หนังเรื่องนี้ ฉายที่ Lido ที่เดียว ใจน่ะอยากดูแต่รู้สึกว่าไปไกลขนาดนั้น เพื่อดูหนังเรื่องเดียว ไม่ค่อยคุ้ม เฮ้อ แต่อยากดูก็อยากดู ไม่รู้จะทำยังไง เลยต้องวางแผน ไหนๆจะไปแถวสยามทั้งที ต้องเอาให้คุ้มหน่อย เลยมานั่งนึกว่า เอ เรามีธุระอะไรที่จะต้องทำแถวนั้นบ้างนะ แล้วเราจะไปกินข้าวที่ไหน แถวนั้นของแพงจะตายชัก ฯลฯ โอเค เลยสรุปว่า เราจะนั่งรถเมลล์ไปก็แล้วกัน ไปลงที่ BigC ราชดำริ หาร้านคูปองกินในนั้นเลย จะได้ประหยัดเงิน แล้วก็ค่อยข้ามถนนไป เซ็น ไปเดินดูของซะหน่อย จากนั้น ค่อยไปตีตั๋วดูหนัง ถ้าเวลาเหลือก็เอาคูปองกินขนม
.jpg)
ฟรีที่ร้าน ไอซ์เกรซ ไปกินซักสองถ้วย ดูหนังเสร็จค่อยไปเดินเล่น พารากอน แล้วก็ไปเว็คดูรอบหนัง สามมิติที่ Imax จบแล้วก็ไปเดิน Platinum เอาตามนี้แหละ
ตามแผนที่หนึ่ง กินข้าวก่อน เราแลกคูปองไป ร้อยหนึ่ง คิดว่าจะกินซัก สามสิบบาท แต่แลกเผื่อไว้ นื่องจากเราไม่ได้กินข้าวต้มนานมากแล้ว เราก็เลยเลือกกนข้าวต้มแดง เลือกกับข้าว สองอย่างพอ เป็นหมูหวาน กับ ไข่เยี่ยวม้าฟองนึง คนขายคิดเรา 55 บาท เราว่า แพงไปนะ ข้าว 5 บาท กับข้าวอย่างละ 25 แต่ไหนๆก็ไหนๆ สั่งไปแล้ว ก็กินให้เสร็จๆ จะได้รีบไปดูหนัง เราเดินข้ามถนนไป เซ็น

ตรงชั้นสองที่มีทางเชื่อมเดินไปพารากอนได้ สายตาเราก็เหลือบไปเห็น เคาเตอร์นาฬิกา เลยเดินแวะไปดูตามสัณชาตญานของคนชอบนาฬิกา พอเห็นเทานั้นแหละ บอกตัวเองเลยว่า เฮ้อ ไม่น่าแวะมาเลย ก็นาฬิกาที่เราไปดูน่ะดิ มันสวยมากๆ แบบถูกใจเลย อยากซื้อซัก สองสามเรือน แต่ไม่มีตังค์ เราเคยเห็นในทีวี ยี่ห้อ Toywatch ตอนแรกเราคิดว่า เรือนละไม่กี่ตังค์ ที่ไหนได้ เรือนละเป็นหมื่น แบบนี้ มันไม่ใช่ Toy แล้ว มันเอาไว้ใส่จริง ราคาแบบนี้ เราซื้อ Tag ได้เลยนะเนี่ย เลยไม่เอา ชั่งมัน ( ไอ้เจ้า ชั่งมันนี่ ดีจริงๆ หลังๆ พูดบ่อยมากกเลย 555 )
โอ้ ยังมีเวลาถมถืด หลังจจากตีตั๋วเสร็จ เราก็เลยเดินไปกินน้ำแข็ง

ไสที่ร้าน Icegraze ในสยาม เขินเหมือนกันนะเนี่ย แก่ป่านนี้แล้วยังจะมานั่งกินเป็นเด็กอยู่ได้ แต่ชั่งมัน ( อีกละ ) ของฟรีอ่ะ คิดอะไรมาก มทาถึงร้านโดยไม่ทันตั้งตัว ร้านสวยกว่าที่จินตนาการไว้ เป็นร้านเล็กๆ โทนสีขาว มีพนักงานอยู่ สองสามคน เก้าอี้โต๊ะ ทุกอย่างไม่เชย ดูกำลังดี ไม่เว่อมาก เราก็ตรงเข้าไปสั่ง Mixed Fruits กับ Chocolate Banana ทีเดียวสองถ้วยเลย ( นี่ถ้าเสียเงินกินคงไม่กล้า หรอก สองถ้วยเกือบ 200 บาท ) ไม่นานนัก ก็ได้กิน บอกได้คำเดียวว่า ไม่เหมือนน้ำแข็งไสอะไรที่เราเคยกินในโลกนี้เลย น้ำแข็งไสได้ละเอียดเหมือนแป้ง ผลไม้ที่ราดอย่างกีวี สตอเบอรี่ พอเข้าปากเรา เราเอาฟันขบนิดเดียว ละลายเลยอ่ะ
.jpg)
อร่อยมากๆ แต่อีกถ้วยที่เป็น ๙อกโกแล็ต นั่น เรากินแล้วก็โอเค แต่เราชอบ MIxed Fruits มากกว่า
ถึงเวลาดูหนังละ ทั้งโรงมีไม่ถึง สิบคนเลย โรงออกไปทางกว้างมาก แต่ตื้นมาก คือมีแถวประมาณ สิบแถว แต่ว่าแต่ละแถวเราว่ามีที่นั่งประมาณ 40 ที่นั่ง อ่ะ เยอะมั๊ยล่ะ โชคดีที่เรานั่งแถวบนสุด ตรงกลาง เลยดูแล้วน่าจะโอเคที่สุด เลยเปิดฉากมาก็พูดถึงนางเอกกำลังพนันกับเพื่อนๆว่าแฟนใครวิ่งเร็วที่สุด ปรากฏว่าแฟนนางเอกชนะ หนังพยายามสื่อให้เห็นว่านางเอก
.jpg)
มีชีวิตที่หรูหราฟู่ฟ่ามาก วันๆ ไม่ต้องทำอะไร แต่งตัวสวย เล่น แล้วก็อยู่กับแฟน หนังดำเนินเรื่องเร็วมาก จู่ๆ นางเอกก็ได้ไปแต่งงานกับดยุกแกคนนึงที่อยากมีทายาทเร็วๆ นางเอกหน้าตาดีใจมากเลยที่ได้แต่งงานกับคนรวยๆแต่แต่งงานไปตั้งนาน ได้แต่ลูกสาว อีตาสามีเลยจ้องจะมีเมียใหม่ แล้วก็ดันไปได้กับเพื่อนางเอกที่นางเอกชวนมาอยู่ด้วยกันในบ้าน นางเอกจับได้ก็เลยวีนใส่ สุดท้ายนางเอกเลยดอดไปมีอะไรกับแฟนเก่าที่กำลังจะลงสมัครเลือกตั้งเป็นนายก ผัวแก่จับได้เลยสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกัน ฯลฯ เนื้อ
.jpg)
เรื่องเป็นอย่างนี้จริงๆนะ เหมือนดูหนังไทยน้ำเน่า ที่พูดเรื่องในครอบครัว นั่งดูไปก็ทำใจไป เนื้อเรื่องฝรั่งก็น้ำเน่าพอกับละครไทยนั่นแหละ แสดงว่าละครไทยเราก้าวเข้าสู่ความเป็นสากลแล้วมั๊ง โชคดีของหนังเรื่องนี้ ที่ได้ดาราดีๆ มาแสดง อย่าง ราฟไฟน์ เคียร่า นี่ถ้าไม่มีสองนนี้ ก็ไม่รู้จะมาดูอะไรนะเนี่ย
สรุป เราไม่มีอะไรจะพดแล้วสำหรับหนังเรื่องนี้ ตอนแรกนึกว่าจะมีอะไรลึกซึ้งกว่านี้ กลับกลายเป็นเรื่องส่วนตัวของคนนครอบครัว ที่ไม่ว่าเศรษฐี หรือคนจนก็มีเหมือนกัน นั่นก็คือเ รื่อง กิเลส ตัณหา ดูแล้วก็ปลง ข้อดีของหนังเรื่องนี้
.jpg)
คือ เรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และ ฉากต่างๆ ทำได้อลังการดีมาก ดาราก็แสดงดีทุกตัว พระเอกเล่นดีจริงๆ ดูแล้วอินเลย นางเอก็โคตรผอม แต่ก็ยังสวยอยู่ ตัวอื่นๆก็โอเค รวมๆแล้ว ค่อนข้างไม่ประทับใจเท่าไหร่ ก็เพราะอีตรงเนื้อเรื่องนี่แหละ เอาไป 6.5 พอ
เนื้อเรื่องย่อ เป็นเรื่องเล่าร่วมสมัยเกี่ยวกับชื่อเสียง ความโด่งดังและการไขว่คว้าหาความรักของหญิงสาว ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นในตอนปลายศตวรรษ ที่สิบแปด ในมหานครลอนดอน ประเทศอังกฤษ ของจอร์เจียนา สเปนเซอร์ สาวสวยผู้งดงาม
.jpg)
ผู้ทรงเสน่ห์ที่สุดในยุคนั้น ในขณะที่ความงามและเสน่ห์อันยากที่จะทนทาน ได้สร้างชื่อเสียงจนโด่งดังให้กับเธอ แต่รสนิยมที่สูงส่งและความกระหายการพนันและความรัก ก็กลับทำให้ชื่อของเธอฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ หลังจากที่ได้สมรสกับดยุคแห่งเดวอนเชียร์ ผู้มีอิทธิพล และใกล้ชิดกับเหล่าข้าราชการชั้นสูง รวมไปถึง รัฐมนตรีและเจ้าชาย ที่มีอายุมากกว่าเธอเยอะ จอร์เจียนาก็ได้กลายมาเป็นแฟชันไอคอน เป็นแม่ผู้ทุ่มเท เป็นนักการเมืองผู้เจ้าเล่ห์และเป็นที่รักของสามัญชน แต่แก่นที่แท้จริงของเรื่องราวของเธอคือการไขว่คว้าหาความรักตั้งแต่ สัมพันธ์สวาทที่เร่าร้อนแต่ไม่มีทางออกระหว่างเธอกับชาร์ล เกรย์ไปจนถึงความสัมพันธ์สามเส้ากับสามีเธอและเลดี้ อลิซาเบท เบส
.jpg)
ฟอสเตอร์ เพื่อนสนิทของเธอเอง
Synopsis : The Duchess of Devonshire, Georgiana Spencer (Keira Knightley), was the original "It Girl." Like her direct ancestor Princess Diana, she was ravishing, glamorous and adored by an entire country. Determined to be a player in the wider affairs of the world, she proved that she could out-gamble, out-drink and outwit most of the aristocratic men who
.jpg)
surrounded her. She helped usher in sweeping changes to England as a leader of the forward-thinking Whig Party. But even as her power and popularity grew, she was haunted by the fact that the only man in England she seemingly could not seduce was her very own husband, the Duke (Ralph Fiennes). And when she tried to find her own way to be true or her heart
.jpg)
and loyal to her duty, the resulting controversies and convoluted liaison pushed her to the brink of risking banishment by her own husband, family and all of London society.