลงมากกว่าหน้าตา ขณะเดียวกัน ต้อมก็พบรักกับ แก้ว (คุณัชญา ชัยรัตน์) เด็กฝึกงานผู้มีบุคลิกลึกลับ แต่ต้อมต้องพยายามเก็บอาการไม่ให้แก้วรู้
ความรักและความลับของทั้งคู่จะอยู่รอดปลอดภัยไปได้นานสักแค่ไหน
voice. The record company finds a tricky way to make Tom as a new idol and Teung becomes the back-up voice while Tom is lipsyncing on the stage. Their first single hits the charts and they become extremely popular over the country. As their popularity is raising and everyone is keen to know them better, they have to keep the secret; the truth about the voice behind the stage. Labels: Comedy, Thai Movie
ตัวจริงก็เถื่อนเหมือนในหนังด้วยนะ แล้วก็ เอ็ดเวิร์ด มาเล่นเป็นนักสืบที่แสนดี สุดท้ายก็ต้องมาปราบ พี่น้องตัวเองที่เป็นคนเลว เราว่า พล็อตคล้ายๆหนังจีนนะ ว่ามั๊ย
กับความสมจริงมากเกินไป เลยลืมเรื่องเนื้อหา อีกอย่างที่ไม่ค่อยชอบก็คือ โทนสีของเรื่อง มันมืดทั้งเรื่องเลย ( อันนี้ ความไม่ชอบส่วนตัว ) ไม่รู้จะคอมเม้นท์อะไร รวมๆแล้วไม่ชอบอ่ะ เอาไป 5.3
และการไขคดีนี้ มันก็อาจจะเป็นการเปิดกล่องแพนโดร่า ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้ทั้งกรมตำรวจต้องสั่นคลอน แต่อาจจะทำให้ครอบครัวของเขาต้องแตกสลาย "Pride and Glory" ยังอุดมไปด้วยดาราชั้นนำมากมาย รวมถึงจอห์น วอย และ โนอาห์ เอ็มเมอริท ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย กาวิน โอคอนเนอร์ (จาก Miracle) ซึ่งมาจากบทภาพยนตร์ของ โอคอนเนอร์ และ โจ คาร์นาฮาน (จากหนังเปิดโปงตำรวจชั้นดีเรื่อง Narc) Synopsis : Edward Norton and Colin Farrell star in "Pride and Glory," an authentic,gritty and emotional partrail of the New York City Police Departmaint. The film follows a multi-generational police family whose moral code is tested when one of two sons on the force investigates an incendiary case involving his older brother and brother in law . The case force the family to choose
between their loyalties to one another and their loyalties to the department. "Pride and Glory" also features an ensemble cast that includes Jon Voight and Noah Emmerich. It is directed by Gavin O'Connor from a screenplay by O'Connor & Joe Carnahan. Story by Gavin O'Connor Gregory O'Connor & Robert Hopes. It is scheduled for a March 14 th , 2008 release. Labels: Action, International Movie
ค่อยสวยเท่าไหร่เลย แต่ก้น่ารักดี ( ยิ่งดูยิ่งคิดถึงนางเอกเรื่อง หลวงพระบาง คนนั้น น่ารักมากก ) แต่จากการที่เราได้ดูหนังตัวอย่างมาแล้ว เาก็เลยเดาเรื่องได้ไม่ยาก ว่าหนังต้องกานำเสนออะไร ก็ไม่ต้องคิดมากเลย ดูไปเรื่อยๆ ถึงฉากไหนที่ทำให้เราตกใจ เราก็เตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้ว เลยไม่ตกใจเท่าไหร่ ดูไปถึงตอนที่ พระเอกเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้นางเอก แล้วก็สะท้อนใจ เออ เว๊ย
โคตรรักกันเลย เป็นเราๆจะทำได้มั๊ยวะเนี่ย หรือถ้าเรานอนเป็นผักอยู่อย่างนั้น จะมีใครมาดูแลเราขนาดนี้มั๊ยวะ เฮ้อ
แบบหนึ่งที่โคตรเสียสละ ดูแลกัน อย่างกับพ่อเลี้ยงลูกอ่อน ดูแล้วเศร้า แต่น้ำตาไม่ยักไหลพรากๆอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรกนะ สารภาพว่ามีแหมะออกมามั่ง แต่แค่ หยดสองหยด ไม่ฟูมฟายอย่างที่ตั้งใจไว้ เสียดายจัง ภาพในเรื่องสวย โดนใจสุดๆ หลายฉาก อย่างวิวตรงที่นางเอกไปนั่งวาดรูปนั่นก็สวยมาก ผิวน้ำมีไอลอยบางๆอยู่ด้วย แปลกตาไม่เคยเห็นที่ไหนเลย แล้วก็ฉากใส่เสื้อผ้าแต่งงานก็น่ารักดี ได้ยิน พงษ์พัฒน์บอกว่า ไปถ่ายที่แม่ฮ่องสอน ตอนเราไป ไม่ยักเห็น เรื่องนี้ จะมีเด่นก็ตรงไอเดียหนังสือ ฉาก วิวต่างๆ แล้วก็ เพลง ที่เหลือ ก็ธรรมดา ไม่มีอะไร โดเด่น อนันดา
ก็เล่นดี ตอนน้ำตาไหลดูแล้วน่าสงสาร แต่ตอนแก่ ดูไม่ค่อยเหมือนเท่าไหร่ รวมๆเราว่าหนังทำได้โอเค ยกเว้น ตอนกลางเรื่องไม่ค่อยมีเนื้อหาเท่าไหร่ มีแต่ถ่ายให้ดูตอนที่ดูแลนางเอก เลย น่าเบื่อไปนิด รวมๆเราให้ 7.4 เหมือนกัน
ที่บุพเพสันนิวาสชักนำให้พวกเขาได้มารู้จักกันผ่านตัวหนังสือ ในหนังสือท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยข้อความที่ถูกเขียนส่งต่อให้กันและกัน โดยที่พวกเขาไม่เคยแม้แต่พบหน้ากัน แต่มันกลับกลายเป็นสื่อกลางที่ทำให้คนมือบอน 2 คนได้มาพบและรู้จักกัน "จีบได้เปล่า? คิดจะจีบเค้าน่ะ ดีพอแล้วเหรอ" คำถามที่ "เภา" ทิ้งไว้ให้ "เต็น" ในระหว่างที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่กำลังคืบหน้าไปอย่างช้า ๆ กระทั่งถึงวันครบรอบวันเกิดของ "เต็น" ในขณะที่"เภา" ได้เดินทางนำของขวัญวันเกิดมามอบให้แก่ "เต็น" แต่ว่าของขวัญชิ้นนั้นกลับไปไม่ถึงมือของ "เต็น" มีเพียงข้อความที่ "เภา" เขียนทิ้งไว้ในการ์ดอวยพรวันเกิดให้กับ "เต็น" ว่า "สัญญานะว่าจะดูแลกันตลอดไป..." และนี่คือจุดเริ่มของการพิสูจน์คำสัญญาที่ "เต็น" มีต่อ "เภา" .jpg)
they've made through the book begins to blossom and develop their love. They vow not to be apart from one another no matter what would come. There's a twist when Ten doesn't get his birthday present that Pao sends to him, but he still holds on to the vow that one day they'll be together forever. Labels: Romance, Thai Movie
หลัก อย่างใส่เนื้อไก่ เนื้อหมู เป็นก้อนๆ ไปจนถึงแบบที่เรากินเล่น เป็นขนม ใส่ไส้ครีม ผลไม้ ฯลฯ เราลองเอาเมนูมาดูแล้วก็อดตะลึงนิดๆไม่ได้ เพราะราคาแต่ละอย่าง เกือบร้อย ทั้งนั้นเลย เราเลยเลือก สั่ง แบบ แฮมไข่ ( เพราะตอนนี้ ยังเช้าอยู่เลย ซัก 10.30 เอง )
แรกที่เข้าปาก ขอบอกเลยว่า อร่อยมากๆ อีกแล้ว กุ้งตัวบะเริ่มเทิ่ม จะเล็กกว่าร้านที่เราเคยกิน ก็เพียงเจ้าเดียวเท่านั้น คือ สปาเก็ตตี้เฮ้าส์ โอยเจ้านั้นไม่ต้องพูดถึง กุ้งเป็นกุ้ง ตัวเป้งๆ อร่อยมากกกกก แต่ราคาก็ตามนั้นอ่ะนะ
ญี่ปุ่นเรื่องแรกเลยมั่งเนี่ย ที่ไม่มีเพลงประกอบเลยทั้งเรื่อง ( ปกติ หนังญี่ปุ่นที่เราดู มักจะมีดนตรีคลอไปตลอดเรื่องเพื่อเพิ่มอรรถรสในการชม ซึ่ง โดยมากมักจะเป็นเปียโน )
เรื่องของเพื่อนบ้านอยู่ยังไงยังงั้น ด้วยความที่หนังไม่มีดนตรีมาก เลยใช้จินตนาการของคนดูเป้ฯส่วนใหญ่โยหนังไม่ต้องโน้มน้าวอารมณ์คนดูเท่าไหร่เลย นั่นแหละ ความสมจริงของหนังละ
ครอบครัว แต่จะให้เราดูอีก หรือซื้อเก็บคงไม่เอาหรอก เครียดเกิน เราให้ 7.4 นะ สำหรับเรื่องนี้ ไม่ผิดหวังหรอก แต่ไม่สมหวังเท่าไหร่
ภรรยาของเขาและแม่ของลูกๆ พ่อยังคงทำเหมือนออกไปทำงานทุกวันเช่นเดิม แต่จริงๆ แล้ว เขาไปแกร่วฆ่าเวลาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าและสวนสาธารณะ
ขณะนั้น แม่เริ่มเอะใจว่าเคนจิไม่ได้เรียนคาราเต้ เพราะชุดฝึกคาราเต้ของเขาไม่สกปรกเลยสักนิด
lessons without telling his parents; and the mother, who knows deep down that her role is to keep the family together, cannot find the will to do so. From the exterior, all is normal and the same. But somehow, a single, unforeseeable chasm has appeared within the family, only to spread ever so quietly and quickly to disintegrate them..jpg)
Mom about his new job, and continues to leave for work and to return home in his business suit. Kenji's clean karate uniform, however, convinces Mom that he may not be training at all.Labels: Asian Movie, Drama
ฟรีที่ร้าน ไอซ์เกรซ ไปกินซักสองถ้วย ดูหนังเสร็จค่อยไปเดินเล่น พารากอน แล้วก็ไปเว็คดูรอบหนัง สามมิติที่ Imax จบแล้วก็ไปเดิน Platinum เอาตามนี้แหละ
ตรงชั้นสองที่มีทางเชื่อมเดินไปพารากอนได้ สายตาเราก็เหลือบไปเห็น เคาเตอร์นาฬิกา เลยเดินแวะไปดูตามสัณชาตญานของคนชอบนาฬิกา พอเห็นเทานั้นแหละ บอกตัวเองเลยว่า เฮ้อ ไม่น่าแวะมาเลย ก็นาฬิกาที่เราไปดูน่ะดิ มันสวยมากๆ แบบถูกใจเลย อยากซื้อซัก สองสามเรือน แต่ไม่มีตังค์ เราเคยเห็นในทีวี ยี่ห้อ Toywatch ตอนแรกเราคิดว่า เรือนละไม่กี่ตังค์ ที่ไหนได้ เรือนละเป็นหมื่น แบบนี้ มันไม่ใช่ Toy แล้ว มันเอาไว้ใส่จริง ราคาแบบนี้ เราซื้อ Tag ได้เลยนะเนี่ย เลยไม่เอา ชั่งมัน ( ไอ้เจ้า ชั่งมันนี่ ดีจริงๆ หลังๆ พูดบ่อยมากกเลย 555 )
ไสที่ร้าน Icegraze ในสยาม เขินเหมือนกันนะเนี่ย แก่ป่านนี้แล้วยังจะมานั่งกินเป็นเด็กอยู่ได้ แต่ชั่งมัน ( อีกละ ) ของฟรีอ่ะ คิดอะไรมาก มทาถึงร้านโดยไม่ทันตั้งตัว ร้านสวยกว่าที่จินตนาการไว้ เป็นร้านเล็กๆ โทนสีขาว มีพนักงานอยู่ สองสามคน เก้าอี้โต๊ะ ทุกอย่างไม่เชย ดูกำลังดี ไม่เว่อมาก เราก็ตรงเข้าไปสั่ง Mixed Fruits กับ Chocolate Banana ทีเดียวสองถ้วยเลย ( นี่ถ้าเสียเงินกินคงไม่กล้า หรอก สองถ้วยเกือบ 200 บาท ) ไม่นานนัก ก็ได้กิน บอกได้คำเดียวว่า ไม่เหมือนน้ำแข็งไสอะไรที่เราเคยกินในโลกนี้เลย น้ำแข็งไสได้ละเอียดเหมือนแป้ง ผลไม้ที่ราดอย่างกีวี สตอเบอรี่ พอเข้าปากเรา เราเอาฟันขบนิดเดียว ละลายเลยอ่ะ
อร่อยมากๆ แต่อีกถ้วยที่เป็น ๙อกโกแล็ต นั่น เรากินแล้วก็โอเค แต่เราชอบ MIxed Fruits มากกว่า
มีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่ามาก วันๆ ไม่ต้องทำอะไร แต่งตัวสวย เล่น แล้วก็อยู่กับแฟน หนังดำเนินเรื่องเร็วมาก จู่ๆ นางเอกก็ได้ไปแต่งงานกับดยุกแกคนนึงที่อยากมีทายาทเร็วๆ นางเอกหน้าตาดีใจมากเลยที่ได้แต่งงานกับคนรวยๆแต่แต่งงานไปตั้งนาน ได้แต่ลูกสาว อีตาสามีเลยจ้องจะมีเมียใหม่ แล้วก็ดันไปได้กับเพื่อนางเอกที่นางเอกชวนมาอยู่ด้วยกันในบ้าน นางเอกจับได้ก็เลยวีนใส่ สุดท้ายนางเอกเลยดอดไปมีอะไรกับแฟนเก่าที่กำลังจะลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายก ผัวแก่จับได้เลยสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกัน ฯลฯ เนื้อ
เรื่องเป็นอย่างนี้จริงๆนะ เหมือนดูหนังไทยน้ำเน่า ที่พูดเรื่องในครอบครัว นั่งดูไปก็ทำใจไป เนื้อเรื่องฝรั่งก็น้ำเน่าพอกับละครไทยนั่นแหละ แสดงว่าละครไทยเราก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลแล้วมั๊ง โชคดีของหนังเรื่องนี้ ที่ได้ดาราดีๆ มาแสดง อย่าง ราฟไฟน์ เคียร่า นี่ถ้าไม่มีสองนนี้ ก็ไม่รู้จะมาดูอะไรนะเนี่ย
คือ เรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และ ฉากต่างๆ ทำได้อลังการดีมาก ดาราก็แสดงดีทุกตัว พระเอกเล่นดีจริงๆ ดูแล้วอินเลย นางเอก็โคตรผอม แต่ก็ยังสวยอยู่ ตัวอื่นๆก็โอเค รวมๆแล้ว ค่อนข้างไม่ประทับใจเท่าไหร่ ก็เพราะอีตรงเนื้อเรื่องนี่แหละ เอาไป 6.5 พอ
ผู้ทรงเสน่ห์ที่สุดในยุคนั้น ในขณะที่ความงามและเสน่ห์อันยากที่จะทนทาน ได้สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังให้กับเธอ แต่รสนิยมที่สูงส่งและความกระหายการพนันและความรัก ก็กลับทำให้ชื่อของเธอฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ หลังจากที่ได้สมรสกับดยุคแห่งเดวอนเชียร์ ผู้มีอิทธิพล และใกล้ชิดกับเหล่าข้าราชการชั้นสูง รวมไปถึง รัฐมนตรีและเจ้าชาย ที่มีอายุมากกว่าเธอเยอะ จอร์เจียนาก็ได้กลายมาเป็นแฟชันไอคอน เป็นแม่ผู้ทุ่มเท เป็นนักการเมืองผู้เจ้าเล่ห์และเป็นที่รักของสามัญชน แต่แก่นที่แท้จริงของเรื่องราวของเธอคือการไขว่คว้าหาความรักตั้งแต่ สัมพันธ์สวาทที่เร่าร้อนแต่ไม่มีทางออกระหว่างเธอกับชาร์ล เกรย์ไปจนถึงความสัมพันธ์สามเส้ากับสามีเธอและเลดี้ อลิซาเบท เบส
ฟอสเตอร์ เพื่อนสนิทของเธอเอง
surrounded her. She helped usher in sweeping changes to England as a leader of the forward-thinking Whig Party. But even as her power and popularity grew, she was haunted by the fact that the only man in England she seemingly could not seduce was her very own husband, the Duke (Ralph Fiennes). And when she tried to find her own way to be true or her heart
and loyal to her duty, the resulting controversies and convoluted liaison pushed her to the brink of risking banishment by her own husband, family and all of London society.Labels: Historical Drama, International Movie
เป็นหนังที่มีโฆษณาก่อนฉายไม่นานซักเท่าไหร่ ซักอาทิตย์ สองอาทิตย์ได้มั๊ง ก็เลยไม่ค่อยแน่ใจว่าจะยังไง แต่ด้วยความที่มีดาราดังมาแสดงอย่าง คีนู รีฟ แล้วก้ เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่ ก็เลยเบาใจไปนิดนึง เราเลยเลือกไปดูที่ SF บางกะปิ เรามีคูปอง 120 บาทอยู่ ซึ่งโรงดิจิตอล รอบปฐมทัศน์นี่เค้าต้องเพิ่มอีก 20 บาท เราเลยบอกนขายตั๋วว่า เราจะจ่ายส่วนเพิ่มด้วย Smart Purse ช่วยบริษัทเก่าเราหน่อย 5555 รู้มั๊ยว่า พนักงานตอบมาทันควันเลยว่า ไม่ได้ค่ะ ต้องจ่ายส่วนต่างด้วยเงินสดเท่านั้นเราเลยถามไปว่า ทำไมไม่ได้ล่ะ คราวที่แล้วเรายังจ่ายได้เลย ( จริงๆ
แล้ว เราจะจ่ายเงินสดไปก็ได้นะ 20 บาท จะได้จบเรื่องไป แต่ไม่ล่ะ เพราะว่า ถ้ามันไม่ได้จริงๆเนี่ย เราอยากรู้เหตุผล จะได้ไปบอกเพื่อนๆเราที่ Thai Smart Card แล้วก็ไปฟ้อง พี่กบ MD ของ SF ด้วยเลยว่า พี่ครับ ลูกน้องพี่ไม่ยอมรับบัตรอ่ะครับ นี่ ร้ายมั๊ยล่ะ 5555 ล้อเล่นน่ะ ใครจะไปบ้าทำขนาดนั้น
กลับมาคุยเรื่องหนังต่อดีกว่า เรื่องนี้ เจนนิเฟอร์ ดูดีกว่าที่แล้วมา สงสัยว่าจะเป็นเพราะผอมลงเยอะแล้ว จากภาพที่เคยติดตาเราสมัยก่อนของเธอ ส่วนคีนู สงสัยว่าจะอินกับบทในเรื่อง แมททริกซ์ นานเกินไป หลังๆ เวลาแสดงหนังเลยรู้สึกว่า จะเป็นแพทเทิร์นเดิมตลอด คือ ทื่อๆ ไม่รู้ว่า จริงๆแล้ว บทบาทแบบนี้ แสดงยากหรือง่าย เพราะเล่นเป็นอมนุษย์ เลยต้อง ทื่อๆ แบบนี้ หรือไง แต่มันดูขาดเสน่ห์อ่ะ บอกไม่ถูก ยังไงก็ไม่รู้
เหมือนดาวพฤหัสบดีที่เราเคยเห็นในหนังสือ แล้วก็หุ่นยนต์ที่ตอนสุดท้ายกลายเป็นแมลงกัดกินโลหะได้ เออแปลกดีแฮะ ส่วนเนื้อเรื่อง เราว่าตอนแรกก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจตื่นเต้นดีอยู่หรอก แต่ไปๆมาๆ มันขาดความสมจริงยังไงก็ไม่รู้อีกละ ตกลงมนุษย์ต่างดาวพวกนี้ เป็นมิตรหรือเป็นศัตรูกันแน่ เพราะตอนแรกก็บอกว่าเป็นมิตร แล้วจะมาทำลายโลกทำไมอ่ะ ก็พูดกันดีดีสิ จะบอกว่าคนไปทำเค้าก่อนก็ว่าไม่ได้อีก อ้าวก็ตัวเองมีพลังเยอะแยะ แล้วเราก็ไม่รู้ว่าตัวเองมาดีหือมาร้าย เราก็ต้องป้องกันตัวเองดิ
เลย แล้วก็เลยเอามาใช้อธิบายเรื่องบาปบุญได้บางกรณี ไม่เอาละ พูดไปเดี๋ยวจะหาว่าเพ้อเจ้อ เอางี้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ เราก็เลยรู้สึกว่า ยังไม่โดนเท่าไหร่ นะ เราให้ 7.1 อ่ะ ให้ดูอีกก็ไม่เอา แชอบ CG เรื่องนี้นะ ขอบอก ทำได้ดีเลย โดยฌพาะตอนที่แมงกินตึก ป้ายต่างๆ ทำได้ดีมากกกกกกกกกกก
เขาจึงนำสารมาเตือนมนุษย์โลก และถ้าไม่ทำตาม ความวิบัติครั้งยิ่งใหญ่ก็จะต้องเกิดขึ้น
appearance. A scientist Helen (Jennifer Connelly) and her young stepson Jacob (Jaden Smith) get caught up in Klaatu's mission, and come to understand the ramifications of his being a self-described 'friend to the Earth'..jpg)
Labels: International Movie, Sci-fi Action