Tuesday, October 7, 2008,10/07/2008 12:20:00 AM
You Dont Mess with the Zohan : อย่าแหย่โซแฮน
สารภาพตามตรงว่า ไม่ได้ไปดูหนังเรื่องนี้ ที่โรง บังเอิญมีคนเอาดีวีดีมาให้ดูฟรีๆ เราก็ดูดิ ประหยัดตังค์ อีกอย่างหนังเรื่องนี้ เป็นแนวตลก ดูในทีวีก็คงไม่เสียอรรถรสไปซักกี่มากน้อยมั๊ง
บอกได้คำเดียวว่า หนังตลกมากๆ ทะลึ่งมากๆด้วย ดูแล้วขำตลอดเรื่อง ไม่เสียแรงเลยที่เราติดตามผลงานของ อดัม แซนเลอร์มาตลอด คนบ้าอะไรก็ไม่รู้ ทำอะไรก็ตลก เก่งสูสีกับ มินสเตอร์บีนเลย
ฉากที่เราชอบก็ตอนแรกเลย เว่อร์มากๆ จะว่าไปก็เว่อร์ทั้งเรื่งแหละ มันถึงได้ตลกไง ไม่เวอร์แล้วจะตลกเหรอ 555 เนื้อเรื่องก็แสนจะบ้า จากคนที่เก่งเรื่องบู๊ กลายมาเป็นช่างทำผม คิดดูดิ บ๊องสุดๆ แถมยังเอาใจสาวๆเก่งจนสาวๆติดทั๋วเมืองไม่ใช่แค่สาวๆนะ แก่ๆก็ด้วย
สรุปแล้ว ตลกบ้า ฮาทั้งเรื่อง แทบไม่ได้หยุดหัวเราะ ดูแล้วคุ้มเงิน เพราะเราอยากหัวเราพอยู่พอดี ดีกว่าไปดูหนังบางเรื่องที่คุยว่าลงทุนเยอะแยะ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้เรื่อง ต้องเรื่องนี้ ไม่มีการคุยเลยว่า ลงทุนหลายล้าน แต่ตลกโคตรๆ เราให้ไปเลย 8.5
เนื้อเรื่องย่อ จาก http://www.nangdee.com/
ทหารคอมมานโดชาวอิสราเอล โซฮาน ดิเวียร์ (อดัม แซนด์เลอร์) ผู้เป็นที่รู้จักของคนทั่วประเทศในฐานะ เดอะ โซฮาน เป็นนักต่อต้านผู้ก่อการร้ายที่โด่งดังที่สุดของประเทศ เดอะ โซฮาน ผู้มากความสามารถและดูเหมือนจะไร้เทียมทาน มีความชำนิชำนาญในการหลีสาวพอๆ กับการกำจัดศัตรู ซึ่งรวมถึงศัตรูคู่อาฆาตของเขา ผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ แฟนทอม (จอห์น เทอร์ทูโร) แต่เดอะ โซฮานได้ปิดบังอะไรบางอย่างไว้...แม้ว่าเขาจะรักประเทศของเขา แต่เขาก็เบื่อหน่ายกับการสู้รบเต็มที และเขาก็โหยหาโอกาสที่จะหนีไปให้พ้นๆ จากกองทัพและแสดงออกถึงความคิดสร้างสรรค์ของเขาด้วยการผันตัวไปเป็นช่างทำผม แต่ตราบใดที่เขายังคงรบกับพวกผู้ก่อการร้ายอยู่ ความฝันของเดอะ โซฮานก็เป็นไปไม่ได้ ทำให้เขาต้องนอนร้องไห้ทุกค่ำคืนเมื่อได้ดูภาพจากหนังสือสไตล์แต่งผมปี 1987 ของ พอล มิตเชล ที่เขาแอบซ่อนไว้ในห้องนอน
แต่แล้วโอกาสก็เข้ามาหาเดอะ โซฮานเมื่อแฟนทอมปรากฏตัว แทนที่จะกำจัดเขา เดอะ โซฮานกลับแกล้งกุเรื่องการตายของเขาและหลบหนีไป ทิ้งให้แฟนทอมหลงดีใจว่าในที่สุด เขาก็กำจัดเดอะ โซฮานได้สำเร็จ หลังจากที่เขาแอบซ่อนตัวบนเครื่องบินไปนิวยอร์กโดยมีเพียงแค่ความฝันกับเสื้อผ้าติดตัวไป เดอะ โซฮานก็ซ่อนตัวในตู้คอนเทนเนอร์พร้อมกับสุนัขสองตัว ชื่อ สแคร็ปปีและโกโก
จุดหมายแรกของเดอะ โซฮานคือซาลอนพอล มิตเชล ที่ซึ่งเขาแฝงตัวเข้าไปในนาม “สแคร็ปปี โกโก” “สแคร็ปปี” ด้วยความหวังว่าจะมีคนจ้างเขา แต่เขากลับถูกล้อเลียนเรื่องสไตล์เฉิ่มเบ๊อะของเขาเสียนี่ แต่เดอะ โซฮันก็ไม่ยอมให้เรื่องแค่นี้มาหยุดยั้งความตั้งใจที่จะคิดทรงผมที่สลวยสวยเก๋ได้หรอก
ในคืนนั้นเอง เดอะ โซฮานก็ได้เหยียบเข้าดิสโก้อเมริกาเป็นครั้งแรก แม้ว่าเขาจะยืนยันกระต่ายขาเดียวว่าเขาชื่อสแคร็ปปี โกโก แต่เขากลับถูกจดจำได้โดยอูรี ผู้อพยพชาวอิสราเอลที่จดจำฮีโรจากบ้านเกิดของเขาได้ทันที เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เดอะ โซฮานยังแข็งแรงปึ๋งปั๋งดี แถมมาอยู่ในนิวยอร์กซะด้วย อูรีสัญญาว่าจะเหยียบเรื่องของเดอะ โซฮานไว้เป็นความลับ
หลังจากถูกซาลอนแห่งแล้วแห่งเล่าปฏิเสธ เดอะ โซฮานก็ไปเยี่ยมอูรีที่ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าของเขา และก็ต้องตกใจเมื่อได้เห็นว่าในย่านนี้ ชาวอิสราเอลและปาเลสไตน์อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข อูรีรู้ดีว่าเดอะ โซฮานควรจะไปที่ไหน...ซาลอนเก่าซอมซ่อที่มีลูกค้าค่อนข้างอายุมากไงล่ะ ติดอยู่แค่อย่างเดียวเท่านั้น คือมันอยู่ในฟากคนอาหรับ ตอนแรก เดอะ โซฮานก็ลังเล เขามาที่นี่ก็เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบ แต่เขาจะสามารถทำงานให้พวกปาเลสไตน์ได้จริงๆ น่ะหรือ ดาเลีย (เอ็มมานูเอล ชรีควี) เจ้าของซาลอนเองก็ลังเลใจเหมือนกัน เพราะ “สแคร็ปปี โกโก” ไม่เคยมีประสบการณ์ในการตัดผมมาก่อน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำตามความฝัน เดอะ โซฮานก็ตื๊อจนดาเลียใจอ่อน “สแคร็ปปี โกโก” อาจจะต้องทนกวาดพื้นโดยไม่ได้รับค่าจ้าง แต่เขาก็ได้เริ่มต้นแล้ว...
....และไม่นานนัก เขาก็ได้โอกาสเมื่อช่างทำผมคนหนึ่งของดาเลียลาออกโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า เมื่อลูกค้าคนแรกของเขานั่งเก้าอี้ เดอะ โซฮานก็คว้าโอกาสทองนี้ไว้ แม้ว่าเขาจะตัดผมได้แต่สไตล์โบร่ำโบราณจากหนังสือของพอล มิตเชล แต่ลูกค้า ที่หลงใหลได้ปลื้มไปกับการพูดจาและลีลาตัดผมที่แสนเร้าใจของเขา ก็ชื่นชอบผลที่ออกมามาก ความฝันของเขากลายเป็นโชคชะตาของเขา และในไม่ช้า ก็เกิดคำบอกเล่าปากต่อปากในหมู่หญิงชราชาวนิวยอร์กว่าไปหาสแคร็ปปี โกโกสิ แล้วคุณจะชอบ

ทุกอย่างไปได้สวยสำหรับเดอะ โซฮาน ความฝันของเขากำลังเป็นจริง ธุรกิจกำลังเฟื่องฟู ทำให้ดาเลียสามารถจ่ายค่าเช่าแพงขูดเลือดขูดเนื้อของเจ้าของที่คนใหม่ได้ แถมความรักระหว่างเขากับดาเลียก็กำลังผลิบานเสียด้วย แต่ปัญหาก็กำลังคืบคลานเข้ามา
ซาลิม (ร็อบ ชไนเดอร์) คนขับแท็กซีชาวปาเลสไตน์ที่มีความแค้นยาวนานกับเดอะ โซฮาน จำเขาได้และตั้งใจเอาไว้ว่าจะเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาให้ได้ หลังจากความพยายามในการกำจัดเดอะ โซฮานล้มเหลว ซาลิมก็บอกแฟนทอมให้รู้ว่าเดอะ โซฮานยังมีชีวิตอยู่ และผู้ก่อการร้ายตัวเอ้ก็ได้สยายปีกสู่นิวยอร์ก
สำหรับเดอะ โซฮาน นี่มันเป็นหายนะชัดๆ ไม่ใช่เพราะเขากลัวแฟนทอมหรอกนะ แต่เพราะเขามาที่อเมริกาเพื่อจะทิ้งการสู้รบไว้เบื้องหลังแต่ สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือเขาและแฟนทอมจะต้องจับมือกันเพื่อร่วมต่อต้านศัตรูหนึ่งเดียวที่จะทำลายย่านที่อยู่ของพวกเขา
Synopsis from http://www2.reeltime-cinemas.co.uk/
In You Don’t Mess With the Zohan, a comedy from screenwriters Adam Sandler, Robert Smigel (Triumph the Insult Comic Dog), and Judd Apatow (Knocked Up), Sandler stars as Zohan, a top Israeli commando who fakes his own death in order to pursue his dream: becoming a hairstylist in New York. Though he wants to put his life of counter-terrorism behind him, he quickly finds that it is not so easy to escape one’s roots. As enemies old and new try to take him out, they will all come to learn the same thing: you don’t mess with the Zohan.

Labels: ,

 
posted by Apica Rungsiuthai
Permalink