แต่ก็ไม่รู้ว่าใครสร้างอะไรยังไง รู้แต่ว่า สมัยนั้นเราถึงกับซื้อ วิดีโอมาเก็บไว้เลย ( สมัยนั้นยังเป็นวิดีโออยู่ ) ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ก็ไม่เร็วเท่าไหร่หรอก ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ไปดูหนัง ที่ซีคอน ปรากฏว่า มันส์โคตรอีกแล้ว มันคือ Kill bill ครับ ทั้งสองภาคเลย โคตรสนุก จากนั้นเราเลยไปค้นข้อมูลเพิ่มเติมว่า ใครเป็นคนสร้าง แล้วนอกจากเรื่องนี้แล้ว เค้าสร้างเรื่องอะไรมั่ง ปรากฏว่า มีหนังที่สร้างอยู่ ประมาณซัก สิบกว่าเรื่องมั๊ง เราก็ตามไปหามาดูหมดเลย ไปผิดหวังเลย สนุกสุดๆจริงๆ ทุกเรื่อง หนังแกจะเป็นหนังแนวโหดนิดๆแบบเว่อร์ ถึงโหดแต่ไม่น่ากลัวเลย เพราะมันเว่อจนแอบขำว่า เออคิดได้เนอะ ใครมันจะไปบ้าขนาดนั้น ดูอย่าง kIll Bill โอ้โฮ ยิงกันกระจุยกระจาย นางเอกตนเดียว สู้กับญี่ปุ่นยากูซ่าทั้งกองทัพ ชนะอีกต่างหาก
แล้วมีเรื่องยิงกับพวกนักสืบอเมริกัน ฉากนี้ กินเวลาแค่ไม่น่าจะเกิน 10 วิ แต่เป็น 10 วิที่มันส์ที่สุดในชีวิตของเราที่เคยดูหนังบู๊มา มันส์มากกกกกกกก
ในขณะเดียวกัน กลุ่มทหารอเมริกัน-ยิวที่เรียกขานกันว่า เดอะ บาสเทิร์ดส์ นำโดยนายร้อย อัลโด เรน (แบรด พิตต์) ร่วมมือกับนักแสดงสาวชาวเยอรมันและสายลับคนสำคัญ บริดเจต ฟอน แฮมเมอร์สมาร์ก (ไดแอน ครูเกอร์) ในการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านและโค่นล้มอำนาจของผู้นำนาซี โชคชะตาของคน 2 กลุ่มเวียนมาบรรจบ เมื่อวีรบุรุษสงครามชาวเยอรมันเกลี้ยกล่อมผู้บังคับบัญชาของเขา ให้ฉายภาพยนตร์โฆษณาชวนเชื่อของนาซีเรื่องล่าสุดที่โรงภาพยนตร์ที่ โชซานนา ทำงานอยู่ โชซานนา มองเห็นโอกาสในการล้างแค้น พร้อมกับที่ เดอะ บาสเทิร์ดส์ คิดใช้โอกาสนี้วางแผนตลบหลังแนวรบศัตรู เพื่อทำให้ฟันเฟืองเครื่องจักรสงครามของเยอรมันสะดุดลง
Shosanna is poised to carry out a revenge plan of her own, when she finds herself in a unique situation when an infatuated German war hero persuades his superiors to screen their latest propaganda film at her theatre. Aware of the plans for the movie premiere, The Basterds are working deep behind enemy lines enact their own plans to throw a wrench in the German war machine.Labels: Historical Action, International Movie
จากอีส้ม ก็มาต่อเรื่องนี้เลย ที่เราคาดว่า คงจะดูสนุก เพื่อชดเชยกับความไม่สนุกของเรื่องแรก ปรากฏว่า อาการหนักเข้าไปอีก ตอนแรกเราคิดว่า หนังแนวจีจ้า แนว จาพนมคงจะทำได้ดี เหมือนกับที่เคยทำมา ปรากฏว่า ไม่ค่อยสนุกเลย จีจ้าเรื่องนี้ มีบทพูดเยอะขึ้นก็จริง แต่ดูยังไงยังไง เราก็นึกว่า ดูเรื่อง ช็อกโกแลตอยู่ วิธีการแสดงไม่เปลี่ยนเลย บทบู๊เราว่า เผลอๆ เรื่องแรกของเธอจะมันส์กว่านะ เรื่องนี้ เหมือนรีบๆสร้างมาเอาเงินยังไงๆอยู่ ฉากบู๊ที่เราคิดว่าน่าจะอลังการกว่าเดิม มาดูเรื่องนี้ เหมือนพยายามก๊อปปี้ กายกรรมเปียงยางมาผสมกับเด็กแร๊บ ซึ่งเราว่าดูตลกมากกว่ามันส์ เพราะว่าแบบนี้ เราสู้ไปดูกายกรรมของจริงจะสนุกกว่า หรือไม่ก็ไปดูเด็กแรบเต้นอย่างเดียว น่าจะดูดีกว่านี้ สรุปคือเราไม่ค่อยชอบเลย จริงๆนะ ดาราในเรื่องนอกจาก จีจ้าแล้ว เราไม่รู้จักใครเลย หน้าตาแปลกๆออกไปทางแนวลบ อ้อ มีคนนึงที่ขอชม เกือบลืมไป คือ คุณ รุ้งตะวัน นักกล้ามหญิง ที่เราเดาว่า ไม่เคยเล่นหนังมาก่อน แต่เรื่องนี้ เล่นใช้ได้เลย แหม แต่เธอคนเดียว คงไม่สามารถ ดึงภาพหนังทั้งเรื่องที่แย่ให้ขึ้นมาได้ แถมฉากบู๊ในเรื่องก็เอามาโปรโมท ในทีวี ตามรายการต่างๆแทบไม่เหลืออะไรให้ลุ้น หรือ ให้ตื่นเต้นแล้ว
คือ ก็อปปี้มาจาก หนังเฉินหลงนั่นเอง ท่าบู๊ ก็พยายามดัดแปลงมาจาก ท่าแร๊บ เนื้อเรื่องส่งนนึงก็เอามาจากเรื่อง เพอฟูม น้ำหอมมนุษย์ เบ็ดเสร็จ คือ ยำใหญ่ใส่สารพัดนั่นเอง รสชาติออกมาเลย ขาดๆเกินๆ ไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ เราให้ 5.3 เท่ากับเรื่องแรก
และพรรคพวก ทำให้พวกเขาจำต้องต่อสู้โดยต้องเดิมพันด้วยชีวิต แต่ ดื้อ และพรรคพวกไม่รู้เลยว่า ความสามารถของพวกเขายังห่างไกลและยากที่จะรับมือศัตรู ทางเดียวที่จะสามารถเอาชนะการต่อสู้ครั้งนี้ได้ คือการเข้าถึงแก่นแท้ที่เป็นหัวใจสำคัญของเมรัยยุทธขั้นสูงสุด นั่นหมายความว่า ดื้อ จะต้องรู้ซึ้งถึงคุณค่าและความหมายของรักแท้ให้ได้เสียก่อน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ ดื้อ ยังไม่เคยสัมผัสมาเลยทั้งชีวิต ถึงแม้ว่าขณะนี้ ดื้อ เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความรักแล้วก็ตามLabels: Action, Thai Movie
อย่างที่บอกแหละว่า ช่วงนี้ไม่ค่อยมีหนังเข้าเลย อาทิตย์นี้เป็นหนังไทยสองเรื่อง คือ เรื่องนี้ กับ จีจ้า อีกเรื่องนึง สำหรับเรื่องนี้ ความรู้สึกตอนแรกคือ ดูก็ได้ ไม่ดูก็ได้ แต่ในที่สุดเราก็มานั่งอยู่ในโรง อ้อ ลืมบอกไปว่าตอนนี้ มีโปรโมชั่นกับช็อกโกแลตคิทแคท เอาซองเปล่าขนาด 6 ชิ้น มาลดราคาค่าตั๋วได้ 60 บาท สรุปแล้ว เราก็จ่ายตั๋วเรื่องนี้แค่ 60 บาท เอง ก็โอเค เมื่อเทียบกับคนที่ใช้โทรศัพท์ค่าย AIS แล้วก็จ่าย 60 บาท เท่ากันไป.jpg)
ปกปิดไว้ว่าตัวเองตั้งครรภ์จึงถูกเปิดเผย สมหวัง จึงพยายามที่จะเลิกเจ้าชู้ แม้ว่าจะยังไม่สำเร็จเสียที ทุกคนหวังว่า สมหวัง ตัวน้อยๆ ที่จะเกิดมาจาก ส้ม จะทำให้ครอบครัวได้ชุ่มชื่นหัวใจ แต่เมื่อ อ๋อย สามารถพา สมหวัง ไปสู่การเป็นนักร้องออกเทปได้สำเร็จ สมหวัง ก็ลืมทุกสิ่งและทิ้งทุกคนไป ทำให้ บำเรอ เสียใจมากกับอาการลืมตัวของ สมหวัง และ ส้ม ก็แทบหัวใจสลาย แล้วความรักของ ส้ม และ สมหวัง จะเป็นอย่างไรต่อไปLabels: Romantic Comedy, Thai Movie
ดูเหมือนหุ่นยนต์นั่น เป็นฉากที่ประทับใจในความเก่งของชุด แต่ดันเป็นฉากที่ตลกที่สุดในเรื่องเพราะเพื่อนพระเอกดันเฟอะฟะจนดูขำมากกว่าจะดูเก่ง ฉากนี้มันส์มาก เพราะระเบอดรถให้เห็นหลายค้นเลยล่ะ ดูน่าตื่นตาตื่นใจดีมาก
ปารีส มอสโก วอชิงตัน ดี.ซี. ออสเตรเลีย ไปจนถึงทะเลทรายซาฮาราของอียิปต์Labels: International Movie, Sci-fi Action
วันนี้ ดูหนังสองเรื่องเพราะอาทิตย์นี้มีหนังเข้าแค่นี้ ( แอบดีใจ ไม่เปลืองตังค์) เห็นหนังตัวอย่างแล้ว ปะทับใจเพลงที่เอามาประกอบ เพลง กอดฉันไว้ ฟังแล้วน้ำตาซึมไม่รู้ตัว ยิ่งพอได้เห็นบทสัมภาษณ์ในรายการทีวีแล้ว ก็ยิ่งอยากดู เห็นเอาดาราเด็กใหม่ๆมาเล่นตรึม ทั้งเรื่องเราไม่รู้จักใครซักคน อ้อ รู้จักคนเดียว คือคนที่เล่นเป็นครูผู้ชายที่ป็นตัวเอกในเรื่อง ที่เล่นได้อารมณืพอใช้เลยแหละ
หมด ก็ถือว่า พอใช้ได้กับการกดดันอารมณ์คนดูได้พอสมควร ( เอาตัวเองเป็นเกณฑ์ )
แล้ว วาล ก็กลายเป็นสะพานที่นำยาไปสู่เพื่อนๆ นักเรียนตัวแสบชั้น ม. 5 พัน (พิเชษฎ์พงษ์ โชคประดับ) ยอด (อำนาจ บัวปรอด) เอก (พงศธร ศรีบุญเพ็ง) และรุ่นน้องม.4 ที่สนิทกันอีก 3 คน เทพ (ณัฐชนน ศุภลักษณ์) ปอด (ศุภณัฐ มีสมศักดิ์) และ โบ๊ะ (นวพล เจริญธรรมรักษา) หันมาทดลองยาเสพติดด้วยหลากหลายเหตุผล เทพ ซึ่งที่บ้านมีฐานะที่สุดช่วยออกเงินทุน ทำให้พวก วาล ไม่เคยขาดยา ทุกคนรู้ว่ามันคือสิ่งที่ผิด แต่ก็ไม่สามารถเลิกได้ เรื่องราวลุกลามจนถึงตำรวจ ทุกคนพร้อมจะตราหน้าพวกเขาว่าเป็นเด็กเหลือขอไม่มีอนาคต อาจารย์ พินิจ (ปรเมศร์ น้อยอ่ำ) จึงยื่นมือเข้าช่วยเด็กๆ และได้รับรู้ปัญหาทั้งหมด อาจารย์พยายามปรับความคิดของเด็กโดยให้ใช้ปัญญาและให้ยืดอกรับปัญหาต่างๆ รวมทั้งปรับความเข้าใจของชาวบ้านในชุมชนสามชุกไปพร้อมๆ กัน ให้ทุกคนคิดเสียใหม่ว่าปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นความผิดของเด็กฝ่ายเดียว ท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่ด่าทอโยนความผิดให้กัน อาจารย์ พินิจ ขอโอกาสให้เด็กๆ ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และรับปากจะทำให้เด็ก 7 คนเลิกยากลับมาเป็นคนดีและอยู่ร่วมในชุมชนอย่างสงบสุขให้ได้ เขาจึงพาเด็กๆ มาอยู่ค่ายประจำที่โรงเรียน ให้เด็กทำกิจกรรมต่างๆ เป็นกิจวัตร ทั้งออกกำลังกาย ปลูกกุหลาบ และทำอาหาร อาจารย์ พินิจ ทำได้มากสุดก็แค่ยืนเคียงข้าง และเฝ้ามองวันที่เด็กทั้ง 7 เข้มแข็งพอที่จะก้าวผ่านพ้นมันไปได้ในที่สุด
Synopsis : Based on a true story, Sam Chuk: Once in a Chance exposes 7 teenagers in a small province called Sam Chuk, whose lives are entangled with troubles and devastated by using drugs. Their local teacher is seriously concerned the drugs problem and begins to cope with them by giving them a chance to prove themselves.Labels: Drama, Thai Movie
สะพาน แหม แจคพอตจริงๆ นอกนั้นแล้ว ก็ธรรมดา หนังมีฉากแอคชั่นนิดหน่อย เน้นตอนปลายๆเรื่อง ส่วนตอนต้นเรื่องเน้นบทยิงคน ซึ่งเราไม่ค่อยชอบ เพราะรุนแรงเกินไป เด็กๆไม่สมควรดูอย่างยิ่ง อีกอย่างคือ โจรก็โง่เหลือเกิน ไม่รู้เลยว่า มีกล้องวิดีโอติดอยู่ที่ แลบทอปของผู้โดยสาร ที่สามารถต่อ อินเตอเนตออกไปเผยแพร่ภาพในรถได้ สงสัยโจรไม่มีความรู้เรื่องคอมพ์
ordinary day is thrown into chaos by an audacious crime: the hijacking of a subway train. Ryder (John Travolta), a criminal mastermind, leads a highly-armed gang of four, threatening to execute the train's passengers unless a large ransom is paid within one hour. As the tension mounts beneath his feet, Garber employs his vast knowledge of the subway system in a battle to outwit Ryder and save the hostages. But there's one riddle Garber can't solve: even if the thieves get the money, how can they possibly escape?Labels: Action, International Movie
จริงๆ ก่อนหน้านี้ มีคนเอาตั๋วฟรีมาให้ แต่พวกตั๋วฟรีดูรอบปฐมทัศน์พวกนี้เนี่ย มักจะต้องไปดูรอบ สองทุ่มซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็เลิกสี่ทุ่ม แบล้วก็ชอบไปฉายแถวสยาม ไม่เวิลเทด ก็ พารากอน คำนวณ แล้ว ค่าเดินทางกับค่าตั๋ว พอๆกันกับมาดูแถวบ้าน แถมไม่เสียสุขภาพนอนดึกอีกต่างหาก เราก็เลยไม่เอาดีกว่า
หน้างานแต่ง สี่หนุ่มซึ่งประกอบไปด้วย ดัก และเพื่อนสนิทของเขา ฟิล เวนเนก (แบรดลีย์ คูเปอร์) และ สตู ไพรซ์ (เอ็ด เฮล์มส์) และพี่ชายของ เทรซี ที่ชื่อ อลัน (แซก กาลิเฟียนาคิส) พากันกระโดดขึ้นรถเบนซ์เปิดประทุนสุดรักของพ่อตาไปฉลองสละโสดแบบสุดเหวี่ยงกันที่ลาสเวกัส ฟิล เป็นคุณครูชั้นมัธยมศึกษาที่แต่งงานแล้ว เวลาเขาอยู่กับเพื่อนๆ วุฒิภาวะของเขาจะลดลงเท่าๆ กับของลูกศิษย์ของเขาเลยทีเดียว ส่วน สตู เป็นหมอฟันที่ขี้กังวลไปเสียทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่อง เมลิสสา (ราเชล แฮร์ริส) แฟนสาวจอมบงการของเขา เขาจึงต้องโกหกเธอว่ากำลังมาเที่ยวชิมไวน์อยู่ที่นาปา วัลเลย์ ส่วน อลัน ก็น่าหนักใจไม่แพ้กัน เพราะดูเหมือนเขาจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมารยาทการเข้าสังคมเลยแม้แต่นิดเดียวเช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาตื่นขึ้นในห้องโรงแรมที่ลาสเวกัส ต่างก็ปวดหัวแทบจะแตกเพราะอาการเมาค้าง ไม่มีใครจำได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลา 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา ห้องพักของพวกเขาอยู่ในสภาพเละเทะโกลาหล มีสิ่งประหลาดๆ ที่ไม่ควรจะอยู่ในห้องนั้นปรากฏขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ ส่วนสิ่งที่ควรจะอยู่ในห้องนั้นกลับหายไป ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือสิ่งที่สำคัญที่สุดของงานนี้ เจ้าบ่าวที่ชื่อ ดัก นั่นเอง ฟิล สตู และ อลัน พยายามหาตัว ดัก ให้พบ โดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่อย่างน้อยนิด ออกตะลุยค้นหาว่า สิ่งแปลกๆ ที่ไม่ควรจะอยู่ในห้องนั้นมาจากไหน และเกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่หายไป พวกเขาจะต้องปฏิบัติภารกิจนี้แข่งกับเวลา เพราะถ้าหา ดัก ไม่เจอในอีก 2-3 ชั่วโมง เทรซี คงจะเริ่มผิดสังเกตว่ามีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นแน่ๆ แต่ที่แย่กว่านั้นคือ
ถ้าพวกเขาหา ดัก ไม่เจอก่อนวันแต่งงาน หายนะแบบไหนกันหนอที่กำลังจะเกิดขึ้น
As Phil, Stu and Alan try to find Doug using only what little pieces of information they have at hand, they go on a journey of discovery of how certain things got into the suite and what happened to the missing items. However they are on a race for time as if they can't find Doug in the next few hours, they are going to have to explain to Tracy why they are not yet back in Los Angeles. And even worse, they may not find Doug at all before the wedding.Labels: Comedy, International Movie
ตามที่เคยได้ลั่นวาจาเอาไว้ว่า จะลดการดูหนังโรง แล้วเราก็ทำได้จริงๆด้วย เพราะช่วงนี้มีหนังเข้าน้อยมากๆ อาทิตย์หนึ่งจากเดิมที่เคยฉายอยู่ 4-5 เรื่อง ตอนนี้ จะด้วยสภาวะเศรษฐกิจ หรืออะไรก็แล้วแต่ เชื่อมั๊ยช่วงนี้แต่ละโรงมีหนังเข้าใหม่แค่อาทิตย์ละ หนึ่ง-สองเรื่องเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น ต่อให้เราไม่หลุดปากออกมาว่าจะดูหนังลดลง เราก็ต้องลดปริมาณการดูลงอยู่แล้ว 55555.jpg)
Labels: Thai Movie, Thriller