เสียดายที่ไม่ได้มาดูหนังเรื่องนี้ ในวันที่หนังเข้าวันแรก 9 กันยา 2009 เลข 9 เรียงกันสวยดี เป็นวันนึงที่ชาวโลกส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นวันมงคล ก็เลยมีทั้งคนแต่งงาน หนังเข้า รวมทั้งกิจกรรมดีดี อย่างการถวายพระพร ในหลวงด้วย เราเองก็แสดงความจงรักภักดีด้วยการร้องเพลงสรรเสริญ และเพลง สดุดีมหาราชากะเข้าด้วยคน ทำแล้วมีความสุขดีจัง หนังเรื่องนี้เราก็เลยได้มาดูในวันที่สอง ก็คือวันที่ 10 กันยา ไม่เป็นไร สายไปวันเดียว แต่คนอุ่นหนาฝาคั่งดีเหลือเกิน เห็นแล้วก็โล่งใจแทนเจ้าของโรงหนัง อย่างนี้คงได้เงินบ้าง เราเลือกมาดูที่ เอสเอฟ เดอะมอลบางกะปิ สลับกับเมเจอร์บ้าง ซึ่งการสลับกันครั้งนี้ ทำให้เรารู้เลยว่า สองค่ายนี้ คุณภาพของโรงแตกต่างกันจริงๆ เราพูดอย่างเป็นกลางเลยนะ เนื่องจากหลังๆเนี่ยเราไปดูที่ เมเจอร์แบบถี่มากๆ พอเราเปลี่ยนมาดูที่เอสเอฟเรื่องแรกนี่ก็ได้เรื่องเลย เพราะคุณภาพของเสียงดีมากๆ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่ออรรถรสในการดูหนัง มันทำให้หนังดูสนุกและน่ากลัวขึ้นเป็นพะเรอเกวียนหลังจากที่เราได้ดูทั้งห้าเรื่องย่อยนี่แล้ว เรียงตามลำดับความชอบของเนื้อเรื่อง เราชอบ หลาวชะโอน ที่สุด รองลงมา คือ ห้องเตียงรวม ถัดมาเป็นเรื่อง รถมือสอง แล้วก็ แบ็กแพ็กเกอร์ สุดท้ายคือ คนกอง แต่ถ้าเรียง
.jpg)
ตามลำดับดาราห้าตัวเอกที่ชอบแล้วละก็ มาช่าจากเรื่องคนกองมาเบอร์หนึ่ง แดน บีทูบี จากเรื่องห้องเตียงรวมมาเป็นที่สอง นิโคล จากเรื่อง รถมือสองที่สาม น้องเก้า จากหลาวชะโอนได้ที่สี่ ส่วน ชาลี ไตรรัตน์ จากเรื่อง แบ็กแพกเกอ์ เราให้สุดท้ายเลย เพราะยังเล่นแข็งอยู่มาก ๆ เทียบกับสี่แพร่งแล้ว เราว่า สี่แพร่งมีเรื่องที่โดนใจสุดๆ คือเรื่องสุดท้าย ที่เป็นศพเจ้าหญิงขึ้นเครื่องบิน โอย นั่น หลอนมากๆ ส่วน ห้าแพร่งนี่ ไม่มีเรื่องไหนหลอนขนาดสี่แพร่งเลย แต่ก้คุ้มเงิน เพราะได้ดูตั้งห้าเรื่องย่อย แต่ก็ได้อารมณ์พอสมควรนะ ไม่ใช่ว่าไม่ดีเลย เพียงแต่ เราว่ามันไม่หลอนเท่าเจ้าหญิงสี่แพร่งเท่านั้นเอง เราว่าเรื่องคนกองนั่น มันหักมุมออกมาเป็นแนวตลกมากจนไม่น่ากลัวเลย ดูแล้วขำ จะว่าดีก็ดี เพราะเป็นตอนสุดท้ายนคนดูใกล้จะกลับบ้านแล้วจะได้ไม่ต้องเครียดมาก 5555
รวมๆแล้ว เราให้ 7.7 นะ เพราะอย่างที่บอก ไม่ค่อยปลื้มซักเท่าไหร่กับความหลอน แต่คุ้มกับค่าตั๋ว ที่ได้ดูห้าเรื่องย่อยๆ พูดก็พูดเหอะ ไอ้แนว หลายๆเรื่องในเรื่องเดียวเนี่ย เราถนัดนักเลย ชอบมั่กๆ
เรื่องย่อ : หลาวชะโอน - สำหรับ เป้ (จิรายุ ละอองมณี) เด็กชายวัย 14 ปี เรื่องของกรรมเป็นเรื่องเชย
.jpg)
สุดๆ เขาลงมือปาหินใส่รถกระบะแถวบ้านเพียงเพราะอยากได้โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องใหม่ เมื่อเหยื่อเสียชีวิต คุณแม่พา เป้ หนีไปบวชในวัดป่าห่างไกล ภายใต้ผ้าเหลือง เป้ พ้นจากเงื้อมมือกฎหมาย แต่กลับตกอยู่ในเงาของมืออีกมือหนึ่ง มันเอื้อมเข้ามาหาเขาช้าๆ ทว่าไม่หยุดยั้ง นั่นเพราะกรรมไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ใคร มันไม่รู้จักคำว่า ให้อภัย
ห้องเตียงรวม - หนุ่มทะเล้นขี้เล่นคนหนึ่ง (วรเวช ดานุวงศ์) ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำจนขาหักทั้ง 2 ข้าง จากห้องฉุกเฉินเขาถูกย้ายไปสู่ห้องเตียงรวม ทั้งๆ ที่อยากนอนห้องพิเศษ และในห้องรวมนี้ คนไข้เตียงติดกับชายหนุ่มเป็นร่างไร้สติของชายชราอาการสาหัสที่นอนรอวันปิดอ็อกซิเจนมาแล้วร่วมเดือน แต่เหมือนกับจะรู้ว่าเพื่อนหนุ่มหน้าใหม่เป็นคนขี้กลัว คืนนั้นชายแก่จึงลุกขึ้นมาเยี่ยมเขาถึงข้างเตียง!
แบ็กแพกเกอร์ส - คู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งฉลองเรียนจบด้วยการแบกกระเป๋าตะลุยเมืองไทย ขากลับจากสมุยพวกเขาใช้วิธีโบกรถเข้ากรุงเทพฯ แต่โบกไม่ได้สักคัน หนุ่มยุ่นตัดสินใจใช้ธนบัตร 1 พันบาทเป็น
.jpg)
รางวัลล่อ รถพ่วงคันหนึ่งจึงจอดรับ โชคร้ายที่สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์และใบหน้ายิ้มแย้มของคนขับกับเจ้าเด็กรถ (ชาลี ไตรรัตน์) เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้อะดรีนาลินของทุกคนต้องคลั่ง
รถมือสอง - คนมีประวัติ รถก็มีประวัติ ยิ่งถ้าเป็นรถมือสอง ประวัติศาสตร์ของแต่ละคันอาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของใหม่อยากรู้ กลางดึกสงัดหลังเต็นท์ปิด นุช (นิโคล เทริโอ) เจ้าของเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ย่านชานเมืองพบว่าลูกชายของเธอหายตัวไป ท่ามกลางแถวรถนับร้อยคัน เทปกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าลูกของเธอแอบเข้าไปเล่นในรถคันหนึ่งที่เธอเพิ่งรับซื้อมา... แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย
คนกอง - เต๋อ (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์) เผือก (พงศธร จงวิลาส) ชิน (วิวัฒน์ คงราศี) และ เอ (กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข) เป็นนักสร้างภาพยนตร์ผีที่ถ่ายทำมาจนเหลือเพียง 2 ช็อตสุดท้าย แต่แล้วนักแสดงสาวหน้าใหม่ที่รับบทเป็นผีเกิดหัวใจวายตายกลางกองถ่าย ซวยสุดยอดที่ก่อนหน้านั้น เผือก ดันไปเสร่อทำเท่สอนเธอว่า เดอะ โชว์ มัสต์ โก ออน เธอจึงกลับมาแสดงต่อ ทั้งสี่จึงต้องถ่ายภาพยนตร์ผีที่มีผีเล่นเป็นผีให้จบให้จงได้... โดยห้ามไม่ให้ พี่ช่า

(มาช่า วัฒนพานิช) นางเอกของเรื่องรู้ความจริงเป็นอันขาด!
Synopsis: Phobia 2 is a five part horror anthology with some of Asia''s best directors at the wheel. This includes segments from Banjong Pisanthanakun and Parkpoom Wongpoom (Shutter), as well as Paween Purikitpanya (Body #19), Songyos Sugmakanan (Dorm), and Visute Poolvoralaks.