Sunday, July 5, 2009,7/05/2009 04:14:00 PM
Wongkamlao : วงษ์คำเหลา
อย่างที่เคยบอกแหละว่า เป็นคนที่ไม่ชอบหม่ำเลย ไม่ชอบในแง่ของบุคลิกภาพ แต่ไม่ใช่ว่าเกลียดอะไรเค้าหรอกนะ เพียงแต่รู้สึกว่า ตลกคนนี้ ทำไมพูดจาไม่สุภาพเลย สังเกตจากในทีวี มักจะถูกดูดเสียงเป็นประจำ ทั้งในจอและ บทสัมภาษณ์ แต่มันก็คนละเรื่องกับผลงาน เรื่องผลงานเราก็ต้องถือว่า หม่ำเป็นคนที่รู้จุดคนดู ว่าจะต้องทำอะไร ยังไง คนถึงหัวเราะ และนั่นแหละ คือสิ่งที่เรานับถือตลกคนนี้ แม้ว่าเราจะมีอคติกับหม่ำนิดๆก็ตาม
เราแทบไม่เคยดูหนังที่หม่ำสร้างเลยนะ เพราะอคติที่ว่า แต่เมื่อเราโตขึ้น ( แก่ขึ้น นั่นแหละ 555 ) เราก็เริ่มแยกระหว่างตความเป็นส่วนตัว กับงาน เราเข้าใจเลยว่า ทำไมคนถึงชอบหนังของหม่ำ ก็หนังดูง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่เครียด ดูเป็นชาวบ้านมากๆ สังเกตให้ดี จะเห็นว่า หนังของหม่ำ มักเกาะกระแสหนังดัง อย่างที่ผ่านมา ก็ออกแนวบู๊ เกาะกระแสเจมส์บอน ส่วนเรื่องนี้ ดูไปได้ห้านาทีก็สรุปได้เลยว่า ล้อเลียนเรื่องบ้านทรายทอง ตัวละครก็อปปี้มาเกือบหมด ทั้งบ้านเลยก็ว่าได้ แต่เนื่องจากเราชอบเรื่อ
บ้านทรายทองอยู่แล้ว เวลามาดูหนังล้อเลยขำเข้าไปใหญ่ รวมทั้งคนดูในโรงด้วยที่ช่วยกันหัวเราะกันลั่นโรง แต่ถ้าให้เปรียบเทียบกับเรื่อง แหยมยโสธร นะ เราว่า เราชอบเรื่องแหยมมากกว่า เพลงเพราะ ดาราเล่นตลกดี เรื่องนี้ คนที่เป็นคนใช้กระเทยนั่น เราว่า เล่นแรงไปนิดนึง เลยดูกักขฬะ มากกว่าจะดูตลกอ่ะ ส่วนหม่ำเรื่องนี้ หล่อเป็นพิเศษเพราะใส่สูทตลอดเรื่อง จักจั่น เราเพิ่งเห็นเต็มตาเป็นครั้งแรก สวยมากๆๆๆๆ น่าจะมีคนจ้างมาแสดงหนังใหญ่อีก เพราะเล่นดีเหมือนกัน ดูแล้วหลงรักเลยในบัดดล
รวมๆนะ ค่อนข้างชอบ ตัวละครที่ชอบมากที่สุด เรียงตามความชอบ สี่อันดับแรก คือ ตุ๊กกี้ จักจั่น อาภาภรณ์ นครสวรรค์แล้วก็ ฉันทนา กิตติยาพันธ์ ที่เหลือก็งั้นๆ สี่คนนี้ให้คะแนนเต็มเลย เล่นดี ขำมากๆ หม่ำมาเป็นอันดับห้า เพราะบทนี้ ไม่ค่อยมีอะไรให้ขำ เพราะต้องทำหน้านิ่งหล่อ ตลอดเวลา เลยดู ธรรมดา ผิดกับ สี่คนที่ว่า บทพูดกับแอคติ้ง ตลกมากๆ รวมๆ เรื่องนี้เราให้ 7.3 นะ ก็พอดูได้ พอทนอ่ะ
เรื่องย่อ : ท่านชายเพชราวุธ (เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา) คือหนุ่มนักเรียนนอกผู้เงียบขรึม มีหน้าที่ดูแลธุรกิจมูลค่าพันล้าน วงษ์คำเหลาจิวเวอร์รี และอภิมหาคฤหาสน์อลังการประจำตระกูล นอกจากนี้ยังเป็นเสาหลักของสมาชิกตระกูล วงษ์คำเหลา ที่ว่ากันว่าแต่ละคนล้วนเอ่อล้นไปด้วยเสน่ห์เจิดจรัส โดดเด่นท้าทายทุกสายตาในสังคมชั้นสูงอย่างไม่เป็นสองรองตระกูลมหาเศรษฐีรายใดในประเทศ ความเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้นในตระกูลเมื่อ พิรมน (อคัมย์สิริ สุวรรณศุข) ครูสอนภาษาอังกฤษประจำตัวคนใหม่ของ จูเนียร์ (เฉลิมศักดิ์ แย้มขะมัง) น้องชายคนเล็กของตระกูล ปรากฏตัวขึ้น หญิงสาวผู้งามหมดจดทั้งรูปร่างหน้าตาและก้านสมองคนนี้ ทำให้ ท่านชายเพชราวุธ ผู้เก็บงำความรู้สึกเกิดอาการตกหลุมรักเข้าอย่างจัง เช่นเดียวกับ ท่านเป้า (อนุวัตน์ ทาระพันธ์) คู่หมั้นของ หญิงพราวแพรว (อาภาพร นครสวรรค์) ที่เกิดอาการตาสว่าง อยากเปลี่ยนคู่หมั้นแทบทันที ขากรี๊ดปรี๊ดแตกอย่าง หญิงพราวแพรว ยอมไม่ได้ หันไปร่วมมือกับ หญิงนุช (สุดารัตน์ บุตรพรหม) เจ้าแม่แฟชั่นที่เป็นน้องสาวของ ท่านเป้า ซึ่งกำลังตกอยู่ในภาวะแห้วรับประทานเช่นกัน เพราะจู่ๆ ก็จะต้องสูญเสีย ท่านชายเพชร ที่หมายมั่นมานานนมไป ทั้งสองร่วมกันงัดแงะกลเม็ดสุดแพรวพราวเพื่อกันท่าและขวางลำอย่างสุดชีวิต มิให้ยอดชายในดวงใจกับ พิรมน ครอบครองหัวใจของกันและกันได้สำเร็จ นอกจากนี้ ท่านชายเพชร ยังต้องแก้ไขเรื่องราววุ่นๆ ของสมาชิกตระกูล วงษ์คำเหลา คนอื่นๆ อย่างคุณหญิงแม่พราวพิลาศ (ฉันทนา กิติยพันธ์) ผู้รักความเป็นผู้ดีทุกอณูแห่งลมหายใจ หญิงใหญ่พลอยวรินทร์ (เทียมใจ วงษ์คำเหลา) สาวโสดทึนทึกสุดเฮี้ยบ ท่านปู่พรจรัส (สมชาย ศักดิกุล) ผู้ชอบเก็บตัวอย่างลึกลับ แล้วยังมีสาวใช้สุดแสบอย่าง ผักบุ้ง (สุพัฒน์ ศรีนวล) และ นายเขื่อง (เดฟ ดวงดี) ผู้เป็นทั้ง โชเฟอร์ (คนขับรถ) และ การ์เดนเนอร์ (คนสวน) ของตระกูล
Synopsis : Popular comedian turns to director, Mum Jokmok, has succeeded in his self-directed movies through the past few years. This time he's back with a romantic comedy called Wongkamlao, that he both self-directs and stars. Wongkamlao tells the story of Petcharawut (Mum Jokmok), the heir of Wongkamlao Family, an extremely wealthy family that runs jewelry business, who falls in love with Piramon (Akamsiri Suwanasuk), who is an English tutor for his own younger brother. But the love affair between the rich and the poor always comes with conditions and obstacles. Petcharawut and Piramon inevitably confront the turmoils caused by Wongkamlao's unusual family members, as well as struggle in the world of jealousy, secret, and fun of Wongkamlao.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink