อาทิตย์นี้มีหนังเข้าแค่ สองเรื่องเอง ตอนแรกตั้งใจจะใช้ตั๋วฟรี ซึ่งหมายความว่า อาทิตย์นี้จะไม่ได้ดูหนังเลย เพราะว่ากฎของตั๋วฟรีคือจะต้องดูหนังที่เข้าไปแล้วหน่งสัปดาห์
ตัดอกตัดใจ ใช้บัตรกำนัลก็ได้ ( เฮ้ย แล้วมันแตกต่างจากตั๋วฟรียังไง 555 ) ไปดูที่เมเจอร์เสรีเพราะวันนั้น มีธุระที่นั่นพอดีพอดิบ ไปจองตั๋วรอบ 13.30 ตั้งแต่ เที่ยง แต่เชื่อมั๊ยว่า ที่นั่งเหลือไม่กี่ที่เอง เฮ้ย อะไรมันจะฮอทขนาดนั้นวะเนี่ย นึกในใจ เอาวะ มีที่นั่งเหลือแถวบนสุดอยู่ที่นึง ใกล้ๆทางเดินขวาสุด อ๊ะเอาก็ได้ ดูก็ดู
เราไม่ได้มาโรงตรงเวลาเท่าไหร่หรอก ค่าที่ว่าเราเลือกที่นั่งริมทางเดิน เราขี้เกียจดูหนังตัวอย่างอ่ะ แต่ที่รู้รู้ ตอนนี้มีหนังน่าดูอยู่ 4 เรื่องคือ Friendship , Mummy 3 , Journey to the center of the earth , Three Kingdoms เราบอกตัวเองไว้แล้วว่าจะต้องดูให้ได้เลย 5555
.jpg)
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mummy3 น่าดูสุดๆ ก็เรานี่แหละ เป็นแฟนหนังแนวหาสมบัติเลย ไม่งั้นเราจะชอบ อินเดียน่าโจนส์เรอะ
เข้าโรงเสร็จ ก็เจอสิ่งที่ไม่น่าอภิรมย์อันดับหนึ่งเลย คือ กลิ่นข้าวโพดคั่ว คั่วได้เหม็นไปทั้งโรงดีมาก นึกไม่ออกว่า คนออกแบบโรงหนังเครือนี้ ใช้อะไรคิด ให้กลิ่นมันเข้าโรงได้มากขนาดนี้ น่าจะไปศึกษาวิธีการออกแบบของโรงเครือเอสเอฟดูมั่งนะ เจ้านั้น เค้ามีจุดขายข้าวโพดมากจุด แต่ไม่ยักมีกลิ่นเข้ามาในโรงเลย
เอาอีกละ อีกเรื่องนึง ก็คือ สงสัยวันนี้จะเป็นวันโลกาวินาศ นั่งได้ไม่ทันไร พอดีหนังฉาย ผู้หญิงกับผู้ชาย ทางด้านขวามือของเราก็เริ่มคุยกันด้วยเสียงอันดัง เรียกได้ว่าเหมือนมาดูกันสองคนที่บ้านเลย ผู้หญิงก็อ่านซับไทยไป ให้ผู้ชายฟัง ไม่รู้ว่า ตัวผู้ชายอ่านหนังสือไม่ออก หรือว่า ตามองไม่เห็นก็ไม่ทราบได้ อ่านได้อ่านดี ไม่รู้ว่า คนอื่นจะรำคาญหรือเปล่า แต่ข้าพเจ้าขอบอก
.jpg)
ตามตรงว่า รำคาญมากๆ
ทาด้านซ้ายมือของเรา เป็นสองแม่ลูก อายุน่าจะซัก 8 ขวบ เป็นเด็ผู้หญิงวัยกำลังช่างพูดเลย สองแม่ลูกคู่นี้ กลัวหนาวขนาดหนัก หอบเอาผ้าผวยมาดูหนังด้วย ตัวแม่ไม่เท่าไหร่ แต่ตัวลูกนี่สิ ดูท่าจะตื่นเต้นมาก ไม่ว่าฉากไหนๆ เธอจะต้องมีอารมณืร่วมกับหนังแทบทุกฉาก แล้วหนังเรื่องนี้ ก็แนวแอคชั่นซะด้วย เอาเป็นว่า เราดูหนังสนุกมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะมีตัวช่วยถึงสองข้าง ( ข้างซ้าย และ ข้างขวา มาช่วยให้เราฝึกความอดทน มั๊ง )
หนังก็สนุกดี ถ้าไม่มี มารซ้ายขวาที่เล่ามา ครึ่งเรื่องแรก ก็ออกแนวบู๊ตลก แต่พอคึ่งหลังนี่ ออกแนวรัก โรแมนกะติกเฉยเลย ปรากฎว่า วิล สมิท เป็นเทวดาแฮะ เทวดาความจำเสื่อมสุดท้ายก็เจอแฟนเก่า แต่มีข้อแม้ว่า อย่ใกล้กันไม่ได้ จะทำให้พลังหด แล้วก็จะต้องตายในที่สุด หนังหยอดตอนจบเอาไว้ เหมือนกับจะบอกคนดูว่า อย่าลืมมาดูภาคสองนะจ๊ะ ( ตามระเบียบ )
.jpg)
สรุป เรื่องนี้ เราให้ 8.5 นะ เพราะเราไม่ค่อยชอบ วิล ซักเท่าไหร่ ( แต่ที่เห็นรูปวิลล เยอะ นี่ก็ไม่ได้แปลว่าเราพิศวาส หรอกนะ แต่หารูปเรื่องนี้ ไม่ค่อยได้ 555 ) แต่นางเอก น่าตาน่ารักมากนะ ไม่เคยเห็นเล่นเรื่องไหน หรือเห็นแล้วจำไม่ได้ก็ไม่รู้ มีฉากนึงนางเอกใส่เสื้อรัดรูป ตู๊ม มากๆเลย 555 เนื้อเรื่องสนุกดี ทำ CG ก็ดี สมจริงดี ยิ่ง๖อนฉากที่โยน ปลาวาฬ ลงไปในทะเล นี่ เหมือนมากๆ ฉาก เอารถไปเสียบบนตึก เหมือนลูกชิ้นปิ้งนั่นก็ดี จี้ดี แต่หนังหักมุมตรงกลางเรื่องทำให้อารมณ์เราเปลี่ยนปุบปับ แต่ก็พอทนอ่ะนะ
เนื้อเรื่องย่อ จาก :
http://www.movieseer.com/ .jpg)
ใครๆ ก็รู้ดีว่าซุปเปอร์ฮีโร่ ต้องมีพลังวิเศษ และมีภาระหน้าที่มากมาย แต่ไม่ใช่...แฮนค็อค” รับบทโดย วิล สมิธ ที่ได้รับฉายานามว่าเป็นฮีโร่มาดเซอร์ผู้ไม่เอาอ่าว แถมยังเป็นนักดื่มตัวยง จึงกลายเป็นที่เกลียดชังของคนทั้งเมือง เพราะที่ไหนมีแฮนค๊อคที่นั้นจะต้องมีแต่ความเสียหาย แต่สำหรับ เรย์ รับบทโดย เจสัน แบทแมน พีอาร์หนุ่มมือหนึ่งที่แฮนค๊อคได้ช่วยชีวิตเค้าไว้ ได้ยื่นมือเข้าช่วยเพื่อกอบกู้ภาพลักษณ์ของแฮนค๊อคซะใหม่ให้ดูดีไร้ที่ติ ระหว่างนี้เองที่แฮนค็อคได้เจอกับแม่บ้านสาวสุดเซ็กซี่ แมร์รี่ รับบทโดย ชาร์ลีส เทียรอน ภรรยาสาวสวยของพีอาร์หนุ่ม และเพราะเหตุนี้เองความชุลมุนวุ่นวายจึงได้เริ่มขึ้น
Synopsis from :
http://www.movieseer.com/There are heroes... there are superheroes... and then there's Hancock (Will Smith). With great power comes great responsibility -- everyone knows that -- everyone, that is, but Hancock. Edgy, conflicted,
.jpg)
sarcastic, and misunderstood, Hancock's well-intentioned heroics might get the job done and save countless lives, but always seem to leave jaw-dropping damage in their wake. The public has finally had enough -- as grateful as they are to have their local hero, the good citizens of Los Angeles are wondering what they ever did to deserve this guy. Hancock isn't the kind of man who cares what other people think -- until the day that he saves the life of PR executive Ray Embrey (Jason Bateman), and the sardonic superhero begins to realize that he may have a vulnerable side after all.
.jpg)