Saturday, September 26, 2009,9/26/2009 05:11:00 PM
Imax Under the sea 3D : มหัศจรรย์ใต้ทะเล สามมิติ

ไม่ได้ดูหนังสามมิติที่ Imax นานเนแล้ว วันนี้ได้ฤกษ์มาดูซักที พอดี เพื่อนที่เชียงใหม่ อยากดูเลยพาไปดูซักหน่อยเป็นการเปิดหูเปิดตา ตั๋วใบละ 250 บาทนับว่าแพงเอาการอยู่ สำหรับหนัง 60 นาที แต่ก็เอาน่ะ ช่วยเจ้าของโรงหนังหน่อย เชื่อมั๊ย โรงเบ้อเริ่มเทิ่ม มีคนดู ไม่ถึง 10 คน เป็นคนต่างชาติซะ 6 คน และเรากะเพื่อนเราอีก 2 คน นี่คือจำนวนคนในโรงทั้งหมด ที่นั่งทั้งหมดน่าจะมีประมาณ พันที่นั่งหรือเปล่า ก็ไม่รู้ แต่โรงโคตรใหญ่ จอยักษ์มากๆ ขืนเป็นอย่างนี้ทุกรอบ คงเจ๊ง เข้าเรื่องดีกว่า หนังที่เราดู เป็นแนวสามมิติต้ทะเลอีกแล้ว แต่คราวนี้ ได้เห็นสัตว์แปลกๆในทะเลแถบออสเตรเลีย คือเราเดาไว้อยู่แล้วว่า หนังคงออกมาแนวนี้ ที่ว่าจะต้องโชว์ สัตว์ทะเลสวยๆแปลกๆ แต่ไม่นึกว่ามันจะสวยงามสมจริงซะขนาดนี้ ภาพมันเด้งออกมาจริงๆเลย ดูตื่นตาตื่นใจมากๆ ฉากที่ปลาต่างๆพรางตัวในพื้นทราย แล้วฮุบเหยื่อเป็นอะไรที่ชาตินี้ไม่เคยนึกว่าจะเห็นอะไรที่มันใกล้และสมจริงขนาดนี้ มันฮุบเร็วมากๆ พอดูเป็นสามมิติแล้วเหมือนมันจะฮุบเราเข้าไปด้วย แมงกะพรุน ที่เห็นในจอก็สวยงามอย่างกับของปลอม ดูเหมือนกระโปรงผู้หญิงโบกอยู่ในท้องน้ำ แล้วเราก็เพิ่งรู้นะ ว่า เต่าทะเลกินแมงกะพรุนด้วย กัดใหญ่เลย น่าสงสาร เรื่องนี้เราให้ 7.6 คะแนนเลย เพราะว่า หนังดี เป็นสารคดีที่ดูสนุก ภาพตื่นตาตื่นใจ จริงๆเราควรจะให้ซัก 8 แต่เพราะ Subtitle ที่ทำแย่มาก ไม่ใช่ว่าแปลไม่ดีนะ คนแปลๆดีมากๆ เสียแต่ตรงที่เวลาพิมพ์เข้าไปในฟิล์ม เราไม่รู้ว่าคนทำทำผิดพลาดหรือยังไง คือตัวหนังสือมันซ้อนกัน ไม่เด้งออกมาไม่พอแถมดูแล้วปวดหัวอ่านไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก
เนื้อเรื่อง : จะนำความบันดาลใจอันพิเศษสุดและหนทางความบันเทิงในการสำรวจผลกระทบ ของสภาพการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศของโลกที่มีต่อมหาสมุทรอันเวิ้งว้างกว้างไกล ภาพยนตร์การผจญภัย 3 มิติ ไอแม็กซ์ จะนำพาผู้ชมให้เคลิบเคลิ้มหวั่นไหวไปกับ บรรยากาศใต้ทะเลลึกอันเปล่าเปลี่ยวและแปลกมหัศจรรย์ที่อยู่บนโลกนี้ รวมถึงออสเตรเลียใต้ นิวกีนี และอื่น ๆ ในอาณาบริเวณภูมิภาคอินโด-แปซิฟิค และนำผู้ชมให้พบกับประสบการณ์การเผชิญหน้ากับเหล่าสัตว์ต่าง ๆ ในท้องทะเลที่น่าตื่นตะลึงและน่าฉงน
Synopsis : A very wonderful world under the sea in Australia in 3D experience will take you a new paradise you will never forget .

Labels: , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
,9/26/2009 05:08:00 PM
Dreamaholic : ฝันโคตรๆ
เราไม่ได้ดูหนังที่โรง EGV ลาดพร้าว น่าจะซักปีนึงแล้วมั๊ง เพราะโรงเหม็นอับมากๆ บอกเท่าไหร่ก็ไม่หาย มีดีอย่างเดียวคือ ตั๋วถูก 80 บาททุกวันทุกเรื่องทุกรอบ เราก็เลยมาดูที่นี่ เพราะถูกดี ทนเหม็นเอาหน่อย อีกอย่าง เรื่องนี้ไม่มีฉากแอคชั่นหวือหวาอะไร ดูโรงนี้ก็น่าจะพอ ขอบอกว่า ตัดสินใจอยู่หลายวันเหมือนกันว่าจะดูด๊มั๊ย เพราทนหน้าตาของพระเอกไม่ไหว เราว่าเค้าก็น่ารักดีนะ แต่ติดว่าเหี่ยวไปนิดนึง ( ซักวันเราก็ต้องเป็นแบบเค้าเหมือนกัน เลยไม่กล้าว่ามาก 5555 ) แต่เราดีใจที่เราตัดสินใจถูกที่มาดูเรื่องนี้ เพราะหนังดีมาก นางเอกน่ารัก เนื้อเรื่องแปลกดี ดูแล้วนึกถึงเรื่องThe Secret ของเจโชว์ บวกกับ Somewhere in time บวกกับโคตรรักเอ็งเลย แบบว่าเราเดาเนื้อเรื่องไม่ถูกเลย งง ไปหมด ขนาดดูจบแล้วยังงง ว่ามันเป็นอย่างงี้ได้ไงเนี่ย ล้อเล่น อย่าคิดมาก ดูให้มันจบๆไปเหอะ ขอบอกว่านางเอกเรื่องนี้ หน้าตาเกาหลี น่ารักมาก นี่ขนาดเรื่องแรกยังแสดงเก่งขนาดนี้ รับรองเล่นหนังต่อต้องดังแหงๆ ขอเชียร์ออกนอกหน้าแบบสุดลิ่มทิ่มประตูเลย เราว่าเล่นได้เป็นธรรมชาติจริงๆ สวยน่ารักอีกต่างหาก ( รู้สึกจะชมหลายทีละ 555 ) มาคุยเรื่องหนังดีกว่า เราชอบวิธีการเล่าเรื่องของพิงนะ สนุกดี แปลกดีด้วย แต่เต้าเปรียบเทียบความรักในมุมมองที่เห็นแก่ตัวไปหน่อย ว่าการที่คนเรารักกันก็มักจะหวังสิ่งตอบแทนกลับมา ถ้าไม่ได้ก็จะรักลดลง เราว่าความคิดนี้ไม่ได้เกิดกับทุกคนหรอกนะ ขอเถียง ( ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวเอง กะดากปาก 555) ส่วนการแสดงของพิง เราว่า พิงน่าจะเขียนบทอย่างเดียวก็พอนะ ไม่ควรแสดงหนังเลย แสดงไม่ค่อยดีเท่าไหร่อ่ะ ดูแล้วไม่อิน ให้โน็ตอุดมมาแสดงยังจะดีซะกว่า จะหงุดหงิดก็ตรงพระเอกนี่แหละ ทำให้ไม่อยากพูดต่อ เรื่องนี้ถ้าจะให้ดูซ้ำก็คงเพราะเรายังไม่ค่อยเข้าใจเนื้อเรื่องเท่าไหร่มั๊ง ไม่ได้เกิดเพราะประทับใจอะไรมากมาย ดูแล้วก็เพลินดี คงไม่ซื้อเก็บเหมือนเดิม รอดูในยูบีซีดีกว่า เราให้ 7.5 ก็พอ เห็นแก่นางเอกนะเนี่ย 5555
เรื่องย่อ : สวัสดีครับ...ผมมีชื่อว่า ไอ้ด่าง (พิง ลำพระเพลิง) อายุอานามไม่เท่าไร ก็ประมาณ 40 กว่าๆ เอง ผมมีอาชีพเป็นนักแสดงข้างถนนทำให้คนสนุกสนานไปวันๆ ก็เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไรอย่างอื่นได้ เพราะผมมันแก่แล้ว ส่วนเรื่องความรักไม่ต้องพูดถึง ผมไม่ศรัทธาในความรักอีกแล้วตั้งแต่เมียตาย ความรักมันก็แค่อัตราแลกเปลี่ยน... หรือใครจะเถียง จนเหมือนฟ้าส่งผู้หญิงคนหนึ่งมาคัดค้านความคิดของผม เธอชื่อว่า เปิ้ล (ภาวิณี วิริยะชัยกิจ) หน้าตาก็งั้นๆ นะ ก็แค่เป็นนักแสดงยอดนิยมของประเทศเท่านั้นเอง แต่นิสัยอย่าให้พูด ทั้งเอาแต่ใจ เจอผมยังไม่ทันไรก็ทั้งโขกทั้งสับ แถมยังเถียงคอเป็นเอ็นว่ารักแท้ รักที่ไม่ต้องการอะไรตอบแทนมันมีอยู่จริง แล้วตั้งแต่นั้นผมกับ เปิ้ล ก็ต้องมาติดแหงกอยู่ด้วยกันจนเกิดอาการเลิฟเลิฟแบบไม่น่าเป็นไปได้ ราวกับว่านี่เป็นความฝันในความรัก... หรือจะเป็นความรักในความฝันกันแน่ แล้วแบบนี้ความรักครั้งนี้ของผมกับ เปิ้ล จะเป็นจริงได้ไงเนี่ย... เฮ้อ!
Synopsis : Ping Lumprapleung, the acclaimed director of Khon Hew Hua and Loveaholic (Kod Rak Eang Lei) comes back with his new project in Dreamaholic(Fun Kod Kod), a drama-romance story that tells the different perspective of love between two persons.

Labels: , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
,9/26/2009 05:04:00 PM
Whiteout : ไวท์เอาท์ มฤตยูขาวสะพรึงโลก
ตอนแรกนึกว่าเป็นหนังผี หรือ หนังสัตว์ประหลาดต่างดาว อย่างที่พวกฮอลลีวูดชอบทำกัน ที่ไหนได้ ดันเป็นหนังฆาตกรรม ธรรมดา มีหักมุมนิดๆหน่อยๆตอนจบ เราไปดูหนังเรื่องนี้ที่ SF บางกะปิ เพราะเป็นโรงดิจิตอล โรงเดียวในย่านนี้ ที่ฉายเรื่องนี้ แล้วราคาก็ถูกกว่าเมเจอร์ แถมอย่างที่เคยบอกว่า คุณภาพหนังก็ดีกว่า เมเจอร์ แล้วเราจะจ่ายแพงกว่าทำไม เข้าไปในโรงมีคนดูไม่มากไม่น้อย เบ็ดเสร็จก็ประมาณ 30 คน สงสัยน่าจะเป็น 30 คนที่ไม่ค่อยสมหวังกับหนังเท่าไหร่นัก เปิดเรื่องมาก็เป็นฉากบนเครื่องบิน ดูท่าทางน่าตื่นเต้นมากกก เพราะมีฉากยิงกันตู้มต้าม ดูน่าลุ้นดีแท้ๆ โอ้ มีตายด้วย เครื่องบินตก อีกต่างหาก แล้วก็มีทีมงานนางเอกซึ่งเป็นตำรวจหรืออะไรซักอย่างที่อยู่ที่ขั้วโลกเหนือ ไปสืบสวน เราก็ลุ้นตลอดนะ ว่า เฮ้ย เดี๋ยวไอ้สัตว์ประหลาดมันจะโผล่มาตรงไหนวะ ไปๆมาๆ กลายเป็นว่า เป็นหนังฆาตกรรมไปซะฉิบ เฮ้อ แต่ก็ยังดีนะ ที่หนังไม่ได้ห่วยแตกจนเกินไป เพราะว่าผูกเรื่องเกี่ยวกับการจารกรรมของมีค่า ถือว่า ดูสนุกพอสมควร แต่ไม่โดนใจเท่านั้นเอง เรื่องนี้ เราให้ 6.9 นะ เพราะว่า หนังไม่ได้ทำอะไรเลวร้ายหายเสีย แค่ไม่สมหวังเราเท่านั้นเอง แต่นางเอกสวยมากๆ เคยเห็นตอนแสดง underworld ตอนนั้นก็ว่าสวยแล้วนะ แต่มันมืด เรื่องนี้ ขาวจั๊วะ สว่างไสว สวยมากกกกกเลยขอบอก คะแนนที่ให้ ส่วนใหญ่ก็เทมาลงที่ นางเอกนี่แหละ 55555
เรื่องย่อ : แอนตาร์กติกา... พื้นที่ถูกทิ้งร้างใหญ่ที่สุดบนพื้นโลก... เส้นรุ้ง 90 องศาใต้ เส้นแวง 0 องศาตะวันออก... ผืนน้ำแข็ง 6 ล้านตารางไมล์... 6 เดือนแห่งความมืดมิด... อุณหภูมิติดลบ 120 องศา... ความเร็วลม 100 ไมล์ต่อชั่วโมง... ทั้งหมดนี้หมายถึง ธรรมชาติไม่เคยตั้งใจให้เรารอดชีวิตที่นี่ สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิง แคร์รี สเตตโก (เคต เบกคินเซล) เธอกำลังจะต้องเผชิญเรื่องที่อันตรายยิ่งกว่าธรรมชาติอันโหดร้ายของแอนตาร์กติกา เธอเป็นผู้รักษากฎหมายเพียงหนึ่งเดียวในดินแดนแห่งนี้ เธอถูกส่งตัวมาตรวจดูศพบนน้ำแข็ง สำหรับคดีฆาตกรรมคดีแรกของแอนตาร์กติกา แล้วเธอก็ได้ค้นพบเรื่องน่าตกใจ ซึ่งจะทำให้เธอยิ่งถลำลึกลงไปในความลับที่ถูกฝังมาเนิ่นนานใต้น้ำแข็งยาวเหยียดสุดสายตา... ความลับที่ใครบางคนเชื่อว่าคุ้มกับการสังหารเพื่อปิดปากเธอ ในขณะที่ สเตตโก ต้องตามหาฆาตกรให้พบก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพบเธอ ฤดูหนาวก็กำลังไล่ตามมาติดๆ ท่ามกลางพายุหิมะมฤตยูของขั้วโลกใต้ เธอจะมองไม่เห็นเขาจนกว่าเขาจะอยู่ใกล้จนหายใจรดหน้า
Synopsis : Antarctica... The most isolated landmass on Earth... 90 S. latitude, zero E. longitude... Six million square miles of ice... Six months of darkness... Temperatures at minus-120 degrees... Winds at 100 miles per hour... Nature never intended you to survive here. For U.S. Marshal Carrie Stetko (Kate Beckinsale), things are about to get even more dangerous. The only law enforcement in this unforgiving territory, she has just been sent to investigate a body on the ice. Antarctica's first homicide. A shocking discovery in itself, it will plunge her into an even more bizarre mystery and the revelation of secrets long-buried under the endless ice... secrets that someone believes are still worth killing for. As Stetko races to find the killer before he finds her, winter is already closing in. In the deadly Antarctic whiteout, she won't see him till he's a breath away.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
,9/26/2009 04:55:00 PM
The Proposal : ลุ้นรักวิวาห์ฟ้าแลบ
วันนี้ เตรียมตังค์มาดูสองเรื่อง คือ เรื่อง whiteout กะเรื่องนี้แหละ ที่มาดูเพราะดาราเลยขอสารภาพ ชอบทั้งพระเอกนางเอกเลย นานๆจะได้ดูหนัง Sandra ซักที เรื่องนี้ แสดงกับ Ryan reynold คนนี้เราก็ชอบแสดงหนังดี หน้าตาก็ไม่ยับยู่ยี่เหมือนพระเอกบางคน เนื้อเรื่องก็ตลก ดูแล้วสบายตาสบายใจตลอดเรื่อง เป็นเรื่องน้ำเน่าที่เดาได้ตลอดเรื่องตามแนว Romantic comedy ของฮอลลีวูดเหมือนเดิม เริ่มเรื่องจะต้องเป็นความรักที่เกิดจากความบังเอิญ ไปๆมามามีโอกาสใช้ชีวิตด้วยกันในช่วงสั้นๆ เกิดปิ๊งกันฉุกเฉิน รักกันจริงๆจังๆไปเลย แฮปปี้เอนดิ้ง ในที่สุด สมหวังไปตามระเบียบ เราว่าคนดูส่วนใหญ่น่าจะมากกว่า เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็หวังจะมาดูหนังที่จบแบบมีความสุขแบบนี้แหละ เพราะชีวิตจริงเราก็หนักพออยู่แล้ว ดาราที่แสดงทั้งสองคน แสดงดีมากๆ แต่เนื้อเรื่องแบบนี้ไม่รู้จะได้เจอในชีวิตจริงหรือเปล่า แต่เอาน่ะ ดูหนุกๆ อย่างคิดมาก เนื้อเรื่องตอนที่มันสนุกๆ อยู่ตรงช่วงที่ไปใช้ชีวิตด้วยกันที่บ้านพระเอกที่ อลาสก้านี่แหละ ฮาตลอด วิวสวย บ้านเมืองสงบสุขมากกกกกกกกกกกกก เห็นแล้วอยากไปอยู่ที่โน่น พระเอกนางเอกแกล้งกันตลอด ดูแล้วกุ๊กกิ๊กดี แต่แปลกดีนะ เรานึกว่ามันจะมีอะไรน่าประทับใจจนทำให้เราอยากซื้อดีวีดีมาเก็บไว้ซะอีก แต่ก็ไม่ยักมี เรารู้สึกเฉยมากๆเลย จบแล้วก็แล้วกัน เรื่องนี้เราให้ 7.0 ในฐานะที่ทำให้เราหัวเราะได้ตามคอนเซ็ปท์ แต่ไม่สามารถสร้างความประทับใจให้เราได้เท่าที่ควร ถึงแม้ตอนจบจะมีคำพูดซึ้งๆ แต่ก็ไม่โดนเท่าไหร่ เลยให้แค่นี้พอ
เรื่องย่อ : มาร์กาเรต (แซนดรา บุลล็อก) บรรณาธิการสาวบ้าอำนาจกำลังจะถูกเนรเทศกลับประเทศแคนาดา เพราะใบอนุญาตการทำงานสำหรับคนต่างด้าวในอเมริกาของเธอกำลังจะหมดอายุลง มาร์กาเรต จึงต้องหาทางจัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน แล้วความซวยก็ตกมาถึงแพะรับบาป แอนดรูว์ (ไรอัน เรย์โนลด์ส) ผู้ช่วยหนุ่มหล่อหน้าใสที่เธอกดขี่มาตลอดทั้งปีที่ทำงานร่วมกันในออฟฟิศ แอนดรูว์ ต้องมาถูกจับมัดมือมัดเท้าประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบแบบไม่ทันตั้งตัว เขาตอบตกลงว่าจะช่วย แต่มีเงื่อนไขคือ มาร์กาเรต ต้องเดินทางไปอลาสกาเพื่อพบกับครอบครัวของเขา ซึ่งได้แก่ เกรซ (แมรี สตีนเบอร์เกน) โจ (เครก ที. เนลสัน) และคุณยาย แอนนี (เบตตี ไวต์) ทำให้ มาร์กาเรต ผู้ชื่นชอบการมีอำนาจอยู่ในมือ ต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนนับครั้งไม่ถ้วน การแต่งงานอันฉุกละหุกใกล้เข้ามา ขณะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกำลังจะดำเนินการตามกฎหมายกับ มาร์กาเรต ทั้ง มาร์กาเรต และ แอนดรูว์ ยังคงดื้อดึงที่จะดำเนินการตามแผนต่อไป แม้จะทำไปด้วยความอึดอัดใจ และผลลัพธ์ที่กำลังจะตามมาก็ดูเหมือนจะทำให้อะไรๆ ยุ่งยากมากขึ้นกว่าเดิม
Synopsis : When high-powered book editor Margaret (Sandra Bullock) faces deportation to her native Canada, the quick-thinking exec declares that she's actually engaged to her unsuspecting put-upon assistant Andrew (Ryan Reynolds), who she's tormented for years.He agrees to participate in the charade, but with a few conditions of his own. The unlikely couple heads to Alaska to meet his quirky family including Grace (Mary Steenburgen) Joe (Craig T. Nelson) and Grandma Annie (Betty White) and the always-in-control city girl finds herself in one comedic fish-out-of-water situation after another. With an impromptu wedding in the works and an immigration official on their tails, Margaret and Andrew reluctantly vow to stick to the plan despite the precarious consequences.

Labels: , , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
Thursday, September 10, 2009,9/10/2009 02:59:00 AM
Phobia 2 : 5 แพร่ง
เสียดายที่ไม่ได้มาดูหนังเรื่องนี้ ในวันที่หนังเข้าวันแรก 9 กันยา 2009 เลข 9 เรียงกันสวยดี เป็นวันนึงที่ชาวโลกส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นวันมงคล ก็เลยมีทั้งคนแต่งงาน หนังเข้า รวมทั้งกิจกรรมดีดี อย่างการถวายพระพร ในหลวงด้วย เราเองก็แสดงความจงรักภักดีด้วยการร้องเพลงสรรเสริญ และเพลง สดุดีมหาราชากะเข้าด้วยคน ทำแล้วมีความสุขดีจัง หนังเรื่องนี้เราก็เลยได้มาดูในวันที่สอง ก็คือวันที่ 10 กันยา ไม่เป็นไร สายไปวันเดียว แต่คนอุ่นหนาฝาคั่งดีเหลือเกิน เห็นแล้วก็โล่งใจแทนเจ้าของโรงหนัง อย่างนี้คงได้เงินบ้าง เราเลือกมาดูที่ เอสเอฟ เดอะมอลบางกะปิ สลับกับเมเจอร์บ้าง ซึ่งการสลับกันครั้งนี้ ทำให้เรารู้เลยว่า สองค่ายนี้ คุณภาพของโรงแตกต่างกันจริงๆ เราพูดอย่างเป็นกลางเลยนะ เนื่องจากหลังๆเนี่ยเราไปดูที่ เมเจอร์แบบถี่มากๆ พอเราเปลี่ยนมาดูที่เอสเอฟเรื่องแรกนี่ก็ได้เรื่องเลย เพราะคุณภาพของเสียงดีมากๆ ซึ่งมีผลอย่างยิ่งต่ออรรถรสในการดูหนัง มันทำให้หนังดูสนุกและน่ากลัวขึ้นเป็นพะเรอเกวียนหลังจากที่เราได้ดูทั้งห้าเรื่องย่อยนี่แล้ว เรียงตามลำดับความชอบของเนื้อเรื่อง เราชอบ หลาวชะโอน ที่สุด รองลงมา คือ ห้องเตียงรวม ถัดมาเป็นเรื่อง รถมือสอง แล้วก็ แบ็กแพ็กเกอร์ สุดท้ายคือ คนกอง แต่ถ้าเรียงตามลำดับดาราห้าตัวเอกที่ชอบแล้วละก็ มาช่าจากเรื่องคนกองมาเบอร์หนึ่ง แดน บีทูบี จากเรื่องห้องเตียงรวมมาเป็นที่สอง นิโคล จากเรื่อง รถมือสองที่สาม น้องเก้า จากหลาวชะโอนได้ที่สี่ ส่วน ชาลี ไตรรัตน์ จากเรื่อง แบ็กแพกเกอ์ เราให้สุดท้ายเลย เพราะยังเล่นแข็งอยู่มาก ๆ เทียบกับสี่แพร่งแล้ว เราว่า สี่แพร่งมีเรื่องที่โดนใจสุดๆ คือเรื่องสุดท้าย ที่เป็นศพเจ้าหญิงขึ้นเครื่องบิน โอย นั่น หลอนมากๆ ส่วน ห้าแพร่งนี่ ไม่มีเรื่องไหนหลอนขนาดสี่แพร่งเลย แต่ก้คุ้มเงิน เพราะได้ดูตั้งห้าเรื่องย่อย แต่ก็ได้อารมณ์พอสมควรนะ ไม่ใช่ว่าไม่ดีเลย เพียงแต่ เราว่ามันไม่หลอนเท่าเจ้าหญิงสี่แพร่งเท่านั้นเอง เราว่าเรื่องคนกองนั่น มันหักมุมออกมาเป็นแนวตลกมากจนไม่น่ากลัวเลย ดูแล้วขำ จะว่าดีก็ดี เพราะเป็นตอนสุดท้ายนคนดูใกล้จะกลับบ้านแล้วจะได้ไม่ต้องเครียดมาก 5555
รวมๆแล้ว เราให้ 7.7 นะ เพราะอย่างที่บอก ไม่ค่อยปลื้มซักเท่าไหร่กับความหลอน แต่คุ้มกับค่าตั๋ว ที่ได้ดูห้าเรื่องย่อยๆ พูดก็พูดเหอะ ไอ้แนว หลายๆเรื่องในเรื่องเดียวเนี่ย เราถนัดนักเลย ชอบมั่กๆ
เรื่องย่อ : หลาวชะโอน - สำหรับ เป้ (จิรายุ ละอองมณี) เด็กชายวัย 14 ปี เรื่องของกรรมเป็นเรื่องเชยสุดๆ เขาลงมือปาหินใส่รถกระบะแถวบ้านเพียงเพราะอยากได้โทรศัพท์เคลื่อนที่เครื่องใหม่ เมื่อเหยื่อเสียชีวิต คุณแม่พา เป้ หนีไปบวชในวัดป่าห่างไกล ภายใต้ผ้าเหลือง เป้ พ้นจากเงื้อมมือกฎหมาย แต่กลับตกอยู่ในเงาของมืออีกมือหนึ่ง มันเอื้อมเข้ามาหาเขาช้าๆ ทว่าไม่หยุดยั้ง นั่นเพราะกรรมไม่ใช่พ่อไม่ใช่แม่ใคร มันไม่รู้จักคำว่า ให้อภัย
ห้องเตียงรวม - หนุ่มทะเล้นขี้เล่นคนหนึ่ง (วรเวช ดานุวงศ์) ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์คว่ำจนขาหักทั้ง 2 ข้าง จากห้องฉุกเฉินเขาถูกย้ายไปสู่ห้องเตียงรวม ทั้งๆ ที่อยากนอนห้องพิเศษ และในห้องรวมนี้ คนไข้เตียงติดกับชายหนุ่มเป็นร่างไร้สติของชายชราอาการสาหัสที่นอนรอวันปิดอ็อกซิเจนมาแล้วร่วมเดือน แต่เหมือนกับจะรู้ว่าเพื่อนหนุ่มหน้าใหม่เป็นคนขี้กลัว คืนนั้นชายแก่จึงลุกขึ้นมาเยี่ยมเขาถึงข้างเตียง!
แบ็กแพกเกอร์ส - คู่รักญี่ปุ่นคู่หนึ่งฉลองเรียนจบด้วยการแบกกระเป๋าตะลุยเมืองไทย ขากลับจากสมุยพวกเขาใช้วิธีโบกรถเข้ากรุงเทพฯ แต่โบกไม่ได้สักคัน หนุ่มยุ่นตัดสินใจใช้ธนบัตร 1 พันบาทเป็นรางวัลล่อ รถพ่วงคันหนึ่งจึงจอดรับ โชคร้ายที่สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังตู้คอนเทนเนอร์และใบหน้ายิ้มแย้มของคนขับกับเจ้าเด็กรถ (ชาลี ไตรรัตน์) เป็นบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้อะดรีนาลินของทุกคนต้องคลั่ง
รถมือสอง - คนมีประวัติ รถก็มีประวัติ ยิ่งถ้าเป็นรถมือสอง ประวัติศาสตร์ของแต่ละคันอาจไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของใหม่อยากรู้ กลางดึกสงัดหลังเต็นท์ปิด นุช (นิโคล เทริโอ) เจ้าของเต็นท์รถมือสองขนาดใหญ่ย่านชานเมืองพบว่าลูกชายของเธอหายตัวไป ท่ามกลางแถวรถนับร้อยคัน เทปกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่าลูกของเธอแอบเข้าไปเล่นในรถคันหนึ่งที่เธอเพิ่งรับซื้อมา... แล้วไม่กลับออกมาอีกเลย
คนกอง - เต๋อ (ณัฏฐพงษ์ ชาติพงศ์) เผือก (พงศธร จงวิลาส) ชิน (วิวัฒน์ คงราศี) และ เอ (กันตพัฒน์ เพิ่มพูนพัชรสุข) เป็นนักสร้างภาพยนตร์ผีที่ถ่ายทำมาจนเหลือเพียง 2 ช็อตสุดท้าย แต่แล้วนักแสดงสาวหน้าใหม่ที่รับบทเป็นผีเกิดหัวใจวายตายกลางกองถ่าย ซวยสุดยอดที่ก่อนหน้านั้น เผือก ดันไปเสร่อทำเท่สอนเธอว่า เดอะ โชว์ มัสต์ โก ออน เธอจึงกลับมาแสดงต่อ ทั้งสี่จึงต้องถ่ายภาพยนตร์ผีที่มีผีเล่นเป็นผีให้จบให้จงได้... โดยห้ามไม่ให้ พี่ช่า (มาช่า วัฒนพานิช) นางเอกของเรื่องรู้ความจริงเป็นอันขาด!
Synopsis: Phobia 2 is a five part horror anthology with some of Asia''s best directors at the wheel. This includes segments from Banjong Pisanthanakun and Parkpoom Wongpoom (Shutter), as well as Paween Purikitpanya (Body #19), Songyos Sugmakanan (Dorm), and Visute Poolvoralaks.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
,9/10/2009 02:57:00 AM
The Final Destination 4 : โกงตาย ทะลุตาย 4
ตอนที่เห็นโฆษณาครั้งแรก บอกตัวเองเลยว่า ไม่ดูเด็ดขาด ไม่รู้เป็นอะไร หลังๆไม่อยากดูหนังแนวนี้เลย แต่น่าจะเป็นเพราะว่า ดูแล้วไม่สบายใจ เพราะภาพบนจอ ไม่เห็นมีอะไรน่าดูเลย ดูแล้วมีแต่จะทำให้สลดหดหู่ แต่คงด้วยความเบื่อ ช่วงนี้ไม่มีอะไรดูจริงๆ ในที่สุด ตัวเราก็มานั่งอยู่ในโรงจนได้ แถมเป็นโรงสามมิติซะด้วย ที่เมเอจร์ บางกะปิ ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ เราเคยสบประมาท โรงนี้เอาไว้ว่า ฉายหนังระบบสามมิติได้ห่วยแตกมากๆ ดูๆแล้วโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ อะไรที่ไม่นึกไม่ตั้งใจที่จะทำก็ดันเกิดขึ้นในที่สุด ทั้งๆที่ตั้งใจว่าจะไม่แล้วแท้ๆ การตัดสินใจชั่วแว๊บเดียวจริงๆ
หนังเรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก เน้นที่ฉากตายล้วนๆ แถมเป็นการตายที่โคตรสยดสยอง ไม่พอดันทำเป็นสามมิติอีก มันดูสมจริงๆมากๆเลย แล้วคงต้องกลืนน้ำลายตัวเองแล้วล่ะว่า โรงนี้ฉายหนังระบบนี้ไม่ดี เพราะคราวนี้ ทำได้ดีมากๆทั้งระบบภาพและเสียง ดูแล้ว คุ้มค่าเงิน 200 บาทจริงๆ (ไปเช็คราคามาแล้ว ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้กลับตาลปัตร เป็นราคาแพงกว่าแล้ว เมื่อก่อน เอสเอฟ 200 บาทเมเจอร์ 220 แต่ตอนนี้ เมเจอร์ 200 เอสเอฟ 220 ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอดีไม่ได้ถาม ) เนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่จากเดิมเลย คือ มีคนที่รู้เหตุกาณ์ล่วงหน้าว่าจะมีอุบัติเหตุใหญ่เกิดขึ้นที่สนามแข่งรถ แน่นอนว่า ต้องรอดออกมาได้ แต่ในที่สุดก็ต้องตายอย่างน่ากลัวทีละคน เผลอๆน่ากลัวกว่าตอนตายหมู่อีก รู้งี้ตายพร้อมคนอื่นก็ดี จะได้สยองน้อยหน่อย 55555 แต่ดาราเรื่องนี้ หน้าตาดีหมดเลย เราสังเกตดู หนังผี หรือ หนังแนวสยองขวัญนี่ มักจะมีดาราสวยๆ หุ่นดีดี มาแสดงทุกเรื่องเลย ไม่เชื่อก็ไปดูเอาเอง 555
เอ้า สรุปดีกว่า สำหรับเนื้อเรื่อง คงสอบตก แต่ถ้าดูเรื่องการยัดเยียดฉากตายให้คนดูดูนี่เอาไปเลยเต็มสิบ เทคนิกโอเคเลยแหละ รวมๆเหมาทุกอย่างแล้วเรื่องนี้เราให้ 7.0
เรื่องย่อ : ในวันที่ควรจะเต็มไปด้วยสีสันอันสนุกสนานของสนามแข่งรถ นิก โอแบนนอน (บ็อบบี แคมโป) กลับเห็นภาพล่วงหน้าถึงหายนะชวนสยอง หลายเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันทำให้รถแข่งหลายคันชนกัน จนเถ้าติดไฟกระจายสู่อัฒจันทร์และทำให้เพื่อนๆ ของเขาถึงแก่ความตายอย่างทรมาน จากนั้นชั้นบนของอัฒจันทร์ก็พังลงมาทับตัวเขา เมื่อหลุดจากภวังค์ร้าย นิก ตกใจกลัวและกล่อมให้แฟนสาว ลอรี (แชนเทล แวนแซนเทน) และเพื่อนๆ ของพวกเขา เจเนต (เฮลีย์ เวบบ์) และ ฮันต์ (นิก ซาโน) ให้ออกไปจากที่นั่น พวกเขาจึงรอดพ้นจากความตายไปได้อย่างหวุดหวิด ก่อนที่ภาพน่ากลัวที่ นิก เห็นจะเกิดขึ้นจริง เมื่อโกงความตายได้ พวกเขารู้สึกเหมือนได้ต่อเวลาชีวิต แต่โชคร้ายสำหรับ นิก และ ลอรี ที่มันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น การเห็นภาพล่วงหน้าของเขายังดำเนินต่อไป และผู้ที่รอดมาได้กลับทยอยตายกันไปทีละคน ในรูปแบบที่ยิ่งสยดสยองขึ้นทุกที นิก ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าจะโกงความตายอีกครั้งและตลอดไปอย่างไร ก่อนที่ตัวเขาเองจะต้องลงเอยด้วยจุดจบครั้งสุดท้าย
Synopsis : On what should have been a fun-filled day at the races, Nick O'Bannon (Bobby Campo) has a horrific premonition in which a bizarre sequence of events causes multiple race cars to crash, sending flaming debris into the stands, brutally killing his friends and causing the upper deck of the stands to collapse on him. When he comes out of this grisly nightmare, Nick panics, persuading his girlfriend, Lori (Shantel VanSanten), and their friends, Janet (Haley Webb) and Hunt (Nick Zano), to leave... escaping seconds before Nick's frightening vision becomes a terrible reality.Thinking they've cheated death, the group has a new lease on life, but unfortunately for Nick and Lori, it is only the beginning. As his premonitions continue and the crash survivors begin to die one-by-one - in increasingly gruesome ways - Nick must figure out how to cheat death once and for all before he, too, reaches his final destination.

Labels: , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
,9/10/2009 02:54:00 AM
Rahtree Revenge : บุปผาราตรี 3.2
วันนรี้มาแปลก เพราะว่าปกติแล้วจะไม่ค่อยมาเดินหน้ารามซักเท่าไหร่ เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีธุระปะปังแถวนี้ แต่บังเอิญเหลือเกินที่จะต้องมาซื้อของแถว เดอะมอลราม พอซื้อเสร็จก็เลยเดินเล่นนิดหน่อยดูอะไรเพลินๆ ก็มาหยุดที่ป้ายโรงหนัง เมเจอร์ราม อ้าว จริงด้วย เรื่องนี้ ยังไม่ได้ดูเลย ไหนๆก็เป็นแฟนบุปผามาทุกภาคแล้ว ก็อะนะ ดูดูให้มันครบทุกภาคเลยละกัน
เรื่องนี้ก็เป็นภาคต่อจากภาคที่แล้ว เราว่าดูจนจบแล้ว ความรู้สึกมันก็เกิดขึ้นแบบว่า เอ เรื่องนี้ดูก็ได้ไม่ดูก็ได้ เพนสะดูแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรคืบหน้าเลย มุขก็คล้ายๆเดิม มิน่าคนในโรงถึงมีแค่ สองคน คือ เรา กับอีกคนนึงที่นั่งกลางๆโรง ( อ้อ ชอบนั่งแถวหลังๆสุดท้าย ก็เลยเห็นทุกความเคลื่อนไหวในโรง ) เราว่า ถ้าคนจะมาดูเรื่องนี้ คงจะมีเหตุผลไม่น่าเกินสองสามอย่าง หนึ่งคือ อยากมาหัวเราะ ส่งนเด็กวัยรุ่นสาวๆ ก็คงอยากมาดู มาริโอ้ ส่วนเรา มาดูพลอยโดยเฉพาะ 555 เราเองก็แปลกใจนะว่า ทำไมพลอยไม่เล่นหนังใหญ่ไปเลย สวยอย่างกะนางฟ้า น่าจะเล่นให้เป็นเรื่องเป็นราวไปเลย รับรองว่า เวิร์ค ส่วนน้องโอ้ เรื่องนี้ก็แสดงได้ดีขึ้น แข็งน้อยลง ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ก็ขอให้แสดงดียิ่งขึ้นๆไปนะพ่อคุณ ส่วนเด็กผีนั่น ก็แสดงดีเหมือนกัน แต่เราว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องยกความดีให้กับคนทำกราฟิก เพราะว่า ทำได้น่ากลัวเหลือเกิน
ฉากที่ตลกและติดตาเราที่สุด คงจะเป็น ฉากที่พวกดาราตลกเข้าไปเล่นไพ่ในบ่อนแล้วมีผีอยู่ที่มุมห้อง มันไม่ได้ตลกตรงมีผีอยู่มุมห้องหรอกนะ แต่มันตลกตรงที่บทพูดของเซียนตลกแต่ละคน เราหัวเราะดังมากๆเลย อ้อ มีผีเด็กจีนที่อยู่ในโปสเตอร์หนังนั่น เราว่าไม่น่าจะมีให้เปลืองฟิล์มเลยนะ เพราะว่า โผล่ออกมาทั้งเรื่องไม่ถึงนาที แต่เอามาใส่ในโปสเตอร์จนดูเหมือนเป็นตัวหลัก ก็คงเป็น ไอเดียโฆษณาหนังมั๊ง
สรุป ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่เลย ธรรมดามากๆ เมื่อเอาไปเทียบกับ บุปผาทุกภาคแล้ว ภาคนี้ถือว่า ห่วยที่สุดในสายตาเรา ดูแล้วค่อนข้างเสียดายเงิน แบบนี้เรารอดูในทรูวิชชั่น ก็ได้ ถึงแม้จะมีฉากตลก ก็นิดหน่อย ส่วนผี ไม่ต้องพูดถึง มันก็น่ากลัวอะนะ แต่ก็มีความตลกมากลบจนไม่รู้ว่าจะกลัวหรือจะขำดี รวมๆแล้วไม่ค่อยปิ๊ง เราให้ 5.6 นะ
เรื่องย่อ : หลัง บุปผา (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) กลับชาติมาเกิดในร่างเด็กหญิง ปลา (นัดตะวัน ศักดิ์ศิริ) เด็กน้อยผู้น่าสงสารก็ถูกฆ่าตายอย่างทารุณในห้อง 609 ของออสการ์อพาร์ตเมนต์ฉบับเรโนเวต อพาร์ตเมนต์ซึ่งมาพร้อมบ่อนเถื่อน บริหารงานนับเงินโดย เจ๊สาม (ฉันทนา กิติยพันธ์) และดำเนินการโกงเนียนๆ โดย เซียนต้อม (ค่อม ชวนชื่น) เซียนพนันที่มีลูกกรอกตัวพ่อ (อุดม ชวนชื่น) คอยช่วยเหลือทุกครั้งที่ลงสนามไฮโล หลังจาก ผีปลา ที่ตายด้วยความแค้นผู้ชาย ออกอาการร้อนวิชาเฮี้ยนโหด จัดการบรรเลงเพลงเชือดสยองชุดใหญ่ ไล่ฆ่าผู้ชายทุกคนในอพาร์ตเมนต์ รวมถึงคนในบ่อนชั้น 3 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนอาศัยในอพาร์ตเมนต์เสียเรียบวุธ แต่เหล่าเซียนพนันนานาชาติ ทั้งจากฮ่องกง ฝรั่ง และอินเดีย ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็โผล่มาเป็นเหยื่อสยองชุดใหม่ในคราวนี้ อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ หรั่ง (มาริโอ้ เมาเร่อ) นักวาดการ์ตูนผีย้ายมาอยู่ที่ออสการ์อพาร์ตเมนต์เพียงไม่กี่วัน เขาก็ได้พบ บุปผา หญิงสาวที่แอบหลงรักมาตั้งแต่วัยเด็ก โดยไม่รู้ว่าเธอกลายเป็น ผีบุปผา ไปแล้ว หาใช่ พี่บุปผา คนเดิมไม่ หรั่ง ตัดสินใจว่าจะต้องบอกรักออกไปให้ได้ แต่แล้วบุพเพสันนิวาสมันกลับกลายเป็นบุปผาอาละวาด จนกระทั่ง หรั่ง สิ้นสติไป เรื่องยิ่งวุ่นเมื่อ หมวดอังเคิล (อดิเรก วัฏลีลา) และ จ่าบุญถิ่น (บุญถิ่น ทวยแก้ว) ต้องมาทลายบ่อนเพื่อจับกุมอาชญากรข้ามชาติที่หนีมาเล่นพนัน โดยมี เดวิด เจียง ตำรวจจราจรจากฮ่องกงมาช่วยด้วย แต่กลับต้องมาร่วมเป็นพยานในงานละเลงเลือดเสียมากกว่า จากนั้น นักสืบเทพ ก็เข้ามาคลี่ปมคดีเด็กหญิงปลาอย่างเข้มข้น ส่วน เจ๊สาม คราวนี้หันไปใช้บริการหมอผีเขมร และเพื่อนๆ ของ หรั่ง ก็จ้างฤาษีตาไฟมาช่วยกำราบความเฮี้ยนให้จงได้ เรื่องราวโกลาหลงงงวย ซวยเป็นหมู่คณะออสการ์จะลงเอยอย่างไร กำแพงรักของหนุ่ม หรั่ง และสาว บุปผา จะถูกฝ่าไปสิ้นสุดตรงจุดไหน เสียงกรีดร้องฉบับดั้งเดิมพร้อมการตวัดปลายมีดโกนของผีสาวตัวแม่รุ่น 3.2 กำลังรอทุกคนมาขมวดปมส่งท้ายความสยองไปพร้อมกัน
Synopsis : The sequel to Rahtree Reborn that continues to tell the romantic-horror story of the revengeful ghost of Buppha and her lovestruck cartoonist.

Labels: , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments
Monday, September 7, 2009,9/07/2009 02:36:00 PM
แฟนเก่า : My Ex
จะว่าดีใจก็ดีใจ ที่ช่วงนี้มีหนังเข้าน้อยมากๆ อาทิตย์ละเรื่องสองเรื่องเอง เรื่องนี้เป็นเรื่องนึง ที่ตอนเห็นตัวอย่างแล้วอยากดู เพราะทำได้น่ากลัวดี เราก็เลยมาดูเป็นคนแรกรอบแรกเลย ของวันฉายปกติ ที่เมเจอร์บางกะปิ คนดูค่อนข้างเยอะนะ นับดูได้ประมาณซัก 30 คน ถือว่าไม่น้อย เนื้อเรื่องก็พูดถึง ความเจ้าชู้ และความไม่รับผิดชอบ ของพระเอก ที่นำความตายมาให้คนที่เกี่ยวข้องทุกคนที่เกิดจากความหึงหวงของผี เราไม่มีคอมเม้นท์เท่าไหร่ เพราะหนังงั้นๆ ดาราที่แสดงนั้น ชาคริตกับ กิ๊บซี่ น่าจะถูกเลือกมาแสดงเพราะความดังและเอามาเรียกคนดู แต่สำหรับเรา เราว่าก็แสดงดีในระดับนึง แต่ยังไม่โดนใจเราเท่าไหร่ ทั้งเรื่องไม่มีอะไรน่าประทับใจเราเลย นอกจาก ดอกลั่นทม ที่สวยดี หนังเรื่องนี้ ถ้าเป็นเมื่อ สามสี่สิบปีก่อน อาจจะตั้งชื่อว่า ลั่นทมผี เพราะทั้งเรื่องรู้สึกว่า ดอกลั่นทมจะมีบทบาทมากกว่าคน แต่ก็ดีแหละ สวยดี ดูแล้วเหมือนจะได้กลิ่นดอกลั่นทมโชยออกมาด้วย อ้อ แล้วก็เรื่องข่าวลือว่า มีฉากแต่งตัววาบหวิวริมชายหาด จนกระทั่ง ชาคริต ต้องออกมาร้องไห้หน้าจอทีวี ร้อยทั้งร้อย เราเชื่อว่าเป็นแผนโปรโมท ชัวร์ๆ ซึ่งเราก้ไม่ค่อยชอบวิธีการแบบนี้เล๊ย จริงๆ รวมแล้ว เรื่องนี้เราให้ 6.8 ก็พอ
เรื่องย่อ : เคน (ชาคริต แย้มนาม) เป็นพระเอกหนุ่มยอดนิยม เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ เรื่องราวชีวิตรักและการเปลี่ยนคู่ควงของเขาจึงตกเป็นข่าวซุบซิบในสื่อบันเทิงบ่อยครั้ง รวมถึงครั้งที่ เคน คบหากับ มีน (นวดี โมกขะเวส) สาวฐานะดี และ โบ (อัฐมา ชีวนิชพันธ์) นักศึกษาสาวใสซื่อบริสุทธิ์ที่มอบให้เขาทั้งตัวและหัวใจ ขณะที่คบกับทั้ง มีน และ โบ นั้น เคน ยังหันไปควง พลอย (วนิดา เติมธนาภรณ์) นางเอกใหม่มาแรงของวงการไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งนักข่าวปาปารัสซีก็คอยติดตามเก็บภาพของทั้งคู่มาตีแผ่อย่างสม่ำเสมอ จากนั้นเมื่อ มีน มาบอกกับ เคน ว่าเธอตั้งครรภ์ เคน กลับปฏิเสธความรับผิดชอบ ยิ่งเห็นข่าว เคน กับ พลอย ยิ่งทำให้ มีน โมโหจนทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง หลังจากนั้น เคน ก็รู้สึกเหมือนมีคนคอยติดตามอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับเจอเหตุการณ์แปลกๆ ทั้ง เคน และ นิมิต (บดินทร์ ดุ๊ก) ผู้จัดการส่วนตัวของเขา ต่างก็เดาว่าน่าจะเป็นฝีมือของบรรดาแฟนเก่า แฟนคลับ หรือไม่ก็ปาปารัสซี เหตุการณ์แปลกๆ ที่ว่าเริ่มรุนแรงมากขึ้นทันทีที่มีข่าวว่า เคน ตัดสินใจจะแต่งงานกับ พลอย จน เคน ต้องขอพักงานโดยไปพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเลที่หัวหิน ปาปารัสซีหนุ่มไฟแรง คิง (บริวัตร อยู่โต) พยายามบอกความจริงบางอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับ เคน แต่ก็ถูกปฏิเสธ ทางฝ่าย นิมิต ก็พยายามเข้ามาช่วยสืบค้นต้นตอของปัญหา แต่แล้วความสุขของ เคน ก็ต้องหมดลงอย่างแท้จริง เมื่อคนข้างกายของเขาเริ่มหายไปจากชีวิตทีละคนๆ และในที่สุด เคน ก็ได้รู้ว่าคนที่ตามรังควานเขามาตลอดเป็นใคร
Synopsis : Ken is a heartthrob actor who has a bad boy reputation of loving beautiful girls and dumping them when he finds a new girl. His complicated relationship always leads to many gossips. When Ken''s wedding is announced, the public curiously take more focuses on him and his life never be the same again. Soon, Ken is convinced that he is threatened by his fanclub and paparazzi. But when the threats getting more deadly, Ken begins to realize that an envious ghost of one of his ex-girlfriend never wants to let him go.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink ค 0 comments