Friday, May 22, 2009,5/22/2009 03:55:00 PM
Night at the Museum: Battle of the Smithsonian : ไนท์ แอท เดอะ มิวเซียม 2 มหึมาพิพิธภัณฑ์ ดับเบิ้ลมันส์ทะลุโลก
ออกจากโรง กระสือมาก็มาต่อกับหนังเรื่องนี้ ที่ตอนแรกคิดว่าน่าจะเอามา บาลลานซ์กับความห่วยของหนังเรื่องแรกได้ ที่ไหนได้ เฮ้อ ก็ไม่ได้จะสมหวังเท่าไหร่
เราเลือกลงทุนดูโรง ดิจิตอลเลยนะเนี่ย ภาพก็ชัดดีอ่ะนะ เปิดฉากมาก็พูดถึงพระเอกมีอันจะต้องกลับมาทำงานเป็นยาม พิพิธภัณฑ์ อีกรอบนึง แล้วเหตุการณ์ต่างๆก็ย้อนกลับมาอีหรอบเดิม พูดไปก็เหมือนดูหนังเรื่องเดิมอีกรอบนึงซ้ำ ไม่ว่า จะเป็น ไดโนเสา นกกระจอกเทศ ลิงตบหน้า ฯลฯ จะมีใหม่เพิ่มมาก็ ลินคอน ปลาหมึกยักษ์ แล้วก็อีก สองสามตัว นางเอกตอนนี้ก็เปลี่ยจาก โพคาฮอนทัส เป็น คนขับเครื่องบิน ( แต่ขอบอกว่านางเอกตอนนี้ น่ารักกว่าภาคแรกมากๆ ) นอกนั้น เราก็ไม่รู้จะไปคอมเม้นท์อะไรเพิ่ม เพราะหนังงั้นๆ จริงๆ
เราว่า หนังตอนนี้ เนื้อเรื่องไม่มีอะไร น่าประทับใจ ส่วนใหญ่ จะมุขเดิมๆ ตัวละครเดิมๆ ดูแล้ว ซ้ำซาก หงุดหงิดมากๆ คนดู มีประมาณ 20 คน แต่เชื่อสิว่าเรื่องนี้ รับรอง ไม่ได้เงินหรอก
รวมแล้วก็ งั้นๆ สรุปแล้ว อาทิตย์นี้ไม่มีอะไรสนุกเลย ดีใจจัง ที่จะทำให้แผนการเลิกดูหนังของเราใกล้สำเร็จแล้ว 5555 นี่ โรง House ก็ไม่ได้ไปมานานแล้วนะเนี่ย ประหยัดตังค์ไปเยอะเลย
เรื่องย่อ: แลร์รี ดาลีย์ (เบน สติลเลอร์) ลาออกจากการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยพิพิธภัณฑ์เงินเดือนน้อย ไปเป็นพนักงานคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่แล้วเขาก็ถูกดึงกลับไปสู่การผจญภัยอีกครั้ง เมื่อสิ่งจัดแสดงซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนแท้สุดๆ ของเขา ล้วนตกยุคและกำลังถูกบรรจุลงลัง เพื่อนำไปรวมกับบรรดาวัตถุโบราณขึ้นหิ้งทั้งหลายที่สถาบันสมิธโซเนียนจากนั้น แลร์รี ได้รับโทรศัพท์สุดเครียดจาก เจดีดิอาห์ (โอเวน วิลสัน) หุ่นจำลองคาวบอยจิ๋ว แจ้งให้ทราบถึงหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้นจากฝีมือของ ฟาโรห์ คาห์มูนราห์ (แฮงก์ อาซาเรีย) ที่ตื่นขึ้นจากการหลับใหลกว่า 3,000 ปี มาร่วมมือกับจอมวายร้ายในประวัติศาตร์ 3 คนคือ อิวานจอมป่วน (คริสโตเฟอร์ เกสต์) นโปเลียน โบนาปาร์ต (อเลน ชาแบต) และ อัล คาโปน (จอน เบิร์นธัล) ซึ่งต่างหมายมั่นจะยึดครองพิพิธภัณฑ์ จึงช่วยกันปลดพันธนาการกองทัพปีศาจใต้โลกมาเป็นกำลังหนุน แลร์รี เร่งรุดไปยังเมืองหลวงของประเทศ และร่วมมือกับพันธมิตรใหม่อย่าง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ (ยูจีน เลวี) ไปจนถึง อาเบ ลินคอล์น (แฮงก์ อาซาเรีย) และ อเมเลีย เอียร์ฮาร์ต (เอมี อดัมส์) ปูชนียบุคคลสาวสวยที่ทำให้เขาถึงกับอึ้ง นอกจากนี้ยังมีคนคุ้นเคยอย่าง เท็ดดี รูสเวลต์ (โรบิน วิลเลียมส์) ออกเตเวียส (สตีฟ คูแกน) ซาคาจาเวีย (มิซึโอะ เพก) แอตทิลา ชนเผ่าฮั่น (แพทริก กัลลาเกอร์) และเหล่าสิ่งมีชีวิตก่อนยุคประวัติศาสตร์ แลร์รี จะไม่ยอมให้อุปสรรคใดๆ มาขวางกั้นกองกำลังผองเพื่อนที่ตั้งใจช่วยกันจัดระเบียบห้องแสดงผลงานแห่งชาติให้กลับเข้าที่เข้าทาง ไม่ว่าจะเป็นห้องจัดแสดงผลงานอุทิศให้กับลินคอล์น ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ทางอากาศยานและห้วงอวกาศ ซึ่งพวกเขาต้องทำให้เสร็จทันก่อนฟ้าสาง
Synopsis : When the Museum of Natural History is closed for upgrades and renovations, the museum pieces are moved into federal storage at the famous Washington Museums. Larry Daley (Ben Stiller) becomes another caretaker at the Smithsonian Institution, which houses the world's largest museum complex with more than 136 million items in its collections. At the Smithsonian Institution, Kah Mun Rah (Hank Azaria), an evil Pharaoh will come to life with the reestablishing of a tablet as a magical force in the museum bringing the old exhibits such as Teddy Roosevelt (Robin Williams) and Dexter; and new exhibits like General Custer (Bill Hader) and Al Capone (Jon Bernthal) back to life, and in conflict with each other. Larry enlists the help of Amelia Earheart (Amy Adams), who he develops a romantic interest in, and together they try to put everything back in order.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,5/22/2009 03:50:00 PM
Kraseu Fud Pob : กระสือฟัดปอบ
มาแล้ว หนังไทยเฮงซวยประจำเดือน หรือ อาจจะประจำปีก็ได้ ต้องถือว่า ตัวเองโง่มากที่ตัดสินใจดูหนังเรื่องนี้ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า หนังที่ไม่มีโฆษณเลยนี่ มันผิดสังเกต ( แต่ต่อให้มีโฆษณาก็ไม่ได้แปลว่าจะดีเสอไปนะ แต่จาก ประสบการณ์ของเราเองถ้าไม่มีโฆษณาเลย อันตรายอย่างยิ่งที่จะไปดู ) เรื่องนี้ ก็เลยตอกย้ำความเชื่อของเราเข้าไปอีกว่า ห่วยสุดๆ เนื้อเรื่องแย่มากๆ ไม่มีแก่นสาร สาระอะไรเลย ไม่ได้มีความสมเหตุสมผลใดๆ เอาล่ะ มาดูด้ายความบันเทิง ตั้งแต่ผ้าม่านเปิดออก จนปิดม่านไม่ได้ก่อให้เกิดความอยากหัวเราะเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดาราก็ออกจะดี สงสัยว่าจะเอาทราย เจริญปุระ มาดึงคน แต่ทรายเองก็ไม่น่าจะรับปากเล่นหนังเรื่องนี้เลย เสียชื่อเปล่าๆ นอกจากทรายกับ เนาวรัตน์ ( ซึ่งแทบไม่ได้แสดงอะไรเลย ) กับถั่วแระแล้ว เราไม่รู้จักใครเลย ทั้งเรื่องเราว่าลงทุนไม่เกิน แสน เพราะไม่ได้ใช้ฟิล์มถ่ายทำด้วย จากภาพที่เห็น เราว่าใช้วิดีโอถ่ายทำอ่ะ ภาพไม่ชัด หนังห่วยพอๆกับเรื่องปอบที่เราไปดูคราวที่แล้ว ห่วยแตกพอกัน คนดูในโรงที่ เมเจอร์บางกะปิ รอบแรก มีประมาณ 8 คน เราไม่ได้ยินใครหัวเราะซักแอะ สงสัยกำลังสงสารตัวเองอยู่อย่างที่เรากำลังเป็น
เรื่องนี้ เราให้สอบตกนะ ด้วยเหตุผลอย่างที่บอก พูดไปแล้วก็อารมณ์เสีย คราวหน้าคราวหลัง เราจะไม่ดูหนังที่ไม่มีการประชาสัมพันธ์แบบนี้อีกแล้ว เสียความรู้สึกสุดๆ เราให้ 2.2 นะ ให้คะแนน ถั่วแระ ที่เล่นได้ โอเคที่สุด แล้ว เจ็บใจ และเสียดายเงิน คือบทสรุปของหนังเรื่องนี้
เรื่องย่อ:ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด เหตุการณ์กำลังตึงเครียด เมื่อ นายทุนหน้าเลือด (นุ้ย เชิญยิ้ม) ร่วมมือกับ หมอผีใจโหด (ถั่วแระ เชิญยิ้ม) ใช้คาถาอาคมบังคับให้ปอบสาวสุดเซ็กซี่ (ปรางค์วลัย เทพสาธร) ไล่ผู้คนทั้งหมดออกจากหมู่บ้าน แต่มีกระสือสาวแสนดี (อินทิรา เจริญปุระ) เข้ามาช่วยไว้ทุกครั้ง ทั้งกระสือและปอบจึงต้องฟัดกันนัวเนีย ห้ำหั่นกันสุดฤทธิ์ เรื่องราวเริ่มวุ่นวายและสับสนมากขึ้นเมื่ออาจารย์ หยดย้อย (ปาจรีย์ ณ นคร) อาจารย์สาวจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นำกลุ่มนักศึกษาเดินทางมาถึงหมู่บ้านแห่งนี้ เพื่อทำงานปั้นและวาดรูปบ้านทรงไทย โดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ระทึกขวัญจากกระสือและปอบกำลังรอต้อนรับทุกคนอยู่ นักศึกษากลุ่มนั้น ได้แก่ สาวสวย ติ๊ดตี่ (ชาตยา วงษ์ไทย) หนุ่มมาดมั่น ซัน (ตันติกร ตันติวัชโรดม) คู่หูอารมณ์ดี บักม่อย (ชาติวุฒิ์ รุ่งโรจน์ศุภร) และ เห็ด (ธีรพงศ์ กุลชวนชัย) เพื่อนสนิทของ ติ๊ดตี่ อย่าง ไอริณ (พรพรรณ สิทธินววิธ) และ มิกกิ (นันทรัตน์ เชาวราษฎร์) และสุดท้ายคือ ชบาแก้ว (ชวัลลักษณ์ คุณโภชน์) ผู้เป็นสีสันประจำคณะ เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดเมื่อนายทุนและหมอผีสั่งให้ปอบฆ่าผู้คนในหมู่บ้านทั้งหมด รวมทั้งอาจารย์ หยดย้อย และเหล่านักศึกษาที่ได้พบรหัส ซอยอยู่ไหน โดยบังเอิญ พวกเขาจะเอาชีวิตรอดอย่างไร แล้วกระสือสาวสวยกับนักศึกษาหนุ่มหล่ออย่าง ซัน จะสานต่อความรักจนสมหวังได้หรือไม่
Synopsis : A fight between two ghosts set in a village where people still believe in superstition. When a wicked witch doctor summons a bloodthirsty, yet sexy ghoul from her grave, the only person who can stop the dangerous ghoul is a kind-hearted, pretty girl who holds her secret: a filth-eating spirit. Meanwhile, a group of college student set a trip to the village. The finally struggle in the middle of the ghoulish fight, and find the way to stop the thrill that threatening the village.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
Sunday, May 17, 2009,5/17/2009 04:23:00 AM
Angels & Demons : เทวากับซาตาน
แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า นี่ผ่านมาเป็นอาทิตย์ที่สามแล้ว เหลือเชื่อว่า เดือนนี้ทั้งเดือนเราจะได้ดูหนังแค่ไม่กี่เรื่อง เรื่องนี้ก็นับได้ว่า เป็นเรื่องที่สองของเดือนนี้เท่านั้นเอง นึกแล้วก็ดีใจว่า เราจะทำได้จริงๆหรือเนี่ย กลัวแต่ว่า เดี๋ยวตบะจะแตกเอาเดือนหน้าอะดิ 55555
เหมือนเดิมเลย เรามาดูหนังเรื่องนี้ ที่เมเจอร์บางกะปิ แต่เราอยากดูรอบแรก เลยตีตั๋วดูตอนรอบ สิบเอ็ดโมงเช้า ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะว่า เป็นหนังที่ยาวมากเลย เลิกเกือบบ่ายสอง ก็หนังยาวประมาณสามชั่วโมงอ่ะ ทำให้เรานึกถึงตอนที่เราอ่านหนัสือเรื่องนี้ เรายังอ่านตั้งหลายอาทิตย์ ฉฆฒฯ๕ฯศณ็ษ.ฏ็อุตส่าห์ย่อเรื่องให้ตั้งเยอะแล้ว ทำให้ดูสบายขึ้นจมเลย ยังไงก็แล้วแต่ เมื่อเปรียบเทียบเนื้อเรื่องๆนี้กับ เรื่อง รหัสลับดาวินชีแล้ว เราว่า เรื่องนี้ เนื้อหาหนักกว่า เพราะเกี่ยวกับความศรัทธาของคนต่อศาสนา และ การเปิดเผยถึงความลับของจักรวาลโดยวิทยาศาสตร์ แถมยังมีระเบิดที่มีอานุภาพร้ายแรงขนาดถล่มเมืองได้เป็นเมืองๆเนื้อหาเลยดูเครียกมากๆ ในขณะที่ เดอะ ดาวินชีโคด เราว่า เนื้อเรื่องมีสเน่ห์น่าติดตามกว่า แต่ทั้งสองเรื่อง ก็ทำได้ไม่สนุกเท่าที่ใจเราคิดเลย เราว่า น่าจะทำได้ดีกว่านี้ สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นงานศิลป์ ชิ้นต่างๆตามเนื้อเรื่องมาก่อน ก็อาจดูไม่รู้ว่า อะไรเป็นอะไร แต่สำหรับเราแล้ว เราว่า ฝีมือการก๊อปปี้งานศิลป์มาใช้ในเรื่องนี้ ยังห่งชั้นมากๆ ดูปุ๊บก็รู้ปั๊บว่า ของเก๊ จริงๆแล้ว น่าจะมาจ้างคนไทยทำให้รู้แล้วรู้รอดไป น่าจะดีกว่านี้นะ
เนื้อหาเก็บรายละเอียดได้เกือบหมดตามหนังสือ แต่ในหนังไม่ยักเน้นความสัมพันธ์ของพระเอก กับ นางเอกเรื่องนี้ ทั้งๆที่ในหนังสือ บรรยายจนเรารู้สึกราวกับว่ารักกันแทบจะแต่งงานกัน แต่เรื่องนี้ แค่คนที่รู้จักกันเฉยๆ เราเลยงง ความดีความชอบเรายกให้ อีวาน แมคเกรเกอร์ ที่แสดงดี กว่าใครๆในเรื่องนี้ หน้าตาก็หล่อกว่าพระเอก เป็นกองสองกอง ขอพูดจากใจจริงว่า เราว่า ไม่น่าเอา ทอมแฮงค์มาแสดงเรื่องนี้เลย ( รวมทั้ง ดาวินชีด้วย เราว่า ลุคไม่เห็นได้เลย โอเค ฝีมือก็เรื่องนึง เราว่า ในความรู้สึกเรา เราอยากให้ ฮิวจ์ แจคแมน หรือ คนที่ลุค ประมาณ แฮริสัน ฟอร์ด แต่ไม่ต้องแก่ขนาดนั้นนะ มาแสดงน่าจะเหมาะกว่านะ เออ หรือ จะให้ แบรดอน เฟรเซอร์ ก็ได้ ยังจะดีกว่า นี่ เอา ทอมมาเล่น อ้วนจะตายชัก หน้าก็อูมเชียว ดูเหมือนพ่อครัวมากว่า ศาสตราจารย์อ่ะ
รวมๆ ดูแล้วก็สนุกดี แต่ไม่สนุกเท่า ดาวินชี ( อันนี้เราสรุปได้ตั้งแต่ตอนอ่านหนังสือแล้ว ) ดาราไม่โอเท่าไหร่ ยกเว้น อีวานแมคเกรเกอร์คนเดียว กับนางเอก ที่ดู โอเค ฉากเฉิก พอทน ชอบฉากตอนที่ ระเบิดกลางอากาศ ทำได้สวยดี ท้องฟ้าเปลี่ยนสีเลย ดู โอมากๆ แต่ด้วยพลังของระเบิดเราว่ามันน่าจส่งผลกระทบกับคนละสิ่งต่างๆบนโลกมากกว่านี้นะ อย่างอื่นๆก็งั้นๆ เอาเป็นว่า หนังแค่สอบผ่าน แต่ไม่โดนใจเราเท่าไหร่ เราให้ 7.4
เรื่องย่อ : โรเบิร์ต แลงดอน (ทอม แฮงค์ส) นักสัญลักษณ์วิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ค้นพบหลักฐานการคืนชีพของ อิลลูมินาติ ภราดรลับหรือองค์กรลับที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งที่องค์กรนี้น่าจะสูญหายไปนานแล้ว ทำให้เกิดคำถามมากมาย ใครกันที่อยู่เบื้องหลัง ใครนำอิลลูมินาติกลับคืนมาใหม่ และพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ แลงดอน ยังพบด้วยว่า อิลลูมินาติกำลังคุกคามศัตรูที่พวกเขาเกลียดชังที่สุดอย่างร้ายแรงถึงขั้นเอาชีวิต ศัตรูดังกล่าวคือคริสตจักรคาธอลิก หลังจากพระสันตะปาปาสิ้นลง มีการจัดประชุมลับเพื่อเลือกหนึ่งในผู้มีคุณสมบัติทั้งสี่ขึ้นเป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่ แต่ก่อนที่การลงคะแนนเสียงจะเริ่มขึ้น พระผู้มีคุณสมบัติทั้งสี่กลับถูกสังหารไปทีละคน ฆาตกรได้ทิ้งเงื่อนงำไว้ด้วยว่า เขาหรือเธอเป็นคนของอิลลูมินาติ เมื่อ แลงดอน รู้ว่าระเบิดเวลาที่พวกอิลลูมินาติวางไว้เริ่มนับถอยหลังแล้ว เขาก็รีบเดินทางไปยังกรุงโรม และได้ร่วมมือกับ วิตตอเรีย เวตรา (ไอเยเลต ซูเรอร์) นักวิทยาศาสตร์สาวสวยผู้ลึกลับชาวอิตาเลียน แลงดอน และ วิตโตเรีย พากันผจญภัยไปตามห้องใต้ดินที่ถูกปิดผนึกไว้ หลุมฝังศพแสนอันตราย วิหารที่ถูกทิ้งร้าง หรือแม้แต่ใจกลางอุโมงค์ที่ลึกลับที่สุดในโลก พวกเขาต้องแกะรอยตามสัญลักษณ์ที่มีอายุยาวนานถึง 400 ปี ซึ่งเป็นความหวังแห่งการอยู่รอดเพียงหนึ่งเดียวของวาติกัน
Synopsis : Harvard symbologist Robert Langdon (Tom Hanks) discovers evidence of the resurgence of an ancient secret brotherhood known as the Illuminati - the most powerful underground organization in history which was long thought to be extinct. So who is the mastermind? Who revived the Illuminati? And what do they want? Langdon also faces a deadly threat to the existence of the secret organization's most despised enemy: the Catholic Church. The Pope died and the conclave has been called for. 4 candidates were chosen. However, before the voting, the 4 candidates are killed one by one. The killer leaves clues that seems to say that he/she is from the Illuminati. Langdon learns that the clock is ticking on an unstoppable Illuminati time bomb, he jets to Rome, where he joins forces with Vittoria Vetra (Ayelet Zurer), a beautiful and enigmatic Italian scientist. Embarking on a nonstop hunt through sealed crypts, dangerous catacombs, deserted cathedrals and even to the heart of the most secretive vault on earth, they will follow a 400-year-old trail of ancient symbols that mark the Vatican's only hope for survival.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments
,5/17/2009 04:18:00 AM
The Horsemen : อำมหิต 4 สะท้าน
ถือได้ว่าเป็นการเข้าช่วงสำคัญของชีวิตเรา เกี่ยวกับเรื่องการวางแผนลดการดูหนังโรงได้อย่างสวยงามที่สุด และตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป ตามที่เราได้สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่า จะลดปริมาณการดูหนังลงนั้น สัปดาห์นี้ มีหนังเข้าสามเรื่อง แต่เราเลือกดูเรื่องนี้เรื่องเดียวที่ เมเจอร์บางกะปิ (แหม ก้อ ผลัดกันกับฝั่งตรงข้าทบ้างนะ ไม่งั้น เดี๋ยวเงินจะเทไปฝังเดียว ดูลำเอียงเกินไปนิด 555 )
ตอนแรกก็คิดหนักเหมือนกันแหละว่า จะดูดีมั๊ยเนี่ย เพราะตอนที่ดูโฆษณาหนังตัวอย่าง ค่อนข้างหวาดเสียวมีฉากเอาฟันคนมาใส่ถุงโชว์เป็นซี่ๆ ดูแล้วหวาดเสียวมั่กๆ) แต่ด้วยควงามคิดถึง จางซิยี่ ก็เลย เอา ดูก็ดู
หลังกินข้าวกินปลามื้อเที่ยงจาก ศูนย์อาหารโลตัสชั้นสองเสร็จ ก็ขึ้นไปดูเลย ปรากฏว่า หนังที่คิดว่า น่าจะสนุกเมื่อดูไปซัก สิบ นาที ก็เริ่มไม่ค่อยสนุกละ ขอสารภาพว่าคงเป็นเพราะความไม่ค่อยรู้เรื่องย่อมาก่อนมั๊งเลยทำให้ ดูไม่ค่อยเข้าใจ ว่า ทำไมผู้หญฺงที่สวยน่ารักอย่าง จางซิยี่ ถึงได้มาฆ่าคนอย่างเหี้ยมโหดขนาดนั้น ดูแล้วก็ไม่ค่อยมีเหตุผลซักเท่าไหร่ ไปไปมามาคนรอบตัวพระเอกทั้งเรื่องกลายเป็นฆาตกรไปได้ไงก็ไม่รู้ ลูกชายพระเอกก็เอากะเค้าด้วย
จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราดูไม่สนุกเลย ไม่ค่อยชอบเนื้อเรื่องซักเท่าไหร่ อีกอย่างเราเองก็หาความสัมพันธ์กับเจ้า Horsemen ในไบเบิ้ล และสาเหตุการฆ่าคนไม่ค่อยจะปะติปะต่อ รวมความแล้วคือ ไม่ชอบ
สรุป เสียดายเงิน แต่ก็ดีแล้วล่ะ เสียดายมากๆ อีกหน่อยจะได้เลิกดูหนัง 555 ดาราดีซะเปล่า เราโทษคนเขียนบทนะเรื่องนี้ บทไม่ดีเลย เลยพาลทำให้ดูหนังแล้วเสียอรรถรสไปด้วย เฮ้อ ไม่น่าเลย เรื่องนี้เราให้ 5.2
เรื่องย่อ : หลังจากภรรยาของเขาจากไปก่อนวัยอันควร ไอแดน เบรสลิน (เดนนิส เควด) ก็ห่างเหินกับ อเล็กซ์ (ลู เทย์เลอร์ พุชชี) และ ฌอน (เลียม เจมส์) ลูกชายทั้งสองของเขามากขึ้นทุกที ส่วนเรื่องหน้าที่การงานนั้น เขาเป็นตำรวจนักสืบประสบการณ์สูง ที่กำลังตามสอบสวนคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดวิปริตคดีหนึ่ง ที่มีการสังหารเหยื่อโดยอ้างอิงจากคำทำนายเกี่ยวกับสี่อัศวินแห่งวันโลกาวินาศในคัมภีร์ไบเบิล สี่อัศวินนั้นประกอบด้วย อัศวินม้าขาว เจ้าแห่งการล่อลวงและเป็นผู้นำทัพเข้าสู่สงคราม อัศวินม้าแดง นักรบสุดเจ้าเล่ห์ที่ประสงค์ให้มนุษย์ฆ่าฟันกันเอง ภายนอกไร้พิษภัยแต่ภายในเต็มไปด้วยความกราดเกรี้ยว อัศวินม้าดำ ผู้ครอบงำจิตใจและทรราชแห่งความมืด จิตใจไม่ปกติแต่ก้าวนำความคิดของทุกคนเสมอ และสุดท้าย อัศวินม้าสีซีด เพชรฆาตสังหารที่มีกำลังมหาศาล มุ่งหวังที่จะมอบความตายให้เหยื่อด้วยความแม่นยำ ยิ่ง เบรสลิน ถลำลึกลงไปในคดีนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งมองเห็นความสัมพันธ์อันน่าสะพรึงกลัวระหว่างตัวเขาเองกับผู้ต้องสงสัยทั้งสี่คนมากขึ้นเรื่อยๆ
Synopsis :At home, hardened police detective Aidan Breslin (Dennis Quaid) has grown increasingly distant from his two young sons Alex (Lou Taylor Pucci) and Sean (Liam James) since the death of his wife. At work, he finds himself thrust into an investigation of perverse serial killings rooted in the Biblical prophecy of the Four Horsemen of the Apocalypse.The Four Horsemen are The White Horsemen, a master of deception and the unexpected leader hell-bent on conquest; The Red Horsemen, a sharp-witted warrior intent on turning man against man, with an innocence that hides a burning rage within; The Black Horsemen, a manipulative and dark tyrant, unbalanced but always one step ahead; and The Pale Horsemen, an executioner with disarming strength, determined to spread death through surgical precision.As Breslin grapples with each new revelation in the case, he slowly discovers a shocking connection between himself and the four suspects.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink0 comments