Thursday, October 29, 2009,10/29/2009 01:00:00 AM
Jurassic 3D (Dinosaurs Alive) : ไดโนเสาร์ สามมิติ
อีกแล้วครับท่าน เราได้คูปองส่วนลดจกเครื่องดื่ม โค๊กซีโร่ มา 100 บาทเพื่อดูหนังเรื่องนี้ ที่ กรุงศรีไอแม็กซ์ จาก 250 เหลือ 150 บาท ถือเป็นราคาที่พอรับได้ สำหรับหนังสามมิติ ความยาว หนึ่งชั่วโมง ตอนตีตั๋ว น้องคนขายตั๋ว บอกชัดเจนเลยว่าเป็นหนังสารคดีนะคะ เราเลยเตรียมใจไว้ล่วงหน้าแล้วว่า เป็นหนังแนวไหนยังไง ดังนั้นก็เลยไม่ต้องคาดหวังอะไร เราเคยดูหนังแนวไดโนเสาร์สามมิติมาแล้วครั้งหนึ่ง ที่กรุงไทยไอแม็กซ์ ดูสนุกดี เหมือนไดโนเสาร์อ้าปากจะงับเราจริงๆ ยังประทับใจไม่รู้ลืม มาคราวนี้ก็เลยอยากรู้สึกอย่างนั้นอีก ก็ต้องดั้นด้นมาดูที่นี่แหละ 5555 ถึงแม้จะเป็ฯสารคดี แต่คนสร้างก็พยายามให้เห็นตัวเป็นๆของมัน มีฉากที่เห็นเจ้าตัวยักษ์ๆนี่ เยอะเหมือนกัน ทำให้สะใจในระดับหนึ่ง แต่อย่างที่เล่าว่ามันเป็นสารคดี เพราะฉะนั้น จะไปหวังว่ามีเนื่อเรื่องมันส์ก็เลิกหวังไปได้ เอาแค่ไม่น่าเบื่อก็พอ รอบที่เราดู มีคนดูประมาณ ยี่สิบคน ก็ไม่เห็นมีใครบ่นอะไร แม้แต่เด็กๆ ก็ส่งเสียง วี๊ดิ้ว กันเต็มที่กับฉากที่ไดโนเสาร์โผล่มาในจอ เราชอบฉากนกกกไข่แล้วโดนน้ำท่วม ฉากนี้ติดตาดูแล้วสงสารนก ไม่เคยรู้เลยว่า นกโดนน้ำท่วมเป็นอย่างนี้ น่าสงสาร เรื่องนี้ ไม่มีอะไรให้เขียนถีงมากมายอะไร เพราะเป็นสารคดี เนื้อเรื่องคือให้ความรู้กับคนดูเต็มที่ โดยเอาฉากสามมิติมาดึงคนดู เราว่าพอใช้ได้นะ แต่ที่ต้องติ คือ ตัวบรรยายภาษาไทย เอาอีกแล้ว เราสงสัยเด็กไทยที่ฟังภาษาอังกฤษไม่แตกจัง คงมีปัญหาในกาสื่อสารพอสมควรด้วยแหละ เพราะตัวหนังสือจางมากๆ แถมยังซ้อนอีก ต้องเพ่งสายตามากๆเลย กว่าจะดูออกว่าเขียนว่าอะไร ทรมาณสายตา จะเสียก็ตรงนี้แหละ เรื่องนี้ เราให้ 6.2 นะ เสียตรงตัวบนนยายนี่แหละ ไม่รู้เมื่อไหรจะแก้ซักที บอกไปหลายทีแล้ว
เนื้อเรื่องย่อ : นี่คือการผจญภัยรอบโลกของวงการวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ เริ่มจากการค้นพบไดโนเสาร์ยุคเริ่มแรกจากยุคไตรแอสซิกไปจนถึงยักษ์ใหญ่แห่ง ยุคครีเตเชียส ผู้ชมจะได้เดินทางไปกับนักโบราณชีววิทยาชั้นนำของโลกเพื่อไปสำรวจหลักฐานที่ ยืนยันว่าลูกหลานของไดโนเสาร์ยังมีชีวิตอยู่ร่วมกับเราในขนะนี้ ตั้งแต่เนินทรายที่กว้างใหญ่ของทะเลทรายโกบีในมองโกเลียจนถึงภูเขาหินทรายในนิวเม็กซิโก ภาพยนตร์จะติดตามนักโบราณชีววิทยาจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งอเมริกาหรือ เอเอ็มเอ็นเอช ไปสำรวจการค้นพบซากไดโนเสาร์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยเวทมนตร์ของภาพเคลื่อนไหวที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์และมีความแม่นยำตามความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สิ่งมีชีวิตชนิดที่ถูกค้นพบใหม่และชนิดที่คุ้นเคยกันดี จะกลับมามีชีวิตใหม่อย่าง... ยิ่งใหญ่สุดๆ!
Synopsis : This is a global adventure of science and discovery - featuring the earliest dinosaurs of the Triassic Period to the monsters of the Cretaceous. Audiences will journey with some of the world's preeminent paleontologists as they uncover evidence that the descendents of dinosaurs still walk (or fly) among us. From the exotic, trackless expanses and sand dunes of Mongolia's Gobi Desert to the dramatic sandstone buttes of New Mexico, the film will follow American Museum of Natural History (AMNH) paleontologists as they explore some of the greatest dinosaur finds in history. Through the magic of scientifically accurate computer-generated animation, these newly discovered creatures, and some familiar favorites, will come alive ... in a big way!

Labels: , , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,10/29/2009 12:55:00 AM
Surrogates : คนอึดฝ่านรกโคลนนิ่ง
มาแล้วครับท่าน หนังแนววิทยาศาสตร์ ที่เรารอคอย หลังๆไม่ค่อยมีเรื่องที่โดนๆเท่าไหร่ มาเรื่องนี้แหละที่เนื้อเรื่องจ๊าบจริงๆ กล่าวถึคงโลกอนาคตที่คนเราสามารถโคลนนิ่งตัวเองโดยใช้หุ่นยนต์ให้ไปทำอะไรๆแทนเราได้สารพัด โดยที่เราไม่ต้องทำเอง จะว่าไปก็เหมือน อวตารในคอมพิวเตอร์เพียงแต่นี่ไม่ใช่โลกไซเบอร์แต่เป็นหุ่นออกมาเลยแบบจับต้องได้สามมิติ เราว่าไอเดียพล็อตเรื่องโอเคเลยนะ และมีคว่ทเป็นไปได้สูง หนังก็ยังแสดงให้เห็นถึงผลตามมาของการใช้หุ่นแบบนี้ด้วยว่า เกิดผลกระทบต่อสังคมโลกยังไงบ้าง เป็นหนังที่มีสาระ และเนื้อเรื่องของความเป้ฯวิทยศาสตร์ผสมผสานกันได้แบบลงตัว ดูสนุก ไม่น่าเบื่อเลย ยิ่งได้ บรูซ วิลลิส มาแสดงดีงคนยิ่งดีใหญ่ แต่เราไม่ค่อยชอบเค้าเท่าไหร่ เพราะเล่นหนังแสดงสีหน้าเป็นแบบเดียว ดูแล้วเหมือนกำลังดูไดฮาร์ดอยู่ยังไงยังงั้น เรื่องนี้ดูแล้วสบายตาสบายใจ เพราะมีแต่คนหน้าตาสวยๆงามๆมาแสดงเป็นหุ่น หน้างี้ เด้งเชียวทั้งผู้หญิงผู้ชาย หน้าเรียบ สีสวยเป็นซิลิโคนเลย ถ้าอยากจะให้เสริมก็คงจะเป็นฉากแอ็กชั่นมันส์ๆ ไม่ใช่ว่าในหนังไม่มีนะ มีเหมือนกัน แต่เป็นฉากต่อยเล็กๆน้อยๆ กระโดดขึ้นลงบ้าง แต่ที่เราหมายถึง เรากำลังพูดถึงการต่อยแบบหนักหน่วงนานๆหน่อย แบบมีผู้ร้ายเยอะๆ แล้วมารุมพระเอกคนเดียวอะไรแบบนี้ อ่ะ เรื่องนี้ไม่มี จะมีมั่งก็นิดเดียว ไม่สะใจเลย เบ็ดเสร็จแล้ว เราว่า หนังโอเคนะ ที่ชอบที่สุดก็คือ พล็อตเรื่อง ที่มีความสมจริง ไม่รู้จะยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนั้นหรือเปล่า เราให้ 8.3 เลย
เนื้อเรื่องย่อ : เทคโลโนยีหุ่นยนต์ตัวแทนอันล้ำสมัย ทำให้ผู้คนสามารถซื้อหุ่นยนต์ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนพวกเขา แต่สวยงามหมดจดไร้ที่ติ เพื่อนำมาเป็นตัวแทนการใช้ชีวิต มนุษย์จึงได้สัมผัสประสบการณ์ชีวิตอย่างเต็มอิ่ม โดยที่ตัวจริงของพวกเขาคอยควบคุมหุ่นยนต์อยู่แต่ในบ้านที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย นี่คือโลกในอุดมคติที่ซึ่งอาชญากรรม ความเจ็บปวด และความกลัวไม่มีอยู่อีกต่อไปแต่แล้วคดีฆาตกรรมคดีแรกในรอบหลายปีก็เกิดขึ้นบนดินแดนอันสวยงามแห่งนี้ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ทอม เกรียร์ (บรูซ วิลลิส) ได้รับมอบหมายให้มาสืบสวนคดีฆาตกรรมนักศึกษาวิทยาลัยคนหนึ่ง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ที่สร้างเทคโนโลยีหุ่นยนต์ตัวแทนนี้ขึ้น หลังจากนั้น เกรียร์ พบว่าเทคโนโลยีดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องโยงใยกับคดีนี้เป็นอย่างมาก เมื่อคดีเริ่มซับซ้อนมากขึ้นๆ เกรียร์ พบว่าหนทางเดียวที่จะจับฆาตกรได้ คือเขาต้องละทิ้งหุ่นยนต์ตัวแทนของเขาเอง แล้วก้าวเท้าออกจากบ้านอันปลอดภัยของเขาเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี นอกจากนี้เขายังต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่สืบสวนหญิง ปีเตอร์ส (ราดาห์ มิตเชลล์) ในการไล่ล่าตัวคนร้ายมาให้จงได้
Synopsis : A high-tech surrogate phenomenon that allows people to purchase unflawed robotic versions of themselves - fit, good looking remotely controlled machines that ultimately assume their life roles - enabling people to experience life vicariously from the comfort and safety of their own homes. It's an ideal world where crime, pain, fear and consequences don't exist.When the first murder in years jolts this utopia, FBI agent Tom Greer (Bruce Willis) investigate the mysterious murder of a college student linked to the man who helped create a high-tech surrogate Phenomenon. Then Greer discovers a vast conspiracy behind the surrogate phenomenon.As the case grows more complicated, the detective discovers that in order to actually catch the killer he must abandon his own surrogate and venture outside the safety of his own home for the first time in many years, and enlists the aid of another agent Peters (Radha Mitchell) in tracking his target down.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,10/29/2009 12:52:00 AM
Slice : เฉือน ฆาตกรรมรำลึก
ได้ยินกฤษณ์ กะ มดดำพูดหลายทีแล้วในแฉแต่เช้า บอกให้ไปดูๆ เราก็เอ๊ มันจะสนุกอะไรขนาดนั้นวะ วันนี้ฤกษ์ดี ตั๋วสื่สิบบาท เลยมาดูซะเลย ยอมรับเลยว่า หนังทำได้ดีสมราคาคุยจริงๆด้วย แต่ไม่น่าเชื่อว่าคนดูจะน้อยว่า มหาลัยสยองขวัญ แบบครึ่งต่อครึ่งเลย นี่ขนาดโรงฉายโรงเดียวเองนะ เราก็นึกว่าจะมีคนมาดู เป้อารักษ์มากกว่านี้ หนังเปิดฉากมาก็สยองเลย เราขอชมเชย คนทำศิลปะแต่งหน้าและศพปลอมต่างๆ ยกนิ้วให้สองนิ้วโป้งเลย สุดยอดจริงๆ เราว่าเทียบได้กับระดับ ฮอลลีวูดเลยนะ ดูเหมือนจริงๆ เราจะไม่พูดถึงเนื้อเรื่องนะ เพราะมาอยู่ด้านล่างแล้ว แต่จะบอกว่า เรื่องนี้ เป้แสดงดีขึ้นเยอะเลย แข็งน้อยลง แล้วก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องมีบทเปลือยด้านหลังเลย มีทำไม งง สงสัยคงอยากเรียกคนดูมั๊ง เดาเอานะ แต่ไม่มีอะไรน่าดูเลยจริงๆ พูดไปแล้วอาจไม่เชื่อ เราไม่ได้อ่านเรื่องย่อมาก่อนเลยนะ แต่เราเดาได้ถูกทั้งเรื่องเลยว่า อะไรยังไง คนที่ไม่ได้พูดถึงเลยนั่นแหละ คือฆาตกร แล้วเรื่องนี้ ก็มีตัวเอกที่ไม่ได้พูดถึงบ่อยอยู่ตัวเดียวเอง แต่ก็ถือว่าโอเคอ่ะนะ สำหรับหนังแนวฆาตกรรมลึกลับ ถือว่า โดนใจเรามากๆเลย ดาราแสดงเก่งทุกตัวเลย โดยเฉพาะเด็กนัท เล่นเก่งสุดยอด ไม่เคยเห็ยเล่นเรื่องไหนมาก่อน มาเรื่องแรกก็รับบทหนักเลย โดนตุ๋ยอีกต่างหาก เราให้คะแนนนัทเต็มสิบไปเลย ฉากที่เราซึ้งมีเยอะแยะเลย โดยเฉพาะฉากทีพวกเด็กผู้ชายไปเล่นกัน ไปฉี่ริมแม่น้ำ ต่อยกัน ดูแล้วนึกถึงตอนเป็นเด็กขึ้นมาตะหงิดๆ แถมคนดูในโรงก็เฮกันใหญ่เลย แสดงว่า ไม่ได้เป็นที่เราคนเดียว คนอื่นก็รู้สึกเหมือนกัน อีกคนที่ต้องชมคือนางเอกของเรื่อง ผอมได้ใจ ฉากที่แสดงตอนใกล้ๆจบ ที่เป็นไคลแม็กซ์ของเรื่องแสดงสีหน้าได้ดีมากๆ ดูแล้วอิน เรื่องนี้ทั้วเรื่องต้องยกเครดิตให้ผู้กำกับ ที่เลือกตัวแสดงได้ดีจริงๆ คนแต่งหน้า และคนทำงานศิลป์ สุดยอด ฉัตรชัย แสดงดีอยู่แล้วไม่ต้องพูดถึง แต่เรื่องนี้เล่นเป็นคนไม่ดี แถมมีบทไม่มากเท่าไหร่ด้วย บทเทไปที่เป้เกือบหมดเลย กับเด็กนัท ที่ว่าเล่นดี เรื่องนี้เราให้ 9.0 เลย ขอปรบมือให้
เนื้อเรื่อง : เกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดสยองขึ้น เหยื่อทุกรายถูกฆ่าหั่นศพ และนำชิ้นส่วนแยกไปทิ้งคนละแห่ง เหตุเกิดซ้ำๆ ศพแล้วศพเล่า แต่ตำรวจก็ยังมืดแปดด้านไม่อาจหาตัวฆาตกรได้ ไท (อารักษ์ อมรศุภศิริ) นักโทษซึ่งเป็นอดีตมือปืนรับจ้างกลับใจ พยายามจะบอกว่าเขารู้เงื่อนงำบางอย่างเกี่ยวกับฆาตกรรายนี้กับ ชิน (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) นายตำรวจใหญ่ที่ใช้เขาทำงานลับ แต่ ชิน กลับไม่ใส่ใจฟัง จนกระทั่งเหตุสยองเกิดขึ้นอีกคราวกับลูกชายรัฐมนตรี ตำรวจถูกบีบให้ทำทุกวิถีทางในการจับฆาตกรมาลงโทษให้ได้ ไท จึงถูกนำตัวมาจากเรือนจำ และเกิดการต่อรองขึ้น ไท ขอให้ตำรวจปล่อยตัวเขาโดยไม่มีข้อแม้ และขออิสระในการทำงานทุกอย่าง แลกกับการที่เขาจะต้องนำตัวฆาตกรมาลงโทษให้ได้ภายใน 15 วัน โดยตำรวจจับตัว น้อย (เจสสิกา ภาสะพันธุ์) ภรรยาของ ไท เอาไว้เป็นตัวประกัน ถ้าเขาไม่กลับมาพร้อมฆาตกร ตำรวจจะฆ่าภรรยาของเขาทันที ไท เริ่มแกะรอยจากความทรงจำของเขาในอดีต และแล้วความจริงจากอดีตก็เริ่มฉายภาพชัดขึ้น ฆาตกรมืออาชีพและฆาตกรต่อเนื่อง... จำต้องมาเผชิญหน้ากันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วอะไรกันแน่... คือบทสรุปที่มาของการฆาตกรรมคดีนี้
Synopsis: A terrible homicide has happened, the bodies of the victims are sliced into pieces and the police is desperately seeking for the serial killer. In the despair, a former assassin named Tai who is now imprisoned, trying to give some clues of the killer to Shin, a detective who is in the case. Then, Tai is set free from the prison to find the killer and has to bring the killer to the police in 15 days. When Tai starts to bring back his past to trace the killer, the truth evidently reveals.

Labels: , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,10/29/2009 12:45:00 AM
Mahalai Sayongkwan : มหา'ลัยสยองขวัญ
ไม่อยากเชื่อเลยว่า คนดูจะแน่นโรงได้ซะขนาดนี้ ไม่รู้ว่าเกิดจากกระแสของหนังหรือ ราคาค่าตั๋วหนังกันแน่ เพราะตั้งแต่แข่งกันทำราคา ตอนนี้ ทุกที่วันพุธ ราคาน่าดูมากๆ ที่เมเจอร์ซิเนเพล็ก 60 บาท ที่เอสเอฟ 40 บาท และล่าสุดฮอลลีวูดก็เอากะเค้าด้วย ที่ 59 บาท เอาเข้าไป แต่เราก็มาดูโรงเอสเอฟอ่ะนะ เพราะถูกที่สุด วันนี้ วางแผนมาดูสามเรื่องเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก อยากบอกว่าคนแน่นจริงๆ รู้สึกว่าจะเต็มทุกที่นั่งเลย บรรยากาศเดียวกันกับมาดูเรื่องสุริโยทัย หรือองบากนั่นเลยนะ ไม่ได้เว่อร์ เวลามาดูหนังผีที่คนแน่นๆ มันได้บรยากาศจริงๆเพราะสาวๆขวัญอ่อนในโรงนี่ ขยันกรี๊ดจังเลย ทำให้หนังดูสนุกขึ้นอีกเป็นกอง รอบที่เราดูนี่ มีคนขวัญอ่อนเกือบครึ่งโรง เพราะฉะนั้นนึกดูละกันฉากผีมา จะกรี๊ดกันสนั่นโรงขนาดไหน อย่างกับเข้าไปในบ้านผีสิงในสวนสนุก ดูแล้วได้อารมณ์มั่กๆๆๆๆ 5555 ชอบๆ สนุกดี แทนที่จะน่ากลัวเลยขำคนดูแทน หนังเอาหนัง สี่ห้าเรื่องมาร้อยเป็นเรื่องเดียวโดยอาศัย เป้ยปานวาดเป็นตัวเชื่อม โดยเรื่องนี้ เป้ยรับบทเป็ฯคนเก็บศพ ซึ่งต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องเล่าวิญญาณต่างๆที่ไม่เหมือนกัน ผีตัวแรกก็น่ากลัวแล้ว ดูแล้วหลอนมากๆ เป็นผีในห้องน้ำหญิงที่ชั้นห้าของมหาลัยแห่งหนึ่ง นึกภาพแล้วขนหัวลุก ผีตัวที่สองเป็นผีที่สิงอยู่ในลิฟท์ที่นักศึกษายุคเรียกร้องประชาธิปไตย ถูกทหารยิงตายคาลิฟท์ ทำให้คอยหลอกหลอนผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักศึกษาน้องใหม่ที่ดันเป็นลูกหลานของนักการเมืองต้นเหตุในสมัยนั้น เรื่องถัดมาเป็นเรื่องของนิสิตหมอฟันที่ดันอาสาไปเฝ้าห้องดับจิตเลยเกิดเรื่องเมื่อสองนักศึกษาขี้เล่น เล่นจนเลยเถิดโชคดีนะที่ผีเรื่องนี้ นิสัยดี ไม่เอาจนตาย แต่ดันมาช่วยชีวิต ขอบอกว่า ผีที่แสดงหน้าตาจืดได้ใจ ดูแล้วเหมือนคนตายจริงๆ พูดแล้วขนลุก สุดท้าย ใกล้ตัวเป้ยสุดๆ เพราะเป็นเพื่อนสนิทของเป้ยเอง ที่ถูกคนโรคจิตฆ่าตาย เรื่องนี้ไม่ค่อยชอบเลย เพราะดูแล้วตัวแสดงเป็นคนที่ถูกฆ่าเล่นแข็งไปหน่อย ดูแล้วเหมือนเด็กเล่นมากกว่าที่จะเป็นนักแสดงมืออาชีพ แต่ตอนเป็นผี คนทำCG ทำได้ดีมากเลย ขาด้วนคลานขึ้นบันไดบ้าน หลอนมั่กๆ นอกนั้นก็โอเค รวมๆหนังเรื่องนี้ ดูสนุกมาก เป็นหนังผีฝีมือเข้าขั้นเดียวกันกะ สี่แพร่ง ห้าแพร่งเลย เราจัดให้อยู่ในระดับเดียวกันเลยนะ ถือว่าสุดยอด แถมเรายังถูกอุปทานหมู่ ทำให้บรรยากาศในการดูหนังสนุกมากยิ่งขึ้นไปอีก แหม นับว่าเป็นหนังผีที่ชอบอีกเรื่องเลยจริงๆนะ เรื่องนี้เราให้ 9.1 นะ
เนื้อเรื่อง : หมวย (ปานวาด เหมมณี) นักศึกษาสาว ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมเข้ามาฝึกงานกับมูลนิธิกู้ภัยในกรุงเทพฯ และต้องมาเจอเรื่องผวาสั่นประสาทตั้งแต่คืนแรกที่ปฏิบัติงาน เธอได้รับแจ้งเหตุให้ไปที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อหนุ่มสาวสุดซ่า ป้อน (ภัณฑิลา ฟูกลิ่น) และ จิมมี่ (อธิศ อมรเวช) อยากลองดีกับศาลในตำนานที่ไม่มีใครกล้าหือ จนเกิดเรื่องราวไม่คาดฝัน เพราะนั่นคือศาลในห้องน้ำหญิงที่ได้รับการดูแลอย่างดีแต่ไม่มีใครย่างกรายเข้าใกล้ บางคนว่าเป็นศาลนางไม้ บางคนว่าเป็นศาลของนักศึกษาหญิงที่ผูกคอตาย... ในคืนนั้นเอง หมวย มีโอกาสช่วย นกน้อย (อาชิรญาณ์ ภีระพัภร์กุญช์ชญา) นักศึกษาหญิงที่ถูกรุ่นพี่เหม็นขี้หน้า ข้อหาไม่ยอมทำตามคำสั่ง เลยถูกกลั่นแกล้งให้ไปติดอยู่ในลิฟต์สุดเฮี้ยนเพียงลำพัง ลิฟต์ที่มีนักศึกษาถูกยิงกราดและไม่สามารถล้างคราบเลือดสีแดงออกได้ จึงต้องทาสีทั้งลิฟต์เป็นสีแดงทั้งหมด มักมีคนได้ยินเสียงเคาะจากในลิฟต์ แต่เมื่อลิฟต์เปิดกลับไม่พบใครอยู่ บางครั้งเมื่อเข้าลิฟต์คนเดียวไม่นานก็พบว่ามีคนมากมายมายืนเป็นเพื่อนด้วย...เพียงวันถัดไปเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นอีก เมื่อทีมกู้ภัยของ หมวย จำเป็นต้องส่งศพหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าตายแล้วโยนศพลงน้ำไปที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ประเสริฐ (ปองสิชฌ์ พิศิษฐการ) นักศึกษาแพทย์ที่ฝันอยากจะเป็นทันตแพทย์มือหนึ่ง ได้รับมอบหมายจากอาจารย์ให้มาเฝ้าห้องดับจิต และคืนนั้น คนที่กลัวผีจนขึ้นสมองอย่าง ประเสริฐ จะต้องเฝ้าศพหญิงสาวนิรนามที่ถูกฆ่าตายอย่างทารุณเพียงคนเดียว...เรื่องราวสุดผวายังคงวนเวียนอยู่กับ หมวย แต่คราวนี้มันกลับพุ่งเป้ามาที่คนใกล้ตัวของเธอ นั่นคือ สา (แอนนา รีส) ซึ่งอยู่ในหอพักที่มีเรื่องเล่าสุดสยองของผีสาวรักเพื่อน ซึ่งทำให้ หมวย ได้พบกับความจริงที่เกิดขึ้น ความจริง... ที่เธอมิอาจลืม
Synopsis: Based on various horror and ghost tales from universities, the film centers around students who encounter paranormal events that haunted in their university. They must fight against their fears and scary things that looming around them.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink1 comments
,10/29/2009 12:42:00 AM
Bangkok Traffic Love Story : รถไฟฟ้า..มาหานะเธอ
หลังจากดูจบก็บอกได้เลยว่า เป็นหนังไทยในดวงใจอีกเรื่อง ที่ต้องซื้อดีวีดี เก็บไว้อย่างแน่นอนที่ซู๊ด เพราะหนังดูสนุกทุกตอน เนื้อเรื่องน่ารัก ดาราโอเค เราไม่เคยดูหนังของเคนมานานมากแล้ว ทีวีที่เคนเล่นก็ไม่ค่อยได้ดู จำได้ว่าเรื่องล่าสุดที่เคนเล่นแล้วเราดู คือเรื่องข้างหลังภาพ ยอมรับว่า เล่นหนังได้ดีขึ้น จากเดิมที่ยังเล่นแข็งๆกับ คุณหญิงกีรติ ( คาร่า พลสิทธิ ) ในเรื่องข้างหลังภาพนัน ก็ทำให้ขยาดไม่ค่อยได้ดูหนังของพวกเค้าอีกเลย
ต้องบอกอกอย่างว่า กระแสของการโปรโมทหนังเรื่องนี้ แรงจริงๆ เราว่านะแม้แต่คนที่ไม่ได้สนใจจะดู ก็เห็นทีจะอดไม่ได้กับการโฆษณาของหนังเรื่องนี้ ก็เล่นมันแทบทุกสื่อเลย ตั้งแต่ วิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต แล้วไหนยังจะ ใบปิดหน้าโรงอีกต่างหาก รับรองต้องโดนเข้าหูเข้าตามั่งแหละน่า แต่เราเคยเห็น คริส หอวัง ออกรายการทีวี เห็นดูแล้วคล้ายๆว่าจะหยิ่งๆ แต่ดูในหนังเราลืมภาพนั้นไปเลย ดูน่ารัก กุ๊กกิ๊กมากมาย ดูแล้วประทับใจ อยากมีแฟนหน้าตาหมวยน่ารักแบบนี้ซักคน จะไม่ลืมพระคุณ 5555
เราไม่ได้ไปดูรอบแรกเหมือนเคย เพราะว่า อาทิตย์นี้ มีโปรโมชั่นแรงมากๆ คือ ใครที่ซื้อตั๋วดูหนังที่เอสเอฟทุกวันพุธ ตั๋วเหลือแค่ 40 บาทเอง แล้วเราจะจ่ายแพงกว่าทำไม ตอนนี้เราทำลิสท์หนังที่จะดูไว้ตรึมเลย ราคาแบบนี้ ไม่ได้มีตลอดปี เราก็ไม่รู้ว่า เอสเอฟจะทนขายตั๋วราคาแบบนี้ไปได้นานขนาดไหนเหมือนกัน ที่ทำแบบนี้ เราว่า ส่วนหนึ่งคงต้องการชนกับ เมเจอร์ฝั่งตรงข้ามด้วยแหละ ที่ออกโปรออกมาก่อน โดยทุกวันพุธ ตั๋วราคา 60 บาท เอสเอฟเลยต้องออก 40 บาทมาดึงลูกค้า ราชอบมากๆเลย เพราะแข่งกันแบบนี้ คนที่สบายคือลูกค้า ดีดี ทำไปเหอะ ชอบ
เราก็เลยมาดูที่เอสเอฟ อย่างที่เกริ่นไว้ แทบไม่น่าเชื่อว่าคนดูจะถล่มทลายขนาดนี้ เรามาซื้อตั๋วก่อนหนังฉายประมาณ ครึ่งชั่วโมง ปรากฏว่า เหลือที่นั่งแค่ไม่กี่ที่เอง เกือบต้องไปดูรอบถัดไปแน่ะ พอหนังฉายเราก็ได้กลิ่นอายของความสนุกโชยมาเป็นระยะ เราว่าหนังเรื่องนี้ ลำดับภาพ และกำกับได้ดีมากๆ ดูเข้าใจไม่ยากเลย ( แหม ก็อย่างว่าแหละ หนัง รัก มันจะไปดูยากอะไรมากมาย 55555 ) ถ้าเราไม่ได้มาดูหนังเรื่องนี้คงเสียคายและเสียใจแย่เลย เพราะหนังดูสนุกมากๆ นางเอกน่ารัก เล่นได้น่าเอ็นดูจริงๆ ส่วนเคนไม่ต้องพูดถึงฝีมือดีขึ้นแล้ว อ้อ น้องอีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือน้องอังสุมารินทร์ ที่เราเคยดูเค้าเล่นเรื่อง ปิดเทอมใหญ่ เรื่องนั้นเล่นเป็นเด็กสาววัยรุ่นใสมากๆ แต่เรื่องนี้เล่นเป็ฯนด็กวัยรุ่นแนวจัดจ้าน ก็แสดงได้ดีเหมือนกันแต่เราชอบที่น้องเค้าใสๆมากกว่า เรื่องนี้ ถึงแม้จะแสดงดีแต่ภาพมันขัดลูกตายังไงก็ไม่รู้ แต่บทที่น้องเต้าได้รับก็โอเคนะ ถ้าไม่มีน้องคนนี้ เรื่องคงจืดน่าดู ที่อยากบอกอีกอย่างคือ โอปอบทน้อยไปหน่อยนะ อยากดูโอปอมากๆๆๆกว่นี้อีกหน่อย ขำดี 55555
สรุปแล้ว ชอบหมดทุกอย่างเลย หนังดูสนุก ลำดับภาพ และเนื้อเรื่องทำได้ดีมากๆ น่ารัก ถึงแม้เนื้อเรื่องจะกลวงไปหน่อย แต่สำหรับหนังรักเรื่องนี้ สิ่งที่เราได้รับมีมากจริงๆ ขอบคุณทีมงานสร้างทุกคนที่ทำหนังน่ารักๆมาให้เราได้ดู เป็นหนังในดวงใจอีกเรื่องนึงเลยล่ะ เราให้ 9.5 นะ

เนื้อเรื่องย่อ : สภาพจราจรในปี 2552 ยังเป็นปัญหาหนักอกของคนกรุงเทพฯ แม้จะมีถนน สะพาน และทางด่วนใหม่ๆ ผุดขึ้นหลายต่อหลายสาย ผิวจราจรเหล่านั้นก็ยังติดขัดและไม่เพียงพอต่อความต้องการ... ถนนในกรุงเทพฯ นี้ก็เหมือนหนุ่มหล่อแสนดี ที่มีน้อยและไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการ! เหมยลี่ (คริส หอวัง) เป็นสาววัย 30 ที่มีพฤติกรรมป่วนประจำตัวคือการเมาในงานแต่งงานเพื่อน เพราะมันช่างตอกย้ำซ้ำเติมชีวิตโสดสนิทไร้ชายใดมาแผ้วพานของ ลี่ วันหนึ่งหลังลากสังขารกลับจากการส่ง เป็ด (ปณิสรา พิมพ์ปรุ) เพื่อนสาวสุดซี้เข้าห้องหอ ลี่ ก็ประสบอุบัติเหตุจนขับรถไถลไปกับทางกั้นถนน เธอหักหลบรถจนไปหยุดหน้าแผงโจ๊ก ที่ซึ่ง ลี่ ได้พบหนุ่มหล่อชื่อ ลุง (ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์) เป็นครั้งแรก เมื่อกลับถึงบ้าน ลี่ ถูกป๊าผู้ต่อต้านแอลกอฮอล์ทุกชนิดยึดกุญแจรถ และห้ามขับรถเองอีกโทษฐานเมาแล้วขับ ชีวิตที่ไม่มีชายหนุ่มคอยไปรับไปส่งอย่าง ลี่ จึงต้องออกไปผจญการจราจรสุดโหดของเมืองบางกอกเพียงลำพัง แต่ละวัน ลี่ ต้องปากกัดตีนถีบ ขึ้นรถจักรยานยนต์ ต่อรถตู้ โบกแท็กซี่ โหนรถเมล์ โดดลงเรือ ฯลฯ สารพันความเมื่อยล้าจากการเดินทางแบบเมก้าฮิตทำให้เวลานอนของ ลี่ แปรปรวน คืนหนึ่ง ลี่ ตื่นมากลางดึกและแอบขึ้นไปดื่มเบียร์และโทรศัพท์หา เป็ด บนดาดฟ้า โชคดีปนร้าย ลี่ บังเอิญไปเจอลูกจ้างหญิงกับแฟนหนุ่มกำลังแสดงหนังสดกันอยู่ จนกลายเป็นคดีอื้อฉาวกลางดึกที่นำพาให้ ลี่ ได้พบกับ ลุง อีกครั้ง และแล้วผู้ชายชื่อแปลกคนนี้ก็ทำให้ ลี่ เริ่มรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมาเป็นครั้งแรกใน 30 ฝน ลี่ คิดว่าผู้ชายที่ทั้งขาว ทั้งหล่อ ทั้งเท่ คนนี้คือขุมทรัพย์ที่เธอบังเอิญไปพบลายแทงเข้า หากเธอไม่ลงมือทำในสิ่งที่ใจต้องการ เธออาจกลายเป็นหญิงโสดคนสุดท้ายในกรุงเทพมหานคร ในตอนค่ำของวันหนึ่ง ลี่ ได้พบ ลุง อีกครั้งบนสถานีรถไฟฟ้า จึงแอบตาม ลุง ไป จนทำให้ทราบว่า ลุง กำลังจะไปทำงานในหน้าที่วิศวกรของรถไฟฟ้าบีทีเอส จากนั้น ลี่ ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนเคยคิดแต่ไม่กล้าลงมือ นั่นคือการจีบผู้ชายก่อน เริ่มจากแผนการแรกจากคำแนะนำของ เพลิน (อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) สาวน้อยข้างบ้าน คือให้เบอร์โทรศัพท์ แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ง่ายสำหรับมือใหม่หัดจีบอย่าง ลี่ เพราะเวลาของเธอและเขาไม่ตรงกันจนเหมือนอยู่คนละโลก งานนี้ เพลิน จึงรับหน้าที่เป็นผู้ช่วย แต่เมื่อ เพลิน ได้เจอกับ ลุง แผนการจีบผู้ชายของ ลี่ ท่าทางจะไม่เป็นผล เพราะ เพลิน กำลังจะแปรพักตร์จากครูไปเป็นคู่แข่งความรัก แต่ไม่ว่าจะต้องผจญอุปสรรคไหนๆ ลี่ ก็ไม่คิดถอดใจ ตั๋วรักรถไฟ (ฟ้า) เที่ยวสุดท้ายใบนี้ ลี่ สาบานว่าจะไม่ยอมให้หลุดมือเด็ดขาด
Synopsis : An urban love story set in the centre of Bangkok where thirty-year-old Mei Li struggling to find true love. When Mei Li accidentally meets a handsome BTS engineer whom she considers as the right man, she plans to make her first move. Though too many obstacles keep popping up, Mei Li will never give up.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,10/29/2009 12:39:00 AM
The Time Traveler's Wife : รักอมตะของชายท่องเวลา
ชั่งใจอยู่นานเลยว่าจะดูดีมั๊ยน๊า ไอ้เจ้าหนังเรื่องนี้ที่เป็นระบบดิจิตอล โรงฉายก็น้อยซะด้วย คิดในใจว่า ถ้าหนังมันดีจริงทำไมรอบฉายมันน้อยอย่างนี้น๊อ แต่ เอาล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ดูก็ดู ในละแวกนี้ ก็มีโรงเอสเอฟโรงเดี่ยวเนี่ยแหละที่ฉายเรื่องนี้ในระบบดิจิตอล ส่วนที่เมเจอร์เป็นระบบปกติ และพากษ์ไทยอีกต่างหาก เราก็เลยมาดูที่เอสเอฟตามระเบียบ พักหลังเราไม่ค่อยได้กินป๊อปคอร์นหน้าโรงเท่าไหร่เลย เพราะไม่ค่อยมีโปรดีดี ส่วนใหญ่ถ้าอยากกินจริงๆเราจะไปซื้อในฟูดคอร์ดแบบถูกๆ สิบบาทกินแทน เพราะประหยัดไปเป็นร้อยเลย 5555 สำหรับหนังเรื่องนี้ ตอนแรกเราเข้าใจว่าดูแล้วน่าจะซึ้งแนว somewhere intime แต่ดูแล้วไม่สามารถเทียบกีนได้เลย อาจจะเป็นที่หนังออกแนวสมัยใหม่มากๆๆ พระเอกก็แชว๊ปไปแชว๊ปมา ไปๆมาๆระหว่างอดีตกับปัจจุบันกับอนาคต ทำให้ดูแล้วไม่ค่อยมีเหตุผลว่าทำไมไปๆมาๆแบบนี้ อย่างกับคนเป็นโรคจิตมากกว่าจะเป็นคนที่มีความสามารถเดินทางผ่านกาลเวลาได้ งงดี แต่นางเอกน่ารักมากถ้าในโลกนี้ มีคนที่รักกันลึกซึ้งอย่างหนังเรื่องนี้จริงๆ คงเป็นคู่รักที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก ถ้าไม่เอาเนื้อหานะ เอาแค่ว่า คนสองคนรักกันตั้งแต่เจอกันครั้งแรก รักกันจริงๆ ขนาดที่ว่า ถึงแม้ไม่ค่อยได้พบกัน แต่เจอกันทีไรก็สุขทุกที ดูแล้วนึกถึงหนังจีนและ นิทานจีนเรื่องดาวชายเลี้ยงวัวและดาวสาวทอผ้า ที่เจ็ดปีเจอกันหนึ่งครั้ง โอย พูดแล้วทั้งเศร้าทั้งซึ้ง ดีนะ ที่ความรักของเราไม่เป็นขนาดนี้ 55555 ภาพรวมเราว่า โอเค ประทับใจในระดับหนึ่งไม่ถึงขั้นมากมายอะไร หนังดูได้เรื่อยๆ แต่อย่างที่บอกว่ามันมีความงงเกิดขึ้น ดูแล้วเหมือนคนมีกรรมควบคุมอะไรไม่ได้ แปลกๆ จะว่าไม่สนุกก็ไม่เชิง เอาเป็นว่ากลางๆ ดาราแสดงได้โอเค นางเอกสวยดี วิวก็สวย จะให้คะแนนน้อยๆก็ทำไม่ลง เอาเป็นว่าเอาไป 7.5 ก็แล้วกัน
เรื่องย่อ: แคลร์ (ราเชล แมกอดัมส์) หลงรัก เฮนรี (อีริก บานา) มาทั้งชีวิต เธอเชื่อว่าเธอและเขาถูกลิขิตมาให้อยู่ร่วมกัน ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าเมื่อไรที่พวกเขาจะต้องพรากจากกัน เพราะ เฮนรี เป็นนักท่องเวลา เขาเหมือนถูกสาปด้วยความผิดปกติทางยีนส์ ที่ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตข้ามเส้นแบ่งเวลา และกระโดดข้ามไปมาในช่วงชีวิตอย่างควบคุมไม่ได้ แม้การเดินทางของ เฮนรี จะทำให้พวกเขาต้องห่างกันโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า แต่ แคลร์ ก็ยังพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะสร้างชีวิตกับชายผู้เป็นรักแท้ของเธอ
Synopsis : Clare (Rachel McAdams) has been in love with Henry (Eric Bana) her entire life. She believes they are destined to be together, even though she never knows when they will be separated: Henry is a time traveler - cursed with a rare genetic anomaly that causes him to live his life on a shifting timeline, skipping back and forth through his lifespan with no control. Despite the fact that Henry's travels force them apart with no warning, Clare desperately tries to build a life with her one true love.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
Wednesday, October 7, 2009,10/07/2009 04:52:00 AM
Oh My Ghosts! : หอแต๋วแตกแหกกระเจิง
วันนั้นดูทีวี ได้ยินใครพูดก็ไม่รู้ว่า หนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่คนไทยรอดูมากกว่า แฮรี่ พอตเตอร์ ซะอีก เราฟังแล้วอดขำไม่ได้ ถ้าเราได้ยินคำนี้ก่อนที่จะดู เราคงเชื่อ แต่นี่เราดูมาแล้ว พอได้ยินแบบนี้ ก็อดสมเพชไม่ได้จริงๆ
เราดูหนังของพจน์มาหลายเรื่อง เรื่องแต๋วแตก นี่เป็นครั้ที่สอง ภาคที่สอง ที่เราดู โดยเรามองโลกในแง่ดีว่า เรื่องนี้ คงแก้ไข ส่วนที่แย่ที่สุดของภาคที่แล้วออกไปแล้ว ซึ่งเป็นส่วนที่แย่ได้ติดตาเรามาก คือฉากจบของตอนที่แล้วที่อุบาทว์มากๆ ดูแล้วไม่ได้มีความตลกเลย บ้าบออย่างเดียว มีการขี่จรวดกระดาษว่อนไปมา ดูแล้วอนาถ
เรื่องนี้ ไปกันใหญ่เลย มีการย้อนเวลาไปอดีต มีการปล่อยแสงสู้กันกับผี ทำไม้ทำมือ ราวกับว่า เป็นดาราหนังแขกสู้กัน แบบในหนังแนวพระศิวะ สู้กับยักษ์ก็ไม่ปาน ดูแล้วบ้าจริงๆ
หนังทั้งเรื่องมีตลกอยู่เฉพาะตอนที่มี โก๊ะตี๋ จาตุรง ตุ๊กกี้ กับ ติ๊กกลิ่นสีเท่านั้น ที่เหลือดูแล้วไม่ขำเลย เราว่า ทั้งเรื่องถ้าไม่มี สี่คนนี้ รับรองหนังไปไม่รอด เราไม่เข้าใจว่า ทำไมคนเขียนบท ที่ดีกว่านี้ไม่มีแล้วหรือยังไง บทหนังห่วยมากๆ เหมือนดูหนังการ์ตูนที่เอาคนมาเล่น เหมือนดูถูกคนดู บทพูดทั้งหมดเราสงสัยว่า คงปล่อยให้ดาราพูดกันตามสบาย เพราะดูแล้วตลกกว่าเนื้อเรื่องที่ฝืดๆมากมาย ดูแล้วเสียดายตังค์ ถ้าจะมีเรื่องที่จะต้องชม ก็ขอชมเรื่อง คนหาชุดแต่งตัวกับคนแต่งหน้า ที่ทำได้ดีมากๆ ดุแล้วตลกจนแทบตกเก้าอี้ ไม่ว่าจะเป็น ติ๊กกลิ่นสี จาตุรง โก๊ะตี๋ ตุ๊กกี้ ตลกหมด นอกนั้น ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง หรือการถ่ายภาพ การตัดต่อ ห่วยทุกอย่าง
เราผิดหวังมากๆเลย กับหนังเรื่องนี้ ทำได้หยาบมากๆ เสียดายเงิน ไม่รู้ว่า คราวหน้าจะไปดูอีกหรือเปล่า ต้องคิดให้หนักๆหน่อยแล้วล่ะ เราให้ 6.0
เรื่องย่อ : พี่คนโต พัชราภา (จตุรงค์ มกจ๊ก) กะเทยวัยกลางคน สวยตามอัตภาพ เคร่งขรึม มีความรับผิดชอบ และไม่กลัวผี เฌอมาลย์ (เอกชัย ศรีวิชัย) กะเทยคนรองที่คิดว่าตัวเองสวยตลอดเวลา ชอบแต่งตัวแฟชั่นจ๋าตามดารา และมีความสามารถพิเศษด้านการชกมวย และ การ์ตูน (ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์) กะเทยน้องเล็กสุดแอ๊บแบ๊ว ไร้เดียงสา ทำกับข้าวเก่ง และกลัวผีมาก ทั้งสามเคยร่วมกันทำกิจการหอพัก แต่กลับโดนผีสาวชื่อ น้ำนิ่ง ตามจองล้างจองผลาญจนคนในหอพักย้ายหนีกันไปหมด ทั้งสามจึงต้องระหกระเหินมาเซ้งหอพักแห่งใหม่เพื่อทำกิจการหอพักต่อไป แต่เหมือนหนีเสือปะจระเข้ ที่หอพักแห่งใหม่ พวกเธอต้องผจญกับผี อุษามณี (สุดารัตน์ บุตรพรหม) ซึ่งเคยเป็นนางรำสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นคนที่ไม่สวยด้วยหน้าตา แต่สวยด้วยจิตใจ เธอรำได้งดงามมาก ไม่โหวกเหวกโวยวาย ไม่ชอบมีเรื่องทะเลาะกับคนอื่น แต่อย่างไรก็ตาม เธอเป็นผี! สามพี่น้องพร้อมใจกันเล่นผีถ้วยแก้วหวังเรียกผี แพนเค้ก (โก๊ะตี๋ อารามบอย) ซึ่งเป็นผีนักศึกษาผู้คลั่งไคล้ตุ๊กตา บลายธ์ และมีจิตใจดีงาม ให้มาช่วยปราบผี อุษามณี แต่ด้วยดีกรีความเก๋าของผี อุษามณี ที่ตายมานานกว่า ทำให้ผี แพนเค้ก ไม่สามารถทำอะไรได้ ความวุ่นวายอลหม่านปนเสียงฮาจึงเกิดขึ้น
Synopsis : Three companions are frightened by a horrible ghost that haunts their dorm. Tired of running away, they summon a spirit to help them defeat the ghost. But things turn chaos when they can''t control and handle the situation which finally brings up a hilarious haunting story.

Labels: , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,10/07/2009 04:16:00 AM
Sorority Row : สวยซ่อนหวีด
เราข้ามถนนมาดูหนังเรื่องนี้ ที่ เอสเอฟ เพราะว่า รอบที่เราอยากดูนั้น โรงเมเจอร์ไม่ได้ฉาย ที่นี่เราก็ซื้อบัตรแบบประหยัดอีกแหละ ผ่านบัตรเครดิตกสิกร ราคา 800 ดูได้ 10 ที่นั่ง ตกที่นั่งละ 80 บาทเอง ถือว่า ไม่แพงเลยสำหรับโรงมาตรฐานแบบนี้
เราอยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะว่า โปสเตอร์ที่ปิดหน้ารงนั้น มีแต่สาวๆสวยๆทั้งนั้นเลย ดูแล้วเจริญหูเจริญตายิ่งนัก แต่เมื่อได้มาดูแล้วถึงได้รู้ว่า หนังเฮงซวยนั้นเป็นอย่างไร เรื่องนี้ เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลย เป็นการฆ่าคนของคนที่เป็นโรคจิต ซึ่งก็เป็นแนวเดียวกับหนังเมื่อหลายสิบปีก่อน เราว่าไม่ผิดหรอกที่จะเอาแนวหนังเก่ามาทำ แต่น่าจะมีอะไรเพิ่มเติมกว่านี้หน่อย ไม่ใช่ว่า เอามันแบบเดิมเลย ดูแล้วไม่มีการพัฒนาสร้างสรรค์ใดๆ ตลอดเวลาชั่วโมงครึ่งที่ดู ยอมรับว่า ดูนาฬิกาบ่อยมาก เพราะเบื่อ อยากให้จบเร็วๆ ส่วนฉากที่ฆ่ากัน แน่นอนที่สุด เหมือนหนังโบราณ ฉากส่วนใหญ่เน้นการตายที่ศีรษะ ดูแล้วไม่สบายใจเลย จริงๆแล้วเราไม่น่ามาดูเลย หลังๆเราดูหนังแนวนี้มากๆแล้ว ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ล่ะ เบื่อด้วยมั๊ง เราว่า อย่างฉากฆ่ากันที่ปาดาบอันใหญ่เข้าปากแล้วตายนั่น โอยดูแล้วหวาดเสียว ใครมันจะปาแม่นขนาดนั้นวะ โหดเกิน
ยอมรับว่า ดาราทั้งหญิงและชายเรื่องนี้ เลือกดารามาได้ดีมาก หน้าตาดูดีหมดเลย แต่แสดงไม่เก่งเท่าไหร่ เหมือนดูหุ่นกระบอก แข็งๆยังไงก็ไม่รู้
ไม่รู้ละ เราว่า เราดูแล้วรวมๆไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ เกี่ยวกับบทหนัง ดูแล้วงั้นๆ อย่างที่บอกว่าจะมีดีก็คงเรื่องเดียว คือดาราหน้าตาดีมากๆ นอกนั้นไม่ได้เรื่องซักกะอย่าง คะแนนที่ให้นี่ ให้แต่ตัวแสดงนะ เราให้ 6.2 ก็พอ
เรื่องย่อ : เธตาไพ คือชมรมหญิงล้วนของวิทยาลัย ที่ประกอบไปด้วยสาวสวยที่โด่งดังที่สุด (และเที่ยวเก่งที่สุด) ได้แก่ สาวช่างคิด แคสสิดี (บริอานา เอวิแกน) ราชินีของกลุ่ม เจสสิกา (ลีอาห์ ไพป์ส) หนอนหนังสือ เอลลี (รูเมอร์ วิลลิส) สาวสวยบ้าพลัง แคลร์ (เจมี ชุง) ผู้หญิงที่คลั่งไคล้งานเลี้ยงสุดเหวี่ยง ชักส์ (มาร์โก ฮาร์ชแมน) และสุดท้าย เมแกน (ออดรินา พาทริดจ์)ในค่ำคืนหนึ่ง ชีวิตของพวกเธอต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล เมื่อพวกเธอพบว่า แกร์เรตต์ (แมตต์ โอเลียรี) กล้าดีมานอกใจ เมแกน สาวๆ จึงรวมหัวกันคิดแผนแก้แค้น เพื่อลงโทษ แกร์เรตต์ ให้รู้สำนึก แต่การเล่นแผลงๆ นั้นเลยเถิด และจบลงที่ เมแกน ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย แทนที่จะยอมสารภาพและเอาอนาคตที่สดใสของพวกเธอไปเสี่ยง ทุกคนตกลงกันว่าจะทิ้งศพไป แล้วปิดเรื่องสยองนี้ไว้เป็นความลับตลอดกาล เวลาผ่านไป 1 ปี สาวๆ เตรียมฉลองกันสุดเหวี่ยงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจบการศึกษา แต่เมื่องานเลี้ยงเริ่มร้อนแรงขึ้น พวกเธอกลับได้รับไฟล์วิดีโอที่ส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ มันคือวิดีโอเหตุการณ์ในค่ำคืนที่ เมแกน เสียชีวิต พวกเธอไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่งวิดีโอ และคนๆ นั้นได้ขู่ด้วยว่าจะส่งหลักฐานนี้ต่อไปให้กับตำรวจ ซ้ำร้ายกว่านั้น ตอนนี้ทั้งสาวๆ และแฟนหนุ่มของพวกเธอ กำลังถูกไล่ล่าโดยฆาตกรที่ไม่มีใครเห็นตัว... ทีละคนๆ นี่หมายความว่า เมแกน กลับมาทวงหนี้แค้นจากความตายหรือ หรือความลับดำมืดนี้เล็ดลอดออกไปถึงหูคนนอกแล้ว ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็เป็นคนนอกที่ต้องการให้พวกเธอชดใช้เสียด้วยสิ สาวๆ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเร่งหาตัวคนที่ปล่อยให้ความลับแพร่งพรายออกไป หาตัวคนที่ต้องการให้พวกเธอตาย และหาวิธีโต้กลับ ขณะที่จำนวนศพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และบ้านเธตาไพกำลังลุกเป็นไฟ
Synopsis : Theta Pi is a college sorority, containing the most popular (and hardest partying) girls on campus: thoughtful Cassidy (Briana Evigan), 'Queen Bee' Jessica (Leah Pipes), bookish Ellie (Rumer Willis), crazy/beautiful Claire (Jamie Chung), party monster Chugs (Margo Harshman), and Megan (Audrina Patridge). On one night, all their lives would change. When the girls found out that Chugs' brother Garret (Matt O'Leary) cheated on Megan, they created a plan with Megan to punish him. But the prank goes terribly wrong and Megan ends up brutally murdered. Rather than confess to the crime and risk destroying their bright futures, the girls agree to hide the bloody corpse and keep their secret forever. Fast forward one year to graduation. As they prepare to say goodbye to the house, the girls plan one last alcohol-fueled bash on Sorority Row. As the party rages, the girls receive cell phone videos taken the night of Megan's murder from an anonymous sender who threatens to forward the videos to the police. Then, one by one, the sisters and their unsuspecting boyfriends are stalked by an unseen killer. Has Megan returned from the dead to exact her revenge? Or was their secret discovered by someone else - someone now determined to make them pay? Trapped, the girls race to figure out which of them let their secret slip, who wants them dead, and how to fight back as the bodies pile up and their beloved sorority house explodes into flames.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,10/07/2009 04:12:00 AM
G-Force : หน่วยจารพันธุ์พิทักษ์โลก
พอดีเราเคยซื้อบัตรแข็งจากเซ็นทรัลราคา 90 บาท แต่สามารถดูหนังที่โรงเมเจอร์ได้ในราคา 120 บาท แต่ไม่รู้ทำไม หนังสามมิติตั๋วราคาตั้ง 200 บาท เค้าก็อนุญาตให้ดูได้ด้วยล่ะ ถือว่าคุ้มมากๆเลย
เรามาดูที่สาขา บางกะปิ ซึ่งใกล้บ้านเรามากที่สุด รอบแรกซะด้วย หลังจากที่เรากินข้าวกินปลาเสร็จเราก็มาเลือกดูตั๋ว เลือกที่นั่งให้มันเหมาะๆ จะได้ดูให้มันสบายๆ โรงที่ดูเป็นโรงที่หก ซึ่งมักจะฉายหนังสามมิติ หรือ ระบบดิจิตอลเป็นประจำอยู่แล้วปรากฎว่ามีคนดูเยอะพอสมควรเลย สงสัยว่าจะเป็นเพราะปิดเทอมหรือเปล่าก็ไม่รู้ เออ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นแหละ เพราะว่ามีเสียงเด็กๆ ส่งเสียงแสดงความตื่นเต้นออกมาเป็นระยะๆ พอหนังเริ่มฉาย เราก็รู้สึกได้ถึงความสามารถในการกระเด้งออกมานอกจอ เราว่าเรื่องนี้เป็นระบบสามมิติ ที่ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีฉากที่ดูแล้วกระเด้งออกมาแบบไม่จงใจทำให้ดูแล้วได้อรรถรสมากกว่า เรื่อง Final Destination ที่เพิ่งดูไปซะอีก เพราะเรื่องนั้น ดูจงใจมาก คือส่วนใหญ่เป็นฉากที่เราเดาได้อยู่แล้วว่า มันต้องทำให้ดูเหมือนหลุดออกมานอกจอ ผิดกับเรื่องนี้ ที่บางทีเราไม่ได้นึกฝันว่า มันจะทำให้ดูหลุดออกมา ก็เลยรู้สึกดีเป็นพิเศษ
ตัวแสดงน่ารักมากๆ เป็นหนูตัวเล็กๆ มีทั้งตัวตุ่นที่ออกแบบมาน่ารักมากๆเลย เราชอบทุกตัว โดยเฉพาะเจ้าหนูเกเรในร้าน ที่ดูเจ้าเล่ห์นั่น น่ารักดีแท้ ไม่อยากเชื่อว่า เป็นคนกำกับคนเดียวกับเรื่อง The Pirate of the Caribbean เพราะเรื่องนี้ออกมาแนวหน่อมแน้ม น่ารักไร้พิษสงจริงๆ เนื้อเรื่องก็เป็นแนวครอบครัว ใจจริงเราไม่ได้นึกไว้ว่าหนังมันจะออกมาเด็กขนาดนี้เลยนะ เพราะว่าเห็นโฆษณามีแนวบู๊เล็กน้อย แต่กลายเป็นว่า เป็นแนวหนูจ๋าไปเลย
เอาน่ะ ไม่ต้องคิดมาก ดูกับเด็กๆก็สนุกไปอีกแบบ ถือว่ามาฉลองปิดเทอมกะเด็กๆก็แล้วกัน แปลกดีนะ เมื่อก่อนนี้ ถ้ามีเด็กในโรงเยอะๆแบบนี้เราจะปวดหัวแล้วก็ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยวนี้ สบายมาก แถมรู้สึกชอบให้มีเด็กเยอะๆด้วย เป็นอะไรก็ไม่รู้ 55555 จ๊อกแจ๊กจอแจดี เรื่องนี้ เราให้ตามความชอบของตัวเองนะ เอาไป 7.0
เรื่องย่อ : โครงการลับชิ้นหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา คือการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงพัฒนาบ่มเพาะให้สัตว์กลายเป็นนักจารกรรมชั้นยอด ผลลัพธ์อันสวยสดของโครงการนี้คือกลุ่มนักจารกรรมฝีมือดีนามว่า จี-ฟอร์ซ ซึ่งประกอบไปด้วยพลพรรคหนูตะเภาที่ฉลาดเป็นกรด เนื่องจากมีดีเอ็นเอเหมือนกับมนุษย์ถึงร้อยละ 98.7 ทีมจารชนระดับพระกาฬนี้ประกอบไปด้วย ดาร์วิน (แซม ร็อกเวลล์) หัวหน้าหน่วยที่มุ่งเน้นความสำเร็จของภารกิจเป็นสำคัญ บลาสเตอร์ (เทรซี มอร์แกน) ผู้ชำนาญด้านอาวุธที่เต็มไปด้วยความคิดและหลงรักความสุดขีดทุกรูปแบบ ฮัวเรซ (เพเนโลปี ครูซ) สาวสวยที่มาพร้อมลีลาหมัดมวยดุๆ นอกจากนี้ยังมีลูกมือที่ไม่ใช่หนูอย่างแมลงวันนักลาดตระเวน มูช (เอ็ดวิน หลุยส์) และตัวตุ่นจมูกดาวผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ สเปกเคิลส์ (นิโคลัส เคจ) กลุ่ม จี-ฟอร์ซ ที่พร้อมรบด้วยอาวุธสายลับที่ทันสมัยสุดๆ ตระหนักว่าชะตากรรมของโลกตกอยู่ในอุ้งมือนิ่มๆ ของพวกเขาแล้ว เมื่อมหาเศรษฐีพันล้านจอมเพี้ยน เลนนาร์ด เซเบอร์ (บิลล์ ไนฮีย์) คิดจะครอบครองโลกโดยใช้เครื่องใช้ในครัวเรือนเป็นอาวุธ จี-ฟอร์ซ จึงต้องกระโดดลงไปปฏิบัติการกิจ ขัดขวางแผนการร้ายนี้ไม่ให้สำเร็จให้ได้
Synopsis : The US government has been covertly training animals to work in espionage. Their latest program is a clandestine espionage team known as G-Force, which includes a team of ultra-intelligent guinea pigs who share 98.7 percent of their DNA with humans. Tapped for the G-Force are guinea pigs Darwin (Sam Rockwell), the squad leader determined to succeed at all costs; Blaster (Tracy Morgan), an outrageous weapons expert with tons of attitude and a love for all things extreme; and Juarez (Penelope Cruz), a sexy martial arts pro; plus the literal fly-on-the-wall reconnaissance expert, Mooch (Edwin Louis), and a star-nosed mole Speckles (Nicolas Cage), the computer and information specialist. Armed with the latest high-tech spy equipment, the G-Force discover that the fate of the world is in their paws. When a deranged billionaire hatches an evil plan to control the entire planet through common household appliances, the G-Force leaps into action on a mission to ensure that he does not succeed.

Labels: , , , ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink1 comments