ได้ตั๋วฟรีมาจาก Visa Wave ให้ไปดูหนังที่ SF ได้ฟรี เราสู้อุตส่าห์เก็บบัตรนี้เอาไว้จนถึงวันนี้ที่รอคอย 555 วันที่ 23 ตุลาคม วันที่เราจะได้ดู ปืใหญ่จอมสลัด ที่เรารอมาตั้งสองปีแน่ะ หลังจากที่เรารู้ว่าจะเอามาสร้างโดย นนทรีย์ นิมิบุตร โห ตอนนั้น เราก็เห็นประโคมข่าวใหญ่เลยว่า เป็นหนังฟอร์มยักษ์ ในที่สุดก็ได้ดูซะที
ตั้งแต่ดูหนัง( แบบเสียเงิน) ที่โรงนี้มา ยังไม่เคยเห็นหนังรอบไหน คนเยอะขนาดนี้มาก่อน คนเยอะมากๆ พอเข้าไปนั่งในโรงถึงได้รู้ว่า คนมันเยอะขนาดไหน มองไปทางไหนมีแต่หัวคนนั่งเต็มทุกเก้าอี้เลย นี่ขนาดโรง ดิจิตอล ซึ่งตั๋ว 140 บาทนะเนี่ย จะรำคาญหน่อยก็อีตรง คนนั่งข้างๆนี่แหละ ที่แซวหนังตลอดเรื่อง คงนึกว่าเราจะสนุกไปด้วยมั๊ง ขอโทษที รำคาญสุดๆ
หนังเปิดฉากมาก็ถ่ายให้เห็นปืนใหญ่กำมะลอกระบอกนึง ค่อยๆจมลงใต้ทะเล คือเราว่า ปืนใหญ่ขนาดนั้น มันน่าจะมีน้ำหนักมากๆๆ มันไม่น่าจะเด้งไปมาได้ขนาดนั้นนะ แต่เอาเหอะ นิดๆหน่อยๆ ก็ถือว่าทำใช้ได้นะ มีลวดลายบนกระบอกปืนใหญ่เป็นลายไทย ไม่รู้เรียกว่าลายตาอ้อย หรือเปล่า เนื้อเรื่องดูสนุกเลยแหละ เราว่าเค้า

มีการพูดถึง เจ้าแม่ ลิ้มกอเหนี่ยว ด้วยนะ แต่เวอชั่นภาพยนต์นี่ไม่ตรงกับที่เราเคยได้ยินมานะ ที่เราได้ยินได้อ่านมาเนี่ย พูดถึง พี่ชาย ลิ้มเคี่ยม ที่มารักกับสาวใต้ แล้วมีการสร้างมัสยิด เจ้าแม่พยายาม ขอร้องให้พี่ชายกลับจีน จนสุดท้ายรู้ว่าไม่มีทางทำให้กลับได้แล้วแน่ๆ เลยขอลาตาย ก่อนตายได้สาบแช่งไม่ให้มัสยิดที่ต้องการสร้างนี้สำเร็จ ก็ปรากฎว่า สร้างไม่สำเร็จจริงๆ จะต้องมีเหตุอาเพทเกิดขึ้นเสมอ ถึง 3 ครั้ง 3 ครา คนใต้เลยนับถือในความศักดิ์สิทธิ์ ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมากๆๆ ( ปัตตานี ) แต่เรื่องนี้ พี่ชายมาสร้างปืนใหญ่แทน เลยไม่รู้อันไหนถูกไม่ถูก เอาเป็นว่า ดูหนุกๆก็แล้วกัน ( แต่ส่วนตัวเราเชื่ออันที่เราอ่านมามากกว่านะ )
ดูๆไปหนังมันมีเรื่องเกี่ยวกับไสยศาสตร์เยอะเลย มีการหายตัว มีเข้าทรง มีการฝึกมนต์เรียกปลาด้วย ส่วนนี้ทำให้หนังดูสนุกขึ้น แต่ก็ทำให้หนังดูลดความน่าเชื่อถือไปนิดนึง ยังไงก็ตามเราก็ให้อภัยนะ เพราะแค่มาดูชุดที่จารรุณีใส่ กับ ฉาก ก็คุ้มแล้ว (ส่วนใหญ่ที่เห็นในเรื่อง เป็น CG เกือบ 80 % นะ เราว่า ไม่ว่าจะเป็น ปลาวาฬเอย ปลากระเบนเอย กำแพงเมืองเอย CG ล้วนๆ อย่างที่บอกแหละว่าให้อภัย ดูก็รู้ว่าตั้งใจทำ

เต็มที่แล้ว ไม่เหมือนกับหนังหลายๆเรื่องที่ทำแบบตั้งใจมาหลอกเอาตังเราเหมือนที่ผ่านๆมา
สรุป รวมๆแล้ว เราชอบมาก ๆ ทำได้ดีสมที่รอคอย เนื้อเรื่องก็สนุก เสียอย่างเดียวไม่ตรงกับที่เราอ่านมา 5555 แต่เอาเหอะ เนื่องจากความดีมีเยอะ มันก็เลยกลบความเลวซะมิดเลย อีกอย่างที่ชอบคือ ความตั้งใจในการทำ คือ ดูออกเลยอะ ว่าตั้งใจมากๆ ทั้งภาษาจีน ภาษาอังกฤษที่พูดในเรื่อง ตัวแสดงพูดได้ดีมากๆๆ เครื่องแต่งกายก็โอเค ฉากก็ดี ตัวแสดงก็เยี่ยม ถ้าจะชมตัวแสดงก็ต้องชม สรพงษ์ จารุณี กับ อนันดา ที่เหลือก็พอไปได้ ถ้าจะพยายามหาที่ติให้เจอก็ตรง CG บางทีดูไม่เนียนเท่าไหร่ แต่ก็ถือว่าสอบผ่าน อย่างฉากที่แพลอยในทะเลนี่ แพนิ่งเกินเหตุ เป็นต้น รวมๆแล้ว ชอบหนังไทยเรื่องนี้ที่สุดในบรรดาหนังไทยที่ดูมาปีนี้ เราให้ไปเลย 9.1
เรื่องย่อ 400 ปีที่แล้ว ลังกาสุกะ รัฐอิสระต้องสูญเสีย รายาบาฮาดูร์ ชาห์ จากการถูกลอบปลงพระชนม์ ราชวงศ์ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากการสถาปนา องค์หญิงฮีเจา (จารุณี สุขสวัสดิ์) ธิดาคนโตขึ้นเป็นรายาสตรีองค์แรกแห่งลังกาสุกะ แม้รายาฮีเจาจะปกป้องบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง แต่เหล่าแคว้นรอบด้าน

รวมทั้งกลุ่มกบฏและโจรสลัดต่างๆ ล้วนหมายจะยึดครองดินแดนอันมั่งคั่งแห่งนี้
จนกระทั่งปราชญ์แห่งอาวุธชาวดัชท์ เดินทางมาพร้อมกับศิษย์เอกนักประดิษฐ์ชาวจีนนาม ลิ่มเคี่ยม (จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม) เพื่อนำมหาปืนใหญ่ อาวุธที่ดีที่สุดไปถวายรายาฮีเจาใช้ป้องกันบ้านเมือง แต่กลับถูกกลุ่มโจรสลัดที่นำโดย เจ้าชายราไว (เอก โอรี) และ อีกาดำ (วินัย ไกรบุตร) ผู้มีวิชาดูหลำอันแก่กล้า ซุ่มโจมตีเพื่อชิงมหาปืนใหญ่ จนทำให้เรือฮอลันดาระเบิด กระบอกปืนใหญ่จมลงสู่ก้นทะเล เหลือเพียงแต่ ลิ่มเคี่ยม ที่รอดชีวิต
เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเป็นเวลากำเนิดของ ปารี (อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม) เด็กชายชาวเลผู้มีคุณสมบัติพิเศษในตัวที่จะสามารถฝึกวิชาดูหลำขั้นสูงได้ ปารี เติบโตเป็นหนุ่ม พร้อมกับสั่งสมทั้งความสามารถและความแค้นในการสะสาง อีกาดำ ที่ทำให้พ่อและแม่ของตนต้องตาย ลิ่มเคี่ยม ซึ่งช่วยชีวิต ปารี ในครั้งนั้นไว้ได้ หลบมาใช้ชีวิตอยู่กับหมู่บ้านชาวเล พร้อมประดิษฐ์อาวุธพิสดารมากมาย และตั้งกลุ่มก่อกวนตัดกำลังโจรสลัดขึ้น
ในอีกด้าน แม้ลังกาสุกะจะมีทหารเอกฝีมือเยี่ยมอย่าง ยะรัง (ชูพงษ์ ช่างปรุง) แต่ ฮีเจา ก็ยังจำเป็นต้องให้ อูงู (แอนนา แฮมบาวรีส) น้องสาวคนเล็กของตนอภิเษกกับ เจ้าชายปาหัง (เจษฎาภรณ์ ผลดี) เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งให้ลังกาสุกะ แม้ อู

งู จะไม่เต็มใจก็ตาม ขณะที่ ยะรัง นั้นกลับตกหลุมรัก บิรู (แจ๊คคลิน อภิชนานนท์) องค์หญิงคนรอง แต่กลับไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกนั้นได้
การต่อสู้ของหลายฝ่ายก่อตัวขึ้น ปารี ได้มาพบกับ อูงู ทั้งคู่หลงไปติดเกาะร้างแห่งหนึ่ง ทำให้ ปารี ได้ฝึกวิชาดูหลำชั้นสูงจาก อาจารย์กระเบนขาว (สรพงษ์ ชาตรี) ปรมาจารย์ทางดูหลำ และพบว่าดูหลำคือวิชาที่มีทั้งด้านสว่างที่ทรงพลังและด้านมืดที่น่ากลัว ยากจะควบคุมจิตใจเอาไว้ได้ พร้อมกับที่ความรักของทั้ง ปารี และ อูงู ได้งอกงามขึ้น ขณะเดียวกัน ลิ่มเคี่ยม กลับถูกกลุ่มสลัดจับตัวเป็นเชลยไว้ได้ และถูกบังคับให้ต้องสร้างปืนใหญ่ที่จะนำมาใช้ทำลายล้างรัฐลังกาสุกะ
สงครามครั้งใหญ่กำลังจะเริ่มขึ้น โดยลังกาสุกะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะกองทัพโจรสลัดกลับสามารถกู้มหาปืนใหญ่ในตำนานนั้นจากก้นทะเลไว้ได้ ลังกาสุกะเป็นเป้าหมายของการทำลายล้าง มีเพียง ยะรัง นักรบผู้กล้า ปัญญาของ ลิ่มเคี่ยม และ อูงู ผู้พร้อมสละทั้งชีวิตกับความรักเพื่อแผ่นดิน รวมถึงพลังดูหลำอันลึกลับของ ปารี เท่านั้น ที่จะต่อกรกับแสนยานุภาพจากกองทัพโจรสลัดได้
SynopsisIn 1600 A.D. Queen Hijau of Langkasuka felt the heat of internal conflict when a rogue prince conspired with a abnd of ruthless pirates to incite a rebellion. They plotted a schene to high-jack a number of high callber cannons from a Dutch vessel. The secret plot falls spectacularly as the ship, along with its crew and weapons sink into the abyss after an almighty explosion. The fateful incident happens on the same day as the birth of "Pan", born with a hereditary gift that enables him to communicate with creatures of the sea. In years to come and after much training Pan's uncanny ability would be used to help the reigning monarchy defeat the merciless pirates that threaten their shores. Pan will call upon whales, sirens, dolphins and serpents to aide him in a historic sea battle that be recalled for centuries.